มุมมองใหม่ตลาดการค้า การลงทุนในเอธิโอเปีย(ตอนจบ)

ในตอนที่แล้ว เราได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ “เอธิโอเปีย” ตลาดใหม่ในดินแดนทวีปแอฟริกากันไปแล้ว โดยเฉพาะบทบาทการพัฒนาตัวเองเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ทั้งทางอากาศและทางบก ทำให้ภาพลักษณ์เดิมๆ ของเอธิโอเปียเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆไปกับก้าวการพัฒนาประเทศ ซึ่งนั่นยังหมายถึงโอกาสที่เปิดกว้างมากขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่กำลังมองหาฐานการผลิตและตลาดใหม่ๆที่มีศักยภาพ

ทั้งนี้ นอกเหนือจากปัจจัยส่งเสริมทางด้านการเงินการธนาคาร แรงงาน และโลจิสติกส์ ดังที่กล่าวไปแล้วในตอนแรก เอธิโอเปียยังมีปัจจัยบวกที่น่าสนใจอีก 2 ประการนั่นคือ ในแง่ การค้าระหว่างประเทศ เอธิโอเปียได้รับสิทธิพิเศษภายใต้พระราชบัญญัติการเติบโตและโอกาสของแอฟริกัน (African Growth and Opportunity Act: AGOA) ส่งผลให้ผู้ที่ตั้งฐานการผลิตในเอธิโอเปียได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและโควตาการส่งสินค้าออกไปยังสหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ เอธิโอเปียตั้งเป้าว่าจะสามารถเข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก หรือ WTO ภายใน 4 - 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยเปิดตลาดให้เอธิโอเปียและนักลงทุนต่างชาติต่อไปในอนาคต

[caption id="attachment_221954" align="aligncenter" width="503"] นิคมอุตสาหกรรม Hawassa Industrial Park เป็นนิคมอุตสาหกรรมต้นแบบ
(Flagship) ของเอธิโอเปียในปัจจุบัน ( ภาพจาก Ethiopian Investment Commission)[/caption]

นอกจากนี้ในด้าน พลังงาน เอธิโอเปียยังเป็นหนึ่งในประเทศที่มี ต้นทุนด้านพลังงานตํ่าที่สุดในโลก (ประมาณ 0.1 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ kWh) และยังมีแผนสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังนํ้าที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาขนาด 6,500 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ไม่มีปัญหาขาดแคลนพลังงานในอีก 3-5 ปี เพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับความเป็นไปได้และโอกาสทางด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเอธิโอเปียนั้น ผู้แทนฝ่ายเอธิโอเปียให้ข้อมูลว่า เอธิโอเปียเป็นตลาดการค้าขนาดใหญ่ เปิดโอกาสกว้างให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาตั้งฐานการผลิต โดยตั้งเป้าที่จะเป็นฐานการผลิตของภูมิภาคแอฟริกา จึงประสงค์เชิญชวนนักลงทุนชาวไทยที่สนใจให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ รัฐบาลเอธิโอเปียพร้อมสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ อำนวยความสะดวกและให้การคุ้มครองแก่นักลงทุนไทยเพื่อเพิ่มปริมาณการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เอธิโอเปียต้องการการลงทุนจากภาคเอกชนไทยในสาขาที่ไทยมีศักยภาพอยู่แล้ว อาทิ กลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ กลุ่มธุรกิจเกษตรและอาหาร กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล และกลุ่มธุรกิจโรงแรม

[caption id="attachment_221953" align="aligncenter" width="503"] อุตสาหกรรมการเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้รับการส่งเสริม[/caption]

ในระหว่างการเยือน คณะยังได้เยี่ยมชม 1 ใน 5 นิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญของเอธิโอเปีย คือ Bole Lemi I Industrial Park ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกของประเทศ มุ่งเน้นการผลิตเพื่อส่งออก 100% ในกลุ่มอุตสาหกรรมสิ่งทอ รองเท้าและเครื่องหนัง ปัจจุบันมีนักลงทุนจากต่างประเทศ อาทิ จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และอินเดีย เข้ามาลงทุนเต็มพื้นที่แล้ว นอกจากนี้ยังมีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างอีก 12 แห่งทั่วประเทศ

การเยือนครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้ได้รับทราบถึงศักยภาพและโอกาสด้านการค้า-การลงทุนสำหรับธุรกิจไทยในเอธิโอเปีย แต่ยังปรับเปลี่ยนมุมมองจากภาพเดิมๆของเอธิโอเปียที่เราเคยรับรู้ กลายเป็นประเทศที่มีศักยภาพและมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากมายที่รอให้นักธุรกิจไทยไปค้นหา เชื่อว่าการเยือนครั้งนี้จะเป็นการปูทางสู่ผลสำเร็จในความร่วมมือและนำไปสู่ผลประโยชน์ร่วมกันของ 2 ประเทศต่อไปในอนาคต

พบกับอัพเดตความเคลื่อน ไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]

หมายเหตุ : ระหว่างวันที่ 24-27 กันยายน 2560 กระทรวงการต่างประเทศ โดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ได้จัดโครงการนำคณะเยือนเอธิโอเปีย เพื่อสำรวจศักยภาพและความเป็นไปได้ของโอกาสทางการค้าและการลงทุน ตามนโยบายการผลักดันยุทธศาสตร์ส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของไทยกับประเทศคู่ค้าเป้าหมายที่เป็นยุทธศาสตร์และตลาดใหม่โดยมีนายนิกรเดช พลางกูร รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะ และมีผู้แทนจากสำนักงานการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงไนโรบี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) เข้าร่วมโครงการ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,307 วันที่ 22 - 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560