ฟิลิปส์พลิกเกมตลาด ชู แอลอีดี ถนอมสายตา เจาะเทรนด์สุขภาพ
ฟิลิปส์ฯ รุกตลาด ดึงหลอดไฟแอลอีดีถนอนสายตา เจาะตลาดกลุ่มไลฟ์สไตล์และผู้ดูแลสุขภาพ ชูคุณสมบัติถนอมสายตา ในหลอดไฟฟิลิปส์แอลอีดี ภายใต้แคมเปญ “ฟิลิปส์แอลอีดี ถนอมสายตา ดูแลครอบครัวคุณ” กระตุ้นความเชื่องโยงระหว่างความกังวลเรื่องพัฒนาการเด็กของพ่อแม่กับผลิตภัณฑ์ถนอมสายตา บุกตลาดคนรักสุขภาพ และยังได้เปิดตัวโครงการ “แสงแห่งโอกาสและความห่วงใย” เพื่อนำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับยูนิเซฟเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนในถิ่นทรกันดาร
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟิลิปส์ในฐานะผู้นำตลาดนวัตกรรมส่องสว่างได้เล็งเห็นสองแนวโน้มด้านพฤติกรรมที่สำคัญในตลาดได้แก่ กระแสการรักสุขภาพ และความต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม จากที่บริษัทได้ทำการสำรวจความกังวลของพ่อแม่ที่มีต่อลูก 8,000 ครอบครัว พบว่า 52% กังวลเรื่องของสุขภาพดวงตา ด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลิปส์แอลอีดีถนอมสายตา บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการรุกตลาดด้วยแง่มุมของการส่งเสริมการดูแลสุขภาพให้ครบทุกมิติ ผ่านการดูแลใส่ใจในแง่มุมที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึง เช่น แสงไฟและสุขภาพดวงตา โดยนอกจากที่ฟิลิปส์จะเชื่อมโยงให้ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการเลือกใช้หลอดไฟแอลอีดีที่มีคุณภาพแล้ว ยังยื่นโอกาสในการมีส่วนร่วมในสังคม โดยในโอกาสเดียวกัน ฟิลิปส์วางแผนรุกตลาด เข้าถึงผู้บริโภคพร้อมกันในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยภาพยนตร์สั้นบนโลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในสังคมเกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนไทย ภาพยนตร์โฆษณาเกี่ยวกับสุขภาพดวงตา รวมไปถึงสื่อทางการตลาด ณ จุดขายต่างๆ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนี้จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่กลุ่มพันธมิตรคู่ค้าจะสามารถนำไปต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยอดขายได้
ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของหลอดไฟชนิดแอลอีดีอยู่ที่ 52% อีก 48% เป็นชนิดหลอดนีออน ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจหลอดแอลอีดีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาประหยัดและมีอายุการใช้งานที่นาน ซึ่งตลาดรวม ณ ตอนนี้อยู่ที่ 2.55 หมื่นล้านบาท ฟิลิปส์ยังคงครองอับดับ 1 ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปบริษัทคาดว่าเปอร์เซ็นการผลิตหลอดไฟนีออนของผู้ประกอบการจะลดลงและมีการแข่งขันในตลาดชนิดหลอดแอลอีดีเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการแข่งขันโดยปกติจะแข่งขันกันในเรื่องของราคาและอายุการใช้งาน แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคไม่เพียงแต่ต้องการความคุ้มค่าเพียงอย่างเดียว เรื่องของนวัตกรรมและฟังค์ชั่นต่างๆเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคสำคัญ
นอกจากนี้ฟิลิปส์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันของเยาวชนไทย จึงจัดตั้งโครงการ “แสงแห่งโอกาสและความห่วงใย (Light for the Bright Future)”ขึ้น เพื่อร่วมกับองค์กรยูนิเซฟ เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพให้กับเยาวชนที่ขาดแคลน พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ ผ่านการจัดจำหน่ายแพ็คเกจพิเศษ “แพ็คเพื่อน้อง” ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดจำหน่ายจะมอบให้องค์กรยูนิเซฟ เพื่อนำไปต่อยอดกับโครงการพัฒนาและสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนในโรงเรียนยากไร้
นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ฟิลิปส์ในฐานะผู้นำตลาดนวัตกรรมส่องสว่างได้เล็งเห็นสองแนวโน้มด้านพฤติกรรมที่สำคัญในตลาดได้แก่ กระแสการรักสุขภาพ และความต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม จากที่บริษัทได้ทำการสำรวจความกังวลของพ่อแม่ที่มีต่อลูก 8,000 ครอบครัว พบว่า 52% กังวลเรื่องของสุขภาพดวงตา ด้วยผลิตภัณฑ์ฟิลิปส์แอลอีดีถนอมสายตา บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการรุกตลาดด้วยแง่มุมของการส่งเสริมการดูแลสุขภาพให้ครบทุกมิติ ผ่านการดูแลใส่ใจในแง่มุมที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึง เช่น แสงไฟและสุขภาพดวงตา โดยนอกจากที่ฟิลิปส์จะเชื่อมโยงให้ผู้บริโภคมีความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการเลือกใช้หลอดไฟแอลอีดีที่มีคุณภาพแล้ว ยังยื่นโอกาสในการมีส่วนร่วมในสังคม โดยในโอกาสเดียวกัน ฟิลิปส์วางแผนรุกตลาด เข้าถึงผู้บริโภคพร้อมกันในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยภาพยนตร์สั้นบนโลกออนไลน์ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ในสังคมเกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาของเยาวชนไทย ภาพยนตร์โฆษณาเกี่ยวกับสุขภาพดวงตา รวมไปถึงสื่อทางการตลาด ณ จุดขายต่างๆ ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนี้จะเป็นกลยุทธ์สำคัญที่กลุ่มพันธมิตรคู่ค้าจะสามารถนำไปต่อยอดเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยอดขายได้
ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของหลอดไฟชนิดแอลอีดีอยู่ที่ 52% อีก 48% เป็นชนิดหลอดนีออน ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสนใจหลอดแอลอีดีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากราคาประหยัดและมีอายุการใช้งานที่นาน ซึ่งตลาดรวม ณ ตอนนี้อยู่ที่ 2.55 หมื่นล้านบาท ฟิลิปส์ยังคงครองอับดับ 1 ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปบริษัทคาดว่าเปอร์เซ็นการผลิตหลอดไฟนีออนของผู้ประกอบการจะลดลงและมีการแข่งขันในตลาดชนิดหลอดแอลอีดีเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการแข่งขันโดยปกติจะแข่งขันกันในเรื่องของราคาและอายุการใช้งาน แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคไม่เพียงแต่ต้องการความคุ้มค่าเพียงอย่างเดียว เรื่องของนวัตกรรมและฟังค์ชั่นต่างๆเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผู้บริโภคสำคัญ
นอกจากนี้ฟิลิปส์เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันของเยาวชนไทย จึงจัดตั้งโครงการ “แสงแห่งโอกาสและความห่วงใย (Light for the Bright Future)”ขึ้น เพื่อร่วมกับองค์กรยูนิเซฟ เป็นส่วนหนึ่งในการเติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพให้กับเยาวชนที่ขาดแคลน พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ ผ่านการจัดจำหน่ายแพ็คเกจพิเศษ “แพ็คเพื่อน้อง” ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดจำหน่ายจะมอบให้องค์กรยูนิเซฟ เพื่อนำไปต่อยอดกับโครงการพัฒนาและสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนในโรงเรียนยากไร้