วิลเลรอยฯรุกสุขภัณฑ์หรูดันแบรนด์ ‘นาม’เจาะลูกค้าโครงการคอนโดฯ-บ้าน
วิลเลรอย แอนด์ บอค ดัน “นาม” บุกตลาดสุขภัณฑ์ ขี่กระแสอสังหาริมทรัพย์เติบโต มองข้ามช็อตถึงปี 61 รุกอีเวนต์ พร้อมขยายฐานค้าปลีก มุ่งเจาะโครงการและลักชัวรี เล็งเป้าเข้าบ้านหรู 50 ล้านบาทมั่นใจรายได้โต 20%
นายณัฐพล สังขะภักดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทวิลเลรอย แอนด์ บอค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจและจำหน่ายสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์วิลเลรอย แอนด์ บอค จากประเทศเยอรมนี และแบรนด์“นาม (nahm)” เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทรุกตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทยมา 8 ปีโดยได้แยกตลาดทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าวไว้ชัดเจนสำหรับปีนี้ในส่วนของแบรนด์นาม ซึ่งจับตลาดระดับกลาง สถานการณ์การแข่งขันรุนแรงมาก แต่แนวโน้มตลาดยังไปได้ดี เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งนามยังรุกเจาะตลาดโครงการทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวจึงได้อานิสงส์ครั้งนี้ตามไปด้วย
นอกจากนั้นยังมีความพยายามขยายตลาดไปสู่รีเทลมากขึ้น เพื่อที่จะขยับไปสู่ตลาดลักชัวรีในระดับราคาบ้าน 50 ล้านบาทให้ได้ในเร็วๆ นี้ด้วยกลยุทธ์เจาะเข้าถึงดีไซเนอร์ ทำให้สุขภัณฑ์นามได้รับการบรรจุในสเปกของโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ เพื่อนำเสนอให้เจ้าของโครงการพิจารณา โดยจะมีการนำเสนอให้ครอบคลุมทุกคอลเลกชันจึงถือได้ว่าแบรนด์เดียวสามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องห้องนํ้าได้อย่างลงตัว
“ถึงแม้ขณะนี้ในตลาดอสังหาฯเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายแต่บริษัทยังมองว่าจำกัดเฉพาะคอนโดมิเนียมราคา 1-3 ล้านบาท หรือระดับราคาตารางวาละ2-2.5 แสนบาทแต่ก็ยังถือว่านามไม่ได้รับผลกระทบมากนัก”
สำหรับช่วงต้นปี 2560ถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าโครงการมากขึ้นโดยต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและคาดว่ายังจะส่งผลบวกไปถึงปีหน้าได้อีกด้วยซึ่งในการสร้างแบรนด์นั้นมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และการรุกผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆประการสำคัญในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังเจาะตลาดโครงการเนื่องจากยังมีอีกหลายรายที่รอการเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้นจึงมีการจัดสัมมนาร่วมกับกลุ่มสถาปนิกอยู่บ่อยครั้ง
นอกจากนั้นภายในปีนี้จะพบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวจำนวนมาก แม้แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่างกลุ่มพฤกษาเรียลเอสเตทยังลงมารุกตลาดระดับลักชัวรี แต่ยอดขายของบริษัทโดยรวมยังไม่ทะลุเป้าที่กำหนดไว้คือ ยอดขายเติบโตราว 20% ปรากฏว่าช่วงครึ่งปีสามารถทำได้แล้วกว่า 10% คาดว่าปลายปีนี้น่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
“ช่วงสิ้นปีนี้มีกำหนดจัดงานสัมมนาปาร์ตี้ให้กับกลุ่มลูกค้าของบริษัทโดยร่วมกับตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ของบริษัทอาทิ แกรนด์โฮมมาร์ท ฯลฯ โดยกระจายกันไปตามหัวเมืองหลักอย่างเชียงใหม่ สมุย เป็นต้นเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ให้มากขึ้น
ทั้งนี้แผนการรุกตลาดในปี 2561 ยังเน้นการรุกอีเวนต์ต่างๆ โดยจะดำเนินการควบคู่กับการฉลอง 270 ปีแบรนด์ของบริษัทซึ่งจะรุกงานเอ็กซิบิชันที่นำเสนอชิ้นงานมาสเตอร์พีซในอดีตมานำเสนอ อาทิ ชุดจานชาม ที่เคยถวายองค์โป๊ป หรือจะเป็นชุดจานกระเบื้องที่อยู่ในเรือไททานิครูปแบบจัดแกลเลอรีโชว์
“เป้าหมายปีหน้ายังคาดการณ์จะเติบโตแบบดับเบิลดิจิตโดยโรงงานผลิตที่สระบุรียังส่งออกไปยัง จีน เกาหลี และอีกหลายประเทศในกลุ่ม CLMV นี้ด้วยโดยเฉพาะในประเทศจีนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ดังนั้นกรณีที่อสังหาริมทรัพย์จีนมาลุยตลาดในเมืองไทย แบรนด์ วิลเลรอยแอนด์ บอคจึงได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย โดยได้มีการดีไซน์ตอบโจทย์ผู้สูงอายุที่สนองเทรนด์ความต้องการในช่วงนี้ได้อีกด้วย”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,295 วันที่ 10 - 13 กันยายน พ.ศ. 2560
นายณัฐพล สังขะภักดี ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทวิลเลรอย แอนด์ บอค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจและจำหน่ายสุขภัณฑ์ภายใต้แบรนด์วิลเลรอย แอนด์ บอค จากประเทศเยอรมนี และแบรนด์“นาม (nahm)” เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทรุกตลาดสุขภัณฑ์ในประเทศไทยมา 8 ปีโดยได้แยกตลาดทั้ง 2 แบรนด์ดังกล่าวไว้ชัดเจนสำหรับปีนี้ในส่วนของแบรนด์นาม ซึ่งจับตลาดระดับกลาง สถานการณ์การแข่งขันรุนแรงมาก แต่แนวโน้มตลาดยังไปได้ดี เนื่องจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งนามยังรุกเจาะตลาดโครงการทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยวจึงได้อานิสงส์ครั้งนี้ตามไปด้วย
นอกจากนั้นยังมีความพยายามขยายตลาดไปสู่รีเทลมากขึ้น เพื่อที่จะขยับไปสู่ตลาดลักชัวรีในระดับราคาบ้าน 50 ล้านบาทให้ได้ในเร็วๆ นี้ด้วยกลยุทธ์เจาะเข้าถึงดีไซเนอร์ ทำให้สุขภัณฑ์นามได้รับการบรรจุในสเปกของโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ เพื่อนำเสนอให้เจ้าของโครงการพิจารณา โดยจะมีการนำเสนอให้ครอบคลุมทุกคอลเลกชันจึงถือได้ว่าแบรนด์เดียวสามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องห้องนํ้าได้อย่างลงตัว
“ถึงแม้ขณะนี้ในตลาดอสังหาฯเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลายแต่บริษัทยังมองว่าจำกัดเฉพาะคอนโดมิเนียมราคา 1-3 ล้านบาท หรือระดับราคาตารางวาละ2-2.5 แสนบาทแต่ก็ยังถือว่านามไม่ได้รับผลกระทบมากนัก”
สำหรับช่วงต้นปี 2560ถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าโครงการมากขึ้นโดยต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและคาดว่ายังจะส่งผลบวกไปถึงปีหน้าได้อีกด้วยซึ่งในการสร้างแบรนด์นั้นมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง และการรุกผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆประการสำคัญในช่วงครึ่งปีหลังนี้ยังเจาะตลาดโครงการเนื่องจากยังมีอีกหลายรายที่รอการเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้นจึงมีการจัดสัมมนาร่วมกับกลุ่มสถาปนิกอยู่บ่อยครั้ง
นอกจากนั้นภายในปีนี้จะพบว่ามีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดตัวจำนวนมาก แม้แต่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อย่างกลุ่มพฤกษาเรียลเอสเตทยังลงมารุกตลาดระดับลักชัวรี แต่ยอดขายของบริษัทโดยรวมยังไม่ทะลุเป้าที่กำหนดไว้คือ ยอดขายเติบโตราว 20% ปรากฏว่าช่วงครึ่งปีสามารถทำได้แล้วกว่า 10% คาดว่าปลายปีนี้น่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ทั้งนี้แผนการรุกตลาดในปี 2561 ยังเน้นการรุกอีเวนต์ต่างๆ โดยจะดำเนินการควบคู่กับการฉลอง 270 ปีแบรนด์ของบริษัทซึ่งจะรุกงานเอ็กซิบิชันที่นำเสนอชิ้นงานมาสเตอร์พีซในอดีตมานำเสนอ อาทิ ชุดจานชาม ที่เคยถวายองค์โป๊ป หรือจะเป็นชุดจานกระเบื้องที่อยู่ในเรือไททานิครูปแบบจัดแกลเลอรีโชว์
“เป้าหมายปีหน้ายังคาดการณ์จะเติบโตแบบดับเบิลดิจิตโดยโรงงานผลิตที่สระบุรียังส่งออกไปยัง จีน เกาหลี และอีกหลายประเทศในกลุ่ม CLMV นี้ด้วยโดยเฉพาะในประเทศจีนยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ดังนั้นกรณีที่อสังหาริมทรัพย์จีนมาลุยตลาดในเมืองไทย แบรนด์ วิลเลรอยแอนด์ บอคจึงได้รับอานิสงส์ตามไปด้วย โดยได้มีการดีไซน์ตอบโจทย์ผู้สูงอายุที่สนองเทรนด์ความต้องการในช่วงนี้ได้อีกด้วย”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,295 วันที่ 10 - 13 กันยายน พ.ศ. 2560
