บลจ.วรรณ แนะจับตาเงินทุนไหลเข้าเริ่มชะลอ กดหุ้นไทยระยะสั้น

10 ต.ค. 2560 | 05:10 น.
บลจ.วรรณ ชี้มีแรงกดดันสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น จากเม็ดเงินต่างชาติที่เริ่มชะลอลง หลังนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มชัดเจน เผยยังมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยจากปัจจัยบวกนโยบายภาครัฐ และเม็ดเงิน LTF หนุนดัชนีตลาดหุ้นไทย มองกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ 1,680 - 1,720 จุด รอจังหวะสะสมหุ้นไทย เมื่อดัชนีย่อตัวลง

[caption id="attachment_217639" align="aligncenter" width="329"] นายพจน์ หะริณสุต นายพจน์ หะริณสุต[/caption]

นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ แนะนำให้ติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าไทย โดยมองว่า เริ่มชะลอตัวและเป็นแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงของไทยในระยะสั้น หลังสหรัฐฯ มีความคืบหน้าในกระบวนการพิจารณาร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ ยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไรในช่วงที่ดัชนีฯ เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 1,700 จุด

อย่างไรก็ดี ประเมินแนวโน้มเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในกรอบ 1,680 - 1,720 จุด โดยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย จากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น และส่งผลให้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจหลายแห่งทยอยปรับเพิ่มเป้าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 60 รวมถึงความคืบหน้าของ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ส่งผลให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนตรงเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ในช่วงปลายปีจะมีเม็ดเงินจากกองทุนรวมหุ้นระยาว (LTF) ไหลเข้าซื้อหุ้นไทยประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยจะเป็นปัจจัยบวกหนุนดัชนีไม่ให้ปรับตัวลงได้มาก

ในส่วนของปัจจัยที่ต้องติดตามการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/60 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า ผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยมีแนวโน้มปรับตัวลง ทั้งนี้จะทยอยประกาศตั้งแต่ 11 ต.ค. เป็นต้นไป นอกจากนี้ต้องติดตามความคืบหน้าทางการเมืองของสหรัฐฯ หลังมีการอนุมัติงบประมาณปี 2561 วงเงิน 4.1 ล้านดอลลาร์ฯ รวมถึง ถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่ 12 ต.ค. นี้ ซึ่งอาจมีการส่งสัญญาณการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตร และรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(Fed) เดือน ก.ย. ต่อแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยฯในช่วงที่เหลือของปีนี้

นายพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยยังคง underperform ตลาดในภูมิภาคอยู่มาก โดยตลาดยังคงมีลักษณะของการ Rotation ไปยังหลักทรัพย์ที่ Laggard และหลักทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วง High season ของการท่องเที่ยว กลุ่มค้าปลีก ทั้งนี้ แนะนำขายทำกำไรบางส่วนในหลักทรัพย์ที่ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเต็มมูลค่าแล้ว และทยอยสะสมเมื่อดัชนีย่อตัวลง ซึ่งบริษัท แนะนำกองทุนเปิด วรรณเอเอ็มซีเล็คทีฟโกรทหุ้นระยะยาว (1SG-LTF) ลักษณะการบริหารกองทุนแบบเชิงรุกเพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนให้ชนะ SET Index (Benchmark) จากการคัดเลือกหุ้น (Stock Selection) สำหรับผลการดำเนินงานของ 1SG-LTF ในช่วง 1 ปี 3 และ 5 ปี และผลการดำเนินงานอยู่ที่ระดับ 16.98% 5.03%และ 9.83% สูงกว่าเกณฑ์มาตราฐานทุกช่วงปี 16.20% 2.82%และ 5.81% ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว