‘บัญชัย ครุจิตร’ PORTที่1...ที่นึกถึงโลจิสติกส์

[caption id="attachment_222660" align="aligncenter" width="500"] บัญชัย ครุจิตร[/caption]

บัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอลฯ (PORT) ผู้บริหารรุ่นใหม่ในวัย 30 ปี ลูกชายคนที่ 2 ของ “ทวีศักดิ์-เสาวคุณ ครุจิตร” และ เป็นหลานของ “สมชัย ครุจิตร” เจ้าของบริษัท ศรีเจริญ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์เหล็ก ลักกี้ และตู้เซฟนิรภัย “คิงดอม” ที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจเหล็กในกลุ่มของสหไทย สตีล ผู้ผลิตและส่งออกผลิต ภัณฑ์ท่อเหล็กรายใหญ่ แตกไลน์สู่ธุรกิจอุตสาหกรรมท่าเรือเอกชนที่ใหญ่ที่สุด ยึดพื้นที่ริมผืนนํ้าเจ้าพระยา บนถนนปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ ด้วยทำเลที่ตั้งของท่าเรือ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เป็นเส้นทางใกล้ๆ ใช้เวลาเพียง 10 นาทีจากถนนพระราม 3 ขึ้นสะพานภูมิพล แล้วยังเชื่อมโยงไปฝั่งตะวันตก สมุทรสาคร นนทบุรี นครปฐม หรือเชื่อมโยงไปตะวันออก (ถนนบางนา-ตราด ) ก็สะดวก

ท่าเรือสหไทยมีจุดเริ่มต้นจากธุรกิจผลิตและส่งออกท่อเหล็ก ที่มีโวลุ่มส่งออก-นำเข้าเหล็กจำนวนมาก ทำให้ “ทวีศักดิ์” มองเห็นความสำคัญของโลจิสติกส์ ที่จะมารองรับการขนส่งเหล็กของกลุ่มเหล็กสหไทย จึงได้เช่าพื้นที่และตั้งบริษัท ท่าเรือ ชายฝั่ง สหไทย จำกัด (Sahathai Coastal Seaport) ขึ้นมาเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา

[caption id="attachment_222671" align="aligncenter" width="696"] ทวีศักดิ์ ครุจิตร[/caption]

ช่วงปี 2011 ที่ครอบครัวขาดผู้นำคนสำคัญ “ทวีศักดิ์” และ “เสาวคุณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ต้องลงมาดูแลกิจการเหล็ก ไปพร้อมๆ กับธุรกิจท่าเรือ ทำให้ “บัญชัย” หรือ “วิน” ลูกชายคนที่ 2 ซึ่งขณะนั้นศึกษาปริญญาโทด้านโลจิสติกส์ อยู่ที่ประเทศอังกฤษ ถูกเรียกตัวกลับมาช่วยงานทันที ทั้งที่มีแผนจะหาประสบการณ์ทำงานกับบริษัทต่างประเทศสักระยะหนึ่ง เพื่อนำมาใช้บริหารธุรกิจของครอบครัว

[caption id="attachment_222672" align="aligncenter" width="314"] เสาวคุณ ครุจิตร[/caption]

ภารกิจหน้าที่หลักของ “วิน” ที่ “เสาวคุณ” ผู้เป็นแม่มอบหมายให้ก็คือ ธุรกิจโลจิสติกส์ ของกลุ่มสหไทย เป็นงานสายตรง ตามที่ได้ศึกษามา จากนั้น “วิน” ก็ รีแบรนด์บริษัทด้วยการเปลี่ยนชื่อจาก “ท่าเรือ ชายฝั่ง สหไทย” เป็น “สหไทย เทอร์มินอล” (PORT) เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารจัดการท่าเรือ ให้เทียบเท่าท่าเรือสากล “เทอร์มินอล” และชื่อย่อตัวหุ้น PORT ที่ให้จำง่าย ติด ปากนักลงทุน เพราะ Port ความหมายก็คือ ท่าเรือ ซึ่งรองรับการให้บริการลูกค้า สายการเดินเรือ 15 ราย ฐานลูกค้าสำคัญที่อยู่กับ Port มานาน เป็นเส้นทางธุรกิจ
“วิน” เล่าว่า ธุรกิจเหล็กของ สหไทย สตีล มีแผนจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่นเดียวกัน แต่ “สหไทย เทอร์มินอล” กลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เร็วกว่า จากการเติบโตของการส่งออก-นำเข้า ประกอบกับธุรกิจ การได้สัมปทานจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทำลานเก็บตู้สินค้า (ตู้คอนเทนเนอร์) ที่แหลมฉบัง ตั้งแต่ปี 2004 กระทั่งปี 2015 มีสายเรือมาขอซื้อ ทางบ้านจึงมุ่งมั่นบริหารท่าเรือสหไทย เทอร์มินอล พัฒนาการขึ้นไปถึงการร่วมทุน 51% กับ MOL ของกลุ่มมิตซุย ตั้งบริษัท บางกอกบาร์จ เทอร์มินอล (BBT)

เพื่อขยายท่าเรือในบริเวณปู่เจ้าสมิงพราย ขึ้นอีกท่า บนพื้นที่ 38 ไร่ พร้อมๆ กับการซื้อที่ดินเพิ่มเติม 37 ไร่ ทำธุรกิจลานตู้ภายใต้การบริหารงานของบริษัทย่อย บางกอก คอน เทนเนอร์ เดโป เซอร์วิส และล่าสุดการลงทุน 100 ล้านบาท สร้างคลังสินค้าให้กับบริษัทเมอร์ซิเดส-เบนซ์ฯ เป็นคลังสินค้าปลอดอากร ให้กับเบนซ์เพียงรายเดียว สัญญาเช่า 4 ปี การลงทุนทั้งหมดจำเป็นต้องระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าว
“วิน” เป็นผู้บริหารหนุ่มที่มีความละเอียดอ่อนกับลูกค้าและการทำงาน เขาบอกว่า สามารถช่วยลดการผิดพลาด แม้ว่าจะใช้เวลามาก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาได้ผลดี ซึ่ง 6 ปีมานี้ เขาไม่ต่างจากคนอื่น ที่มุ่งมั่นฝึกงานและเรียนรู้ธุรกิจกับมืออาชีพแต่ละแผนก 2 ปี ก่อนขึ้นมารับตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีหลักคิดการทำงานที่เรียบง่าย เปิดห้องพร้อมรับคำปรึกษากับพนักงานตลอดเวลา ให้สิทธิวิธีการคิดกับพนักงานทุกคน เหมือนโค้ช คอยดูแลและสนับสนุน บนเป้าหมายเดียวกันให้ “สหไทย เทอร์มินอล” เติบโตอย่างยั่งยืน และอนาคตต้องการเป็นตัวเลือกอันดับแรกของบริการโลจิสติกส์

[caption id="attachment_222206" align="aligncenter" width="696"] บัญชัย ครุจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหไทย เทอร์มินอลฯ (PORT)[/caption]

“เป้าหมายของผม เป็นเป้าหมายเดียวกับคุณพ่อ เราต้องการให้ สหไทย เทอร์มินอล เป็นที่ 1 ในใจของลูกค้า ที่นึกถึง “โลจิสติกส์ โซลูชัน” โดยเอาลูกค้าเป็นที่ตั้ง ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด เช่นที่บริษัทมีลานตู้ปลอดอากร ช่วยลดต้นทุนของลูกค้าได้มาก และทำให้ประสิทธิภาพการบริหารของลูกค้าดีขึ้นด้วย”

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าหน้าที่-ความรับผิดชอบของ “วิน” จะหนักแค่ไหน แต่การทำสมาธิ ดูลมหายใจเป็นประจำ เป็นผู้ช่วยที่ดี ทำให้ดับความคิดที่ฟุ้งกระจายไว้ได้ พร้อมๆ กับการมีสติ ที่ทำให้ผ่านทุกอุปสรรคไปได้ด้วยดี

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560