กระทรวงทรัพย์ฯเปิดโครงการแก้น้ำเสียที่พัทยา
- 22 ก.ย. 60 - ที่โรงแรมแกรนด์พาลาสโซ่ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการผนึกกำลัง “ประชารัฐร่วมใจ แก้ไขปัญหาน้ำเสีย ชายหาดท่องเที่ยว” ซึ่งเป็นโครงการที่จัดขึ้นโดยกรมควบคุมมลพิษ ทั้งนี้หลังเกิดภาวะการปล่อยน้ำเสียลงสู่ทะเล จนสถานการณ์เริ่มส่อเค้าความเสื่อมโทรมในเมืองท่องเที่ยวชายฝั่ง โดยมีตัวแทนจากจังหวัดชลบุรี ท้องถิ่น หน่วยงานราชการ ผู้นำชุมชน ภาคประชาชน และประชาชนเข้าร่วมกว่า 500 คน
พลเอก สุรศักดิ์ กล่าวว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาน้ำเสียลงสู่ทะเลในเมืองท่อง เที่ยวต่อเนื่อง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเสียหายจึงมีแนวคิดในการจัดกิจกรรม “ประชารัฐร่วมใจ แก้ไขปัญหาน้ำเสีย ชายหาดท่องเที่ยว” ขึ้น ด้วยปัจจุบันเมืองพัทยา และเมืองท่องเที่ยวหลักสำคัญ อย่าง สมุย ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น มีการเจริญเติบโต มีปริมาณนักท่องเที่ยว และประชากรแฝง รวมทั้งการลงทุนทางธุรกิจมากมาย ทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียของท้องถิ่นที่จัดทำไว้ไม่สามารถรองรับได้ทัน ที่สำคัญการรองรับปัญหาน้ำเสียและขยะเหล่านี้ก็ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงระบบที่ไม่เพียงพอกับปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นและยังมีสภาพชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมานาน โดยยังไม่มีการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถให้เพียงพอ อีกทั้งยังมีบุคคลหรือสถานประกอบการบางกลุ่มที่ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดทำระบบบำบัดหรือลดปัญหาจากการร่วมมือ ร่วมใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จนขณะนี้ทำให้สถานการณ์ภาวะทะเลชายฝั่งเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของเมืองพัทยานั้นหากยังคงปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ในอีก 20 ปีข้างหน้า คงต้องประสบกับภาวะทะเลเน่าอย่างแน่นอน
พลเอกสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่าปัญหาคือต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นกำเนิดของแหล่งสร้างมลพิษ ซึ่งจะมีจากประชาชน สถานประกอบการ อาคาร ร้านอาหาร และอื่นๆ ซึ่งรัฐต้องสร้างความเข้าใจ ให้มีความตระหนัก พร้อมขอความร่วมมือในการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนที่จะมีการนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างจริงจังหากยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ปัญหาของระบบนั้นได้มอบ หมายให้ทางกระทรวงทรัพย์ฯนำเรื่องเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางสนับสนุนให้กับท้องถิ่น เนื่องจากท้องถิ่นเองคงไม่มีศักยภาพพอในการแก้ไขปัญหาเพียงลำพัง ซึ่งแผนงานนี้คงต้องเร่งดำเนินการ เพราะปัจจุบันตามแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ก็มีการพัฒนามากมายที่จะทำให้มีประชากร นักท่องเที่ยว และการลงทุน เกินขึ้นในพื้นที่เมืองพัทยา และอีก 2 เมืองหลักเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็จะเป็นต้นพอของปัญหามลพิษและน้ำเสียที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
พลเอก สุรศักดิ์ กล่าวว่าในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาน้ำเสียลงสู่ทะเลในเมืองท่อง เที่ยวต่อเนื่อง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้สถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวเสียหายจึงมีแนวคิดในการจัดกิจกรรม “ประชารัฐร่วมใจ แก้ไขปัญหาน้ำเสีย ชายหาดท่องเที่ยว” ขึ้น ด้วยปัจจุบันเมืองพัทยา และเมืองท่องเที่ยวหลักสำคัญ อย่าง สมุย ภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น มีการเจริญเติบโต มีปริมาณนักท่องเที่ยว และประชากรแฝง รวมทั้งการลงทุนทางธุรกิจมากมาย ทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียของท้องถิ่นที่จัดทำไว้ไม่สามารถรองรับได้ทัน ที่สำคัญการรองรับปัญหาน้ำเสียและขยะเหล่านี้ก็ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด รวมถึงระบบที่ไม่เพียงพอกับปริมาณของเสียที่เกิดขึ้นและยังมีสภาพชำรุดทรุดโทรมจากการใช้งานมานาน โดยยังไม่มีการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถให้เพียงพอ อีกทั้งยังมีบุคคลหรือสถานประกอบการบางกลุ่มที่ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดทำระบบบำบัดหรือลดปัญหาจากการร่วมมือ ร่วมใจแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จนขณะนี้ทำให้สถานการณ์ภาวะทะเลชายฝั่งเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของเมืองพัทยานั้นหากยังคงปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ในอีก 20 ปีข้างหน้า คงต้องประสบกับภาวะทะเลเน่าอย่างแน่นอน
พลเอกสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่าปัญหาคือต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นกำเนิดของแหล่งสร้างมลพิษ ซึ่งจะมีจากประชาชน สถานประกอบการ อาคาร ร้านอาหาร และอื่นๆ ซึ่งรัฐต้องสร้างความเข้าใจ ให้มีความตระหนัก พร้อมขอความร่วมมือในการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนที่จะมีการนำกฎหมายมาบังคับใช้อย่างจริงจังหากยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ปัญหาของระบบนั้นได้มอบ หมายให้ทางกระทรวงทรัพย์ฯนำเรื่องเสนอต่อกระทรวงมหาดไทย หรือนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางสนับสนุนให้กับท้องถิ่น เนื่องจากท้องถิ่นเองคงไม่มีศักยภาพพอในการแก้ไขปัญหาเพียงลำพัง ซึ่งแผนงานนี้คงต้องเร่งดำเนินการ เพราะปัจจุบันตามแผนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ก็มีการพัฒนามากมายที่จะทำให้มีประชากร นักท่องเที่ยว และการลงทุน เกินขึ้นในพื้นที่เมืองพัทยา และอีก 2 เมืองหลักเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็จะเป็นต้นพอของปัญหามลพิษและน้ำเสียที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
