ทางออกนอกตำรา : บทเรียนจำนำข้าว รับชอบได้-ก็ต้องรับผิดได้

19 ส.ค. 2560 | 20:19 น.

2546879


ทางออกนอกตำรา
โดย...บากบั่น บุญเลิศ


บทเรียนจำนำข้าว รับชอบได้-ก็ต้องรับผิดได้

9

ต้องยอมรับว่านโยบายจำนำข้าวเกวียนละ 15,000 บาท ที่  “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” คือหนึ่งในแรงผลักดันให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ทางการเมืองไทย โดยใช้เวลาเพียง 49 วัน ในการหาเสียงลงเลือกตั้ง ก่อนก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 ของไทย


92

 “โครงการรับจำนำข้าว เกวียนละ 15,000 บาท” เพื่อช่วยเหลือ “ชาวนา” ให้ลืมตาอ้าปากขึ้นมาอีกครั้ง ฮอตฮิตติดลมบน มากกว่านโยบายประกันราคาข้าวของ “พ่อมาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แห่งพรรคประชาธิปัตย์ เพราะราคาที่รับจำนำสูงกว่าราคาตลาดมากๆ


Image (1)

ผมไปสืบค้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของนางสาวยิ่งลักษณ์ ในช่วงวันที่ 23-24 ส.ค.2554 เธอระบุว่า "สถานการณ์ในขณะนี้สภาพเศรษฐกิจไทยยังไม่เข้มแข็ง คนไทยในระดับฐานรากที่ส่วนใหญ่อยู่ในภาคการเกษตรยังมีรายได้น้อย และขาดโอกาสในการเพิ่มรายได้ ทำให้ไม่มีกำลังมากพอเติบโตเป็นชนชั้นกลางได้"

91

นางสาวยิ่งลักษณ์ แถลงว่า ดังนั้นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องเริ่มทำในช่วงปีแรก คือ โครงการรับจำนำข้าว เพื่อยกระดับสินค้าเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพที่เหมาะสม คำนึงถึงกลไกราคาตลาดโลก โดยใช้วิธีบริหารจัดการทางการตลาด และกลไกตลาดซื้อขายล่วงหน้า เพื่อผลักดันให้เกษตรกรสามารถขายสินค้าเกษตรได้ในราคาสูงเพียงพอ เมื่อเทียบกับต้นทุนเริ่มต้นจากการรับจำนำข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้นไม่เกิน 15% ที่ราคาเกวียนละ 15,000 บาท และ 20,000 บาท ตามลำดับ

95 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 23ส.ค.2554


7 ต.ค.2554 รัฐบาลยิ่งลักษณ์จึงเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวอย่างคึกคัก และแทบไม่น่าเชื่อว่าภายในสัปดาห์เดียวที่รับจำนำข้าว กระทรวงพาณิชย์ประกาศว่าได้ตกลงขายข้าวแบบจีทูจีกับจีนแล้ว

เรียกว่า ได้ข้าวมายังไม่ทันเต็มยุ้งฉางหรือโกดังอ.ต.ก. ก็มีสัญญาขายแบบจีทูเจี๊ยะ เรียบร้อย....สะท้อนว่า มีการเตรียมการมาอย่างดี...
1503176269672

ปู3

ในห้วงเวลาดังกล่าวนั้นเอง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือด่วนที่สุดถึง นางสาวยิ่งลักษณ์รวม 3 ฉบับ เพื่อสะท้อนภาพปัญหาการใช้งบประมาณที่ค่อนข้างสูงไปซื้อข้าวแบบขายขาดจากชาวนา ภายใต้วาทกรรม “รับจำนำข้าว”

1503176212544
ปู-2
                                 

ฉบับแรก สตง.ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 24 ส.ค.2554 เรื่อง สรุปประเด็นปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ ที่พบจากการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

ฉบับที่สอง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 9 ม.ค.2555 เรื่อง ปัญหาและความเสี่ยงสำคัญที่จะส่งผลกระทบ ให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว

ฉบับที่ 3 สตง.ส่งหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 10 ก.ย.2555 เรื่อง ปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ ที่จะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก

ereerrrrrr
ผมไปอ่านมาแล้วพบว่า หนังสือทั้ง 3 ฉบับที่ สตง.ทำรายงานถึงนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ บรรยายและชี้ให้เห็นสภาพปัญหา ความเสี่ยงในโครงการรับจำนำข้าว โดยระบุชัดว่า อาจเกิดการขาดทุนอันมหาศาล และทำให้เกิดความเสียหายต่อเงินแผ่นดินได้

แต่รัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ยืนยันต่อ สตง.และสังคมอย่างแข็งขันว่า โครงการรับจำนำข้าว คือ นโยบายช่วยเหลือชาวนา และเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาไปแล้ว ไม่สามารถยกเลิกได้

สำหรับประเด็นเรื่องการขาดทุนต่างๆ ไม่สามารถนำมาคำนวณกับประโยชน์ที่ชาวนาได้รับได้ เนื่องจากเป็นนโยบายสาธารณะเกิดขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชน ไม่ควรนำมาคิดผลกำไรหรือขาดทุน...

8589+898
รัฐบาลเดินหน้าจำนำข้าวโดยไม่สนใจผลการขาดทุน ทั้งๆ ที่การดำเนินการรับจำนำข้าวสูงเกินเพดาน สูงเกินวงเงินที่รัฐจะจัดสรรมาใช้ และวงเงินที่ใช้ในการรับจำนำข้าวก็เกินเพดานที่ ธ.ก.ส.จะรับได้ หมุนใช้อย่างไรก็หาเงินมาจำนำต่อไม่ได้

สตง.ดูจะไม่ละเลยในการทำหน้าที่ ช่วงต้นปี 2557 สตง. ได้ทำหนังสือถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ และนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และ รมว.คลัง อีก 2 ฉบับ

ฉบับแรก สตง.ส่งหนังสือถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ด่วนที่สุด ลงวันที่ 30 ม.ค.2557 เรื่อง การตรวจสอบและศึกษาวิเคราะห์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล และรายงานการตรวจสอบและศึกษาวิเคราะห์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลฉบับเต็ม

1503167949505

ฉบับที่ 2 สตง.ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงนายกิตติรัตน์  ลงวันที่ 31 ม.ค.2557 เรื่อง การตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือกรัฐบาล โดยระบุสาระสำคัญคือ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการจัดหาแหล่งเงินกู้เพื่อนำมาใช้ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล

skkkk

“ไม่ว่าจะจัดหาเงินกู้จากแหล่งใด จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่ขัดหรือแย้งต่อบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ตลอดจนขั้นตอนการดำเนินงานที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องโดยเคร่งครัด และรอบคอบ เพราะหากการดำเนินการดังกล่าวเข้าสู่การวินิจฉัยชี้ขาดโดยองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแล้วปรากฏว่า การดำเนินการไม่ถูกต้อง ผู้อนุมัติและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น” หนังสือ สตง.ระบุ

เตือนกันตรงๆ หนักหน่วงขนาดนี้ แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่สามารถยกเลิกโครงการได้ เนื่องจากเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา หากยกเลิกอาจขัดต่อกฎหมายได้ ที่สำคัญได้พยายามปรับลดวงเงินลงแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกินวงเงินงบประมาณที่วางไว้

564547
ผมพยายามควานหาหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำเรียนถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์ความไม่ชอบมาพากลในโครงการรับจำนำข้าว ที่ชี้ไปถึงการทุจริตในโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)  แต่ยังหาตัวจริงไม่เจอ

แต่อย่างน้อยทำให้เห็นภาพว่า หน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่ตรวจสอบได้ทำหน้าที่ตัวเองเต็มที่ แต่ผู้นำรัฐบาล กลับเพิกเฉยในความเสียหายที่ใช้เงินไป 9.8 แสนล้านบาท แต่เงินถึงมือเกษตรกรชาวนาจริงแค่ 2- 3 แสนล้านบาท เงินที่เหลือไปตกอยู่ในมือของ “กลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า-เพรสสิเด้น อะกริฟู้ด-เมอร์รี่ไรซ์แลนด์-คิงดอม

aaa48906954 อภิชาติ จันทร์สกุลพร 


ไรซ์ ไซโล” ของ เสี่ยเปี๋ยง-อภิชาติ จันทร์สกุลพร  จนนำไปสู่การฟ้องร้องทางคดีต่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ปล่อยปละละเว้นให้มีการขายข้าวจีทูเจี๊ยะ และปล่อยให้มีการนำข้าวที่รับจำนำและขายแบบจีทูจีแค่กระสอบละ 400-500 บาท มาเวียนจำนำรัฐบาลในราคากระสอบละ 10,000 -15,000 บาท


 นี่คือคำตอบว่าทำไมต้องมีการดำเนินคดีกับผู้กำหนดนโยบาย


สังคมไทยต้องเรียนรู้ และร่วมกันกดดันเพื่อสร้างสำนึกความรับผิด รับชอบให้กับนักการเมือง ที่อาสาเข้ามาหาอำนาจในการบริหารประเทศว่า “รับชอบอย่างเดียวไม่พอ ต้องรับผิดด้วย”

pewpewhghjhjh

ผมจำได้ว่าภาคีเครือข่ายองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2557 เมื่อ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวกร่วมขบวนการรวม 15 ราย ที่ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในกรณีการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐกับจีนนั้น ไม่มีความจริง และไม่มีการส่งออกข้าวออกนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด

นายกฯตรวจจำนำข้าว
แต่เป็นการร่วมกันปิดบังอำพราง อ้างการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐระหว่างไทยกับจีน เพื่อขายข้าวในราคาตํ่าแบบขาดทุน ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ ขณะที่ ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กรณีที่ทราบข้อเท็จจริง แต่ละเลยไม่ระงับหรือยับยั้ง อันอาจเป็นมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่น จะต้องรับผิดชอบด้วย จะปัดความรับผิดชอบไม่ได้….

photo

20 ม.ค. 2557นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน
แถลงการณ์หนุนป.ป.ช.เอาผิดทุจริตขายข้าวจีทูจี


ประวัติศาสตร์ใหม่ทางการเมืองกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ครบรอบ 6 ปี หลังยิ่งลักษณ์แถลงต่อรัฐสภาเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าว คนไทยทุกคนจะต้องเรียนรู้...และช่วยกัน สั่งสอนนักการเมือง ให้รับผิด รับชอบ กับสิ่งที่ทำ...

355272

คอลัมน์ : ทางออกนอกตำรา/ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ/ ฉบับ 3289 ระหว่างวันที่ 20-23 ส.ค.2560

E-BOOK แดง