บลจ. มอง “หุ้นไทยปีหน้า” สดใส ‘ธนชาต’ ฟันธง 1,750 จุด / ‘กสิกร’ เปิดตัว K-My Funds

17 ก.ย. 2560 | 11:38 น.
บลจ. มองปีหน้า เศรษฐกิจไทยเติบโต ดอกเบี้ยต่ำ หนุนหุ้นไทยไปต่อ ... “กสิกร” เปิดตัวแอพใหม่ ช่วยลูกค้าบรรลุเป้าหมายลงทุน พร้อมกองทุน K-FIT จัดพอร์ตลงทุนตามความเสี่ยง 4 กองผลตอบแทน 3-10% ต่อปี

น.ส.ธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ในปี 2560 ยังมีทิศทางเป็นบวกและยังเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียน ในปี 2561 เติบโต 10% ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ออกมาน้อย จึงคาดว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้อาจมีออกมาได้

[caption id="attachment_140306" align="aligncenter" width="503"] นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต[/caption]

“หุ้นที่ปรับตัวขึ้นทะลุ 1,600 จุด ในรอบนี้ นักลงทุนอาจมองตลาดหุ้นไทยแลกการ์ด เมื่อเทียบเพื่อนบ้านที่ขึ้นไปค่อนข้างมาก จึงเห็นต่างชาติเริ่มเข้าซื้อ ‘หุ้นบลูชิพ’ แต่เป็นเงินส่วนน้อยและยังมีโอกาสเข้าอีก ส่วนตลาดหุ้นช่วงที่เหลือจากนี้ หากไม่มีปัจจัยบวก ดัชนีคงอยู่แถว 1,670-1,680 จุด” น.ส.ธิดาศิริ กล่าว

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทยฯ เปิดเผยว่า การจะบรรลุเป้าหมายการลงทุนมีปัจจัยแห่งความสำเร็จ 3 อย่าง คือ การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม ระยะเวลาการลงทุนและการกระจายการลงทุนที่เหมาะสม แต่จากข้อมูลบริษัท พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ยังกระจายลงทุนไม่เหมาะสม โดยมีถึงประมาณ 2 ใน 3 ของลูกค้าทั้งหมด ที่ลงทุนในกองทุนเพียงประเภทเดียว ซึ่ง 1 ใน 3 ลงทุน ในกองทุนที่ต่ำกว่าระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมกับตนเอง ยังไม่นับรวมกลุ่มลูกค้าที่ลงทุนเกินกว่าระดับความเสี่ยงที่รับได้

บริษัทจึงเปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ “K-My Funds” นอกจากอำนวยความสะดวกการซื้อ-ขายกองทุนแล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวเรื่องกองทุนรวม ซึ่งโปรแกรมจะแนะนำพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม โดยเปรียบเทียบกับพอร์ตในปัจจุบันของผู้ลงทุนและแสดงผลวิเคราะห์ออกมาในรูปกราฟและเส้น FIT Line ชี้วัดผลตอบแทนของพอร์ตลงทุน จึงเสมือนโค้ชคอยสร้างแนวทางการลงทุนให้ผู้ลงทุนปรับรูปแบบลงทุนที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง

Mp19-3297-A



นอกจากนี้ บริษัทได้ออกแบบกองทุนใหม่ ในกลุ่ม K-FIT ถึง 4 กองทุน ให้เลือกลงทุนตามระดับความเสี่ยงและผลตอบแทน ได้แก่ กองทุน K-FIT, K-FITM, K-FITL และ K-FITXL สำหรับผู้ที่อยากลงทุนเป็นพอร์ต แต่ไม่ต้องการซื้อหลายกองทุน โดย K-FIT จะลงทุนในกองทุนของบริษัทที่กระจายลงทุนในหลายสินทรัพย์ตามสัดส่วนการลงทุน ที่แนะนำและเลือกมาให้แล้วว่า พอดีกับความต้องการของผู้ลงทุน ซึ่งลงทุนได้ทันทีผ่าน K-My Funds เปิดขายครั้งแรกวันที่ 14 ก.ย. ถึง 2 ต.ค. 2560

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาตฯ เปิดเผยว่า บริษัทมองว่า “ราคาหุ้น” ในปัจจุบัน แม้ไม่ได้อยู่ในระดับที่ถูก แต่ไม่ถือว่าแพง เนื่องจากมองเป้าหมายหุ้นไทยปีหน้า 1,750 จุด ยังมีอัพไซด์จากการเติบโตของเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยต่ำ ประกอบกับยังมีโครงการขนาดใหญ่อีกหลายโครงการในไตรมาส 1 ปีหน้า รอประมูลอยู่ เมื่อโครงการเริ่มดำเนินการจะผลักดันเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดอีกมาก

[caption id="attachment_135949" align="aligncenter" width="503"] นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์[/caption]

นอกจากความน่าสนใจในตลาดหุ้นแล้ว “ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ” นับวันยิ่งแพงขึ้นและเป็นอุปสรรค ทำให้การลงทุนไม่ประสบผลสำเร็จ ไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ บริษัทจึงออกกองทุน T-PrimePlusAI โดยช่วงแรกจะลงทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ 40 บริษัท ซึ่งจะได้รับอานิสงส์จากโครงการเมกะโปรเจ็กต์ภาครัฐและกองทุนเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านประกันชีวิตและสุขภาพ ให้ผู้ลงทุนมีเงื่อนไขลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท คงเงินลงทุนอย่างน้อย 1 ปี และขายได้ตามรอบที่กำหนด โดยมี 4 แผนคุ้มครอง ขึ้นกับเงินลงทุน ตั้งแต่ 500,000 บาท, 1.5 ล้านบาท - 5,000,000 บาท และ 10,000,000 บาท เปิดขายครั้งแรกวันที่ 15-25 ก.ย. 2560 และเปิดขายอีก 2 ครั้ง ในเดือน ธ.ค. 2560 และ มี.ค. 2561 หลังจากนั้นเปิดขายทุก 3 เดือน ในช่วง ต.ค., ม.ค., เม.ย. และ ก.ค.

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,297 วันที่ 17-20 ก.ย. 2560

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-9-1