กยท. ดีเดย์เปิดตลาดกลางน้ำยางสดแห่งแรกของไทย

19 ต.ค. 2560 | 08:23 น.
กยท. ดีเดย์เปิดตลาดกลางน้ำยางสดแห่งแรกของไทย

นายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การยางแห่งประเทศไทยเขตภาคใต้ตอนล่าง มีพื้นที่ในความรับผิดชอบครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งมีพื้นที่ปลูกยางประมาณ 5.1 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 23.18 ของประเทศ และมีผลผลิตรวม 1,117,880 ตัน/ปี โดยเกษตรกรส่วนใหญ่ยึดถือการทำสวนยางเป็นอาชีพหลักมาอย่างยาวนาน

ฉะนั้นยางพาราจึงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมในพื้นที่อย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม ผลผลิตที่เกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่เขตภาคใต้ตอนล่างผลิตและจำหน่าย ส่วนมากจะเป็นรูปแบบของน้ำยางสดเป็นหลัก ทำให้ กยท.มีการผลักดันการจัดตั้งกลุ่มน้ำยางสดของเกษตรกร ปัจจุบันมีทั้งหมด 452 กลุ่ม พร้อมทั้ง ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์รวบรวมน้ำยางสดหรือบ่อน้ำยาง เพื่อรวบรวมน้ำยางสดจากกลุ่มย่อย อีกจำนวน 11 ศูนย์ สามารถรวบรวมน้ำยางสด คิดเป็นปริมาณเนื้อยางแห้ง 16,000 ตัน/ปี มีมูลค่าการซื้อขายประมาณ 900 ล้านบาท/ปี

kyt

นับว่าเป็นผลผลิตที่สร้างมูลค่าไม่น้อยให้แก่เกษตรกร และระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่ผ่านมาระบบบริหารจัดการตลาดน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกร ยังไม่สามารถสร้างระบบในการบริหารจัดการน้ำยางสดให้มีประสิทธิภาพได้เท่าที่ควร ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดทางกฎระเบียบ และข้อจำกัดของน้ำยางสดทั้งระยะเวลาในการเก็บรักษา การขนส่ง กลยุทธ์ทางการค้าการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ทำให้การขายน้ำยางสดของเกษตรกรยังไม่ได้ราคาที่เหมาะสม ฉะนั้น การพัฒนาระบบน้ำยางสดให้มีคุณภาพ และที่สำคัญมีเสถียรภาพด้านราคาที่เป็นธรรม

กยท. จึงได้จัดตั้งตลาดกลางน้ำยางสด ซึ่งเป็นตลาดกลางแห่งแรกของประเทศที่จะเชื่อมโยงตลาดเครือข่ายน้ำยางสดทั้งหมด สามารถกำหนดราคาอ้างอิงน้ำยางสดจากตลาด กยท. ได้ ซึ่งเกษตรกรสามารถขายน้ำยางสดได้ในราคาที่เป็นธรรม มีอำนาจต่อรองในการขาย ยกระดับราคาน้ำยางสดในพื้นที่ให้เกิดเสถียรภาพ ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการจะซื้อผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานในปริมาณมาก เพราะตลาดกลางน้ำยางสดจะมีระบบควบคุมคุณภาพและรูปแบบการบริหารจัดการที่มีมาตรฐาน และมีประสิทธิภาพ

ด้านนายชัยพจน์ อรุณชัยวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา จำกัด (1982) กล่าวว่า บริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา จำกัด (1982) ได้เข้าร่วมโครงการจัดตั้งตลาดน้ำยางสด โดยจะเป็นบริษัทผู้รับซื้อน้ำยางสด ที่ให้ราคารับซื้อสูงที่สุดในประเทศไทย วันนี้ เป็นวันแรกที่เปิดตลาดกลางน้ำยางสด ทางบริษัท จึงประกาศรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ราคากิโลกรัมละ 44.50 บาท/กก. สูงกว่าราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไปที่ขายอยู่ที่ 40 บาท/กก. โดยวันนี้มารับซื้อน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางถึง กยท. จำนวนประมาณ 120 กว่าตัน ซึ่งบริษัท ถาวรอุตสาหกรรมยางพารา จะรับซื้อน้ำยางสดจากสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางในราคาสูงกว่าเมื่อเทียบกับราคาท้องถิ่นในแต่ละวัน
kyt1

นายศตวรรษ จันทร์ทอง ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.สาขานาทวี กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรในพื้นที่ เช่น เกษตรกรทำสวนบ้านนาปรังพัฒนา มีผลผลิตน้ำยางสดประมาณวันละ 30,000 กก. โดยขายตรงผ่านบริษัทเอกชนเพื่อแปรรูปเป็นน้ำยางข้น ซึ่งน้ำยางทุกหยดจะรับซื้อจากสมาชิกเท่านั้น เพื่อให้การบริหารจัดการระบบขนส่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดตั้งตลาดกลางน้ำยางสดของ กยท. จะช่วยให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และเกษตรกรสมาชิกสามารถขายได้ราคาที่สูงขึ้น เกิดความเป็นธรรม

ซึ่งเกษตรกรหรือกลุ่มต่างๆ ที่ขายให้พ่อค้าเอกชนรายย่อยขณะนี้ต่างกลุ่มต่างดำเนินการขายแยกกันไปทำให้เมื่อประสบปัญหาต่างๆ เช่น การตรวจสอบคุณภาพ การกดราคา ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซึ่งการตั้งตลาดกลาง กยท. ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างเสถียรภาพราคายางเท่านั้น แต่กลับเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมให้กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางกลับมารวมตัวกัน เป็นสหกรณ์ที่เข้มแข็งและสามารถร่วมกันขายน้ำยางสดผ่านตลาดกลาง กยท. ซึ่งเป็นระบบที่จะเป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อผู้ขายต่อไปได้

kyt4

“ที่ผ่านมา กยท.เปิดตลาดกลางสำหรับซื้อขายยางแผ่นรมควันได้สำเร็จแล้ว และหากสร้างกลไกของรัฐ ตั้งตลาดกลางน้ำยางสด จะยิ่งช่วยให้เกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขายผลผลิตในรูปแบบอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำยางสด ซึ่งมีปริมาณที่มาก และคุณภาพที่ทำอยู่ก็ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ จะสามารถซื้อขายได้อย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายศตวรรษ กล่าวทิ้งท้าย

e-book