บลจ.ยูโอบีเฮ!ทริกเกอร์ฟันด์เข้าเป้า6 กองรวด แนะเพิ่มลงทุนหุ้นไทย

22 ก.ย. 2560 | 07:14 น.
บลจ.ยูโอบี บริหารกองทุนหุ้นไทยผลตอบแทนเป้าหมาย รวม 6 กองทุน หลังตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมแนะนำนักลงทุนให้น้ำหนักการลงทุนเพิ่มในหุ้นไทย หรือหุ้นญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กและกลางสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดต่างประเทศ

[caption id="attachment_211284" align="aligncenter" width="377"] นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ[/caption]

นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทบริหารกองทุนหุ้นไทยผลตอบแทนเป็นไปตามเป้าหมาย จำนวน 6 กองทุน คือ กองทุนเปิด ไทย ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% (5) (T3P3(5)), กองทุนเปิด ไทย ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% (6) (T3P3(6)), กองทุนเปิด ไทย ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% (8) (T3P3(8)), กองทุนเปิด ไทย ทริกเกอร์ 3% พลัส 3% (9) (T3P3(9)), กองทุนเปิด ยูโอบี ทริกเกอร์ 13 (UOBT13) และ กองทุนเปิด ยูโอบี ทริกเกอร์ 19 (UOBT19)

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ที่ยังมีทิศทางการฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และเอเชีย ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐฯเติบโตได้แข็งแกร่งหนุนให้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ สามารถทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุด (all-time-high) สถานการณ์ในยุโรปดีขึ้นจากเมื่อปีที่ผ่านมาอย่างมาก เศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนได้กลับมาเติบโตอย่างชัดเจน และสถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น เช่นเดียวกันเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียที่ได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์และการค้าทั่วโลกที่ดีขึ้น แนะนำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นไทย เนื่องจากในปีนี้ดัชนีหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นได้น้อยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ และคาดว่าในปี 2561 เศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2560

สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนเพิ่มเติมในตลาดต่างประเทศ การลงทุนในหุ้นขนาดเล็กถึงกลางของญี่ปุ่นถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศและเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศจะเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเฉพาะหุ้นที่มีขนาดเล็กและกลางที่มีราคามูลค่าหุ้นปัจจุบันเทียบกำไรยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหุ้นขนาดใหญ่

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ จากมุมมองดังกล่าว บลจ.ยูโอบี แนะนำ กองทุนเปิด ไทย อิควิตี้ฟันด์ (TEF) ระดับความเสี่ยงของกองทุน 6 เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตในอัตราสูง โดยกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ได้ที่ 11.84% ต่อปี ในขณะที่เกณฑ์มาตรฐาน SET TRI อยู่ที่ 7.40% ต่อปี ข้อมูล ณ 31ส.ค.2560 และ กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท เจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ (UOBSJSM),

กองทุนเปิด เจแปน สมอล แอนด์ มิด แคป ฟันด์ (JSM) มีระดับความเสี่ยงกองทุน 6 ลงทุนผ่านกองทุนหลัก United Japan Small and Mid Cap Fund จัดตั้งและบริหารจัดการโดย UOB Asset Management Ltd (Singapore) ซึ่งมอบหมาย Sumitomo Mitsui Asset Management (SMAM) ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้จัดการกองทุนย่อย (Sub-Manager) โดยกองทุน UOBSJSM และ JSM สร้างผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี ได้ที่ 16.89% ต่อปี และ 16.44% ต่อปี ตามลำดับ เทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน MSCI Japan SMID Cap Index ที่ 8.91% ต่อปี ข้อมูล ณ 31 ส.ค.2560 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว