ป.ป.ช.รับลูกก.ม.ใหม่จ่อรื้อ 2 คดี“ทักษิณ”

12 ต.ค. 2560 | 08:07 น.
ป.ป.ช. จ่อรื้อ 2 คดี “ทักษิณ” เอ็กซิมแบงก์-หวยบนดิน ยันกฎหมายใหม่มิได้จ้องเล่นงาน 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ยอมรับ กังวลกฎหมายลูก ป.ป.ช. อาจกระทบต่อประสิทธิการพิจารณาคดี คาดได้ เลขาฯป.ป.ช.คนใหม่ในเดือนพ.ย.นี้

[caption id="attachment_218670" align="aligncenter" width="503"] พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ[/caption]

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้สำนักคดีของสำนักงาน ป.ป.ช นำ 3 คดีเก่ามาพิจารณารื้อฟื้นในส่วนที่ ป.ป.ช.รับผิดชอบเป็นโจทย์ฟ้องคดีที่ผ่านมาต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง (ศาลฎีกานักการเมือง) และมีการจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วย คดีที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร 2 คดี คือ คดีปล่อยเงินกู้ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ และคดีการออกสลากหวยบนดิน ส่วนอีกคดี คือ คดีรถดับเพลิงซึ่งเกี่ยวข้องกับบริษัทเอกชน

หลังจากกฎหมายว่าด้วยวิธีพิจราณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีผลบังคับใช้ คาดว่าจะดำเนินการโดยเร็ว พร้อมปฏิเสธว่า กฎหมายฉบับนี้มุ่งดำเนินการเฉพาะอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คน คือ นายทักษิณ ชินวัตรและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนการดำเนินการคดีต่างๆนับจากนี้สำนักคดีจะเป็นผู้รับผิดชอบทุกเรื่องในการยื่นฟ้องต่อศาลเองเท่านั้นซึ่งก่อนหน้านี้บางคดีได้มอบหมายทนายความ

อย่างไรก็ดี พล.ต.อ.วัชรพล ประธาน ป.ป.ช. กล่าวยอมรับว่า มีความห่วงกังวลหลายประเด็นในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปราบปรามการทุจริตที่อาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ ประเด็นหนึ่ง คือ เรื่องทำให้อำนาจในกระบวนการทำงานไต่สวนของ ป.ป.ช. เช่น การกำหนดกรอบเวลาที่เคร่งครัดจนเกินไปจนกลายเป็นข้อบกพร่องของผู้ปฏิบัติส่งผลต่อขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติอาจเป็นปัญหาอุปสรรคเพราะความแตกต่างของแต่ละคดีด้วยที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการพิจารณาคดี

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01 ทั้งนี้ ยืนยันว่า ตั้งแต่คณะกรรมการชุดปัจจุบันเข้ามาทำหน้าที่ได้ปรับกรอบเวลาทำงานที่เหมาะสมแล้ว ทั้งยังระบุย้ำว่า สิ่งที่ได้ส่งความเห็นเป็นไปตามหลักสากล หรือกลไกการทำงานของสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต แม้จะยอมรับว่า ประเด็นเรื่องวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการชุดปัจจุบันไม่เป็นเรื่องสำคัญ แต่ย้ำว่า กรรมการทุกคนมาตามรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ไม่ว่ากฎหมายจะออกมาอย่างไรพร้อมน้อมรับ ตั้งใจทำหน้าที่อย่างดีที่สุดสมดังรัฐธรรมนูญปราบโกงและด้วยความเป็นมืออาชีพแต่จะเข้าสู่การตั้งกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายหรือไม่นั้น ประธานป.ป.ช.ยังไม่ชี้ชัด เพราะว่า ยังมีกระบวนการชี้แจงกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และตั้งกรรมาธิการที่จะมีตัวแทนของ ป.ป.ช.

นอกจากนี้หลังการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสร็จสิ้นลงจะมีการเผยแพร่ข้อคิดเห็นที่จะส่งต่อ กรธ.โดยมีประเด็นเห็นแย้งกว่า 10 เรื่องในเวปไซต์ของสำนักงาน ป.ป.ช.พร้อมกันนี้ได้เปิดเผยถึงการสรรหาเลขาธิการ ป.ป.ช.คนใหม่ด้วยว่า ได้ตั้ง พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานการสรรหาและมีการประกาศรับสมัครแล้ว จากเดิมที่โดยส่วนตัวต้องการรับสมัครเฉพาะรองเลขาธิการแต่ด้วยระเบียบกฎหมายไม่สามารถทำได้ เพราะกำหนดเปิดกว้างให้บุคคลภายนอกสมัครได้ คาดว่า ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้จะได้ผู้ที่เข้ามาทำหน้าที่เลขาธิการ ป.ป.ช.คนใหม่ ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว