ทุนไทยชงนายกฯเวียดนาม ลดขั้นตอนขอใบอนุญาตแนะรวมศูนย์บริการจุดเดียว
บิ๊กทุนไทยเผยรัฐบาลเวียดนามอยากให้ไทยไปลงทุนในเวียดนามมากขึ้น ประกาศจีดีพีโต 6.5% รัฐบาลต้องการแปรสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นวิสาหกิจเอกชนในหลายๆ อุตสาหกรรม และเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนต่อเนื่อง ด้านไทยเสนอให้เวียดนามอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการออกใบอนุญาตต่างๆรวมจุดเดียว เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน
[caption id="attachment_152087" align="aligncenter" width="503"]
สนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัทSITHAI[/caption]
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทยเวียดนาม เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อเร็วๆนี้สภาธุรกิจไทยเวียดนามและ Mr.Don Lam ประธาน Vina Capital ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อร่วมปรึกษาหารือกับนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตลอดจนคณะรัฐมนตรีและนักธุรกิจชั้นนำจากเวียดนาม เช่น ผู้บริหาร viet jet ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โดยฝ่ายไทยประกอบด้วย รัฐมนตรี ทูต และนักธุรกิจชั้นนำกว่า 10 ราย ที่ส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนอยู่แล้วในเวียดนาม เช่นบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และเอสซีจี รวมถึงสถาบันการเงินจาก ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และตัวแทนภาคเอกชนในนามหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) โดยทั้ง 2 ฝ่ายหารือร่วมกันด้านการค้าการลงทุน รวมถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องการให้รัฐบาลเวียดนามอำนวยความสะดวกให้
ทั้งนี้ผลการหารือดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า นายกรัฐมนตรีเวียดนามเชิญชวนนักธุรกิจไทยไปลงทุนในเวียดนามมากขึ้น โดยรัฐบาลเวียดนามจะอำนวยความสะดวกให้การลงทุนราบรื่น บรรยากาศการลงทุนในเวียดนามดีมาก จีดีพีของเวียดนามเติบโต ในอัตราสูงหลายปีต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้จีดีพีเติบโต 6.5% รัฐบาลเวียดนามต้องการแปรสภาพรัฐวิสากิจให้เป็นวิสาหกิจเอกชนในหลายๆ อุตสาหกรรม และเปิดให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนต่อเนื่อง เช่น กลุ่มเอสซีจี (SCG) ลงทุนในเวียดนามเป็นจำนวนถึง 1.9 แสนล้านบาท ในกิจการปิโตรเคมีเป็นต้น
ด้านฝ่ายไทยได้แสดงความประสงค์ให้ฝ่ายเวียดนามอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการออกใบอนุญาตต่างๆให้รวมศูนย์ที่จุดเดียว one stop service เพื่อลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งทางฝ่ายเวียดนามได้ขอให้ฝ่ายไทยแจ้งปัญหาอุปสรรคในการลงทุนให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไข นอกจากนั้นภาคเอกชนไทยเสนอให้ 2 ประเทศใช้การออกวีซ่าร่วมกันเพื่อให้ผู้เดินทางสามารถขอวีซ่าครั้งเดียว ก็เข้าออกได้ 2 ประเทศ นอกจากนี้สายการบิน Viet jet ของเวียดนามประสงค์ขยายเส้นทางการบินเพื่อครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวของไทย เช่น ภูเก็ต สมุย และเชียงใหม่ เป็นต้น
เอกชนไทยก็ได้แสดงความสนใจการลงทุน เช่น กลุ่มไทยเบฟซื้อกิจการ F&N จากมาเลเซีย ก็ต้องการขยายการลงทุนต่อเนื่อง ด้านสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ ธนาคารพาณิชย์ของไทยก็ขอให้ฝ่ายเวียดนามผ่อนคลายกฎเกณฑ์การออกใบอนุญาตจัดตั้งสาขาธนาคารให้แก่ธนาคารต่างชาติ เนื่องจากเวียดนามกำลังประสบอุทกภัยร้ายแรง ผู้ประกอบการไทยจะรวบรวมเงินเพื่อสมทบการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยนำไปมอบให้รัฐบาลเวียดนาม เพื่อบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ภาคเอกชนไทยจะร่วมมือกับภาคเอกชนเวียดนามอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยกันผลักดันการค้าไทย-เวียดนามให้บรรลุเป้าหมาย 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2020 ซึ่งมูลค่าการค้าไทย-เวียดนาม นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน เท่ากับ 13,900 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยพยายามให้การสนับสนุน SMEs เวียดนาม ในการเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยสนับสนุนให้ SME เวียดนามนำสินค้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เช่น กลุ่มเซ็นทรัลได้จัดแสดงสินค้าจากเวียดนามเป็นเวลา 4 วันที่เซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อเร็วๆนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
[caption id="attachment_152087" align="aligncenter" width="503"]
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาธุรกิจไทยเวียดนาม เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เมื่อเร็วๆนี้สภาธุรกิจไทยเวียดนามและ Mr.Don Lam ประธาน Vina Capital ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อร่วมปรึกษาหารือกับนายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามตลอดจนคณะรัฐมนตรีและนักธุรกิจชั้นนำจากเวียดนาม เช่น ผู้บริหาร viet jet ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี โดยฝ่ายไทยประกอบด้วย รัฐมนตรี ทูต และนักธุรกิจชั้นนำกว่า 10 ราย ที่ส่วนใหญ่เข้าไปลงทุนอยู่แล้วในเวียดนาม เช่นบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , บริษัท เบอร์ลี่ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัล กรุ๊ป จำกัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และเอสซีจี รวมถึงสถาบันการเงินจาก ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ และตัวแทนภาคเอกชนในนามหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) โดยทั้ง 2 ฝ่ายหารือร่วมกันด้านการค้าการลงทุน รวมถึงปัญหาอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องการให้รัฐบาลเวียดนามอำนวยความสะดวกให้
ด้านฝ่ายไทยได้แสดงความประสงค์ให้ฝ่ายเวียดนามอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการออกใบอนุญาตต่างๆให้รวมศูนย์ที่จุดเดียว one stop service เพื่อลดขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ ซึ่งทางฝ่ายเวียดนามได้ขอให้ฝ่ายไทยแจ้งปัญหาอุปสรรคในการลงทุนให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับทราบ เพื่อนำไปปรับปรุง แก้ไข นอกจากนั้นภาคเอกชนไทยเสนอให้ 2 ประเทศใช้การออกวีซ่าร่วมกันเพื่อให้ผู้เดินทางสามารถขอวีซ่าครั้งเดียว ก็เข้าออกได้ 2 ประเทศ นอกจากนี้สายการบิน Viet jet ของเวียดนามประสงค์ขยายเส้นทางการบินเพื่อครอบคลุมแหล่งท่องเที่ยวของไทย เช่น ภูเก็ต สมุย และเชียงใหม่ เป็นต้น
เอกชนไทยก็ได้แสดงความสนใจการลงทุน เช่น กลุ่มไทยเบฟซื้อกิจการ F&N จากมาเลเซีย ก็ต้องการขยายการลงทุนต่อเนื่อง ด้านสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ ธนาคารพาณิชย์ของไทยก็ขอให้ฝ่ายเวียดนามผ่อนคลายกฎเกณฑ์การออกใบอนุญาตจัดตั้งสาขาธนาคารให้แก่ธนาคารต่างชาติ เนื่องจากเวียดนามกำลังประสบอุทกภัยร้ายแรง ผู้ประกอบการไทยจะรวบรวมเงินเพื่อสมทบการเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยนำไปมอบให้รัฐบาลเวียดนาม เพื่อบรรเทาทุกข์ให้ผู้ประสบภัย
ทั้งนี้ภาคเอกชนไทยจะร่วมมือกับภาคเอกชนเวียดนามอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยกันผลักดันการค้าไทย-เวียดนามให้บรรลุเป้าหมาย 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2020 ซึ่งมูลค่าการค้าไทย-เวียดนาม นับจากต้นปีถึงปัจจุบัน เท่ากับ 13,900 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยพยายามให้การสนับสนุน SMEs เวียดนาม ในการเพิ่มขีดความสามารถในการทำธุรกิจ เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยสนับสนุนให้ SME เวียดนามนำสินค้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เช่น กลุ่มเซ็นทรัลได้จัดแสดงสินค้าจากเวียดนามเป็นเวลา 4 วันที่เซ็นทรัลลาดพร้าวเมื่อเร็วๆนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,291 วันที่ 27 - 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560