พฤกษาปลื้มยอดขายทะลุ กลุ่มลูกค้า‘บ้าน-คอนโดหรู’โตดับเบิล

22 ส.ค. 2560 | 11:46 น.
“พฤกษา” โชว์ผลงานเด่น ไม่ถึงปีชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดพรีเมียมแล้ว 5% ลั่นภายใน 2-3 ปี มาร์เก็ตแชร์ก้าวสู่ 10% ได้แน่นอน มั่นใจปีนี้กวาดยอดขายดับเบิลทาร์เก็ตจากเป้าที่ตั้งไว้ 4,199 ล้านบาท ยํ้าพอร์ตรายได้กลุ่มพรีเมียมปี 2564 จะขยับสู่ 30% ตามเป้า

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท-พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งแรกปี 2560 ตลาดรวมในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑลมีอัตราการเติบโตในส่วนของมูลค่าประมาณกว่า 1.98 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 16% ขณะที่จำนวนหน่วยมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 8% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกปี 2559

[caption id="attachment_141874" align="aligncenter" width="503"] ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต[/caption]

โดยมูลค่าตลาดที่เติบโตกว่า 1.98 แสนล้านบาทนั้น อยู่ในกลุ่มคอนโดมิเนียมถึงกว่า 1.06 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตที่ 35% เมื่อแยกพิจารณาตามกลุ่มระดับราคาจะพบว่า กลุ่มที่มีระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทต่อหน่วย มีอัตราการเติบโตถึง 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 แสดงให้เห็นว่ามูลค่าตลาดที่เติบโตมาจากสินค้าระดับบน

“ในช่วงครึ่งแรกปี 2560 เป็นช่วงที่ตลาดกลาง-ล่างได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ประจวบเหมาะกับที่ตลาดบนได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น และนี่ก็เป็นเหตุผลที่พฤกษาต้องเข้ามาจับตลาดบน แม้ว่าจะมีมาร์เก็ตแชร์เพียง 20-30% เท่านั้น สำหรับเป้าหมายยอดขายกลุ่มพรีเมียมทั้งปีอยู่ที่ 4,199 ล้านบาท แต่แค่ช่วงครึ่งแรกปี 2560 บริษัทมียอดขายแล้ว 4,687 ล้านบาท และมั่นใจว่าปีนี้ยอดขายจะดับเบิลทาร์เก็ตจากเป้าที่ตั้งไว้ 4,199 ล้านบาทอย่างแน่นอน” นายประเสริฐ กล่าว

สำหรับมาร์เก็ตแชร์สินค้าประเภทพรีเมียมระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาท ในปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5% จากมูลค่ารวมของตลาดคอนโดมิเนียมกว่า 1.06 แสนล้านบาท เนื่องจากบริษัทเน้นพัฒนาสินค้ากลุ่มกลาง-ล่าง ขณะที่สินค้าในกลุ่ม 2-3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทเรียกว่ากลุ่มพรีเมียมแมส ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ที่ประมาณ 8% เหตุที่สามารถครองมาร์เก็ตแชร์ได้ในสัดส่วนที่สูง แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามาทำตลาดก็เนื่องจากว่า บริษัทมีการพัฒนาโครงการที่มีความแตกต่าง และโดดเด่นกว่าสินค้าอื่นในตลาด

จากอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในอนาคตพอร์ตสินค้ากลุ่มพรีเมียมจะขยับสู่ 30% ของพอร์ตรายได้รวมของบริษัทภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 5% มีพรีเซลอยู่ที่ประมาณ 17.9% ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2560 ของการเข้ามารุกตลาดนี้อย่างจริงจัง โดยยอดพรีเซลของทั้งบริษัทอยู่ที่ 21,488 ล้านบาท อยู่ในกลุ่มพรีเมียม 4,687 ล้านบาท และมียอดขายรอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) อยู่ที่ 5,744 ล้านบาท จาก 4 โครงการ ได้แก่ โครงการเดอะ รีเซิร์ฟ ทองหล่อ โครงการแชปเตอร์วัน มิดทาวน์ ลาดพร้าว 24 โครงการแชปเตอร์วัน อีโค่ และโครงการแชปเตอร์ วัน ชายน์ บางโพ จากแบ็กล็อกที่มีอยู่ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า รายได้จากกลุ่มพรีเมียมจะแตะหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน

สำหรับโครงการที่จะเปิดในช่วงครึ่งหลังปี 2560 เตรียมเปิด 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3 จะเปิดคอนโดมิเนียมเดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์มูลค่า 1,900 ล้านบาท ที่เหลือจะเปิดในไตรมาส 4 ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมเดอะ รีเซิร์ฟ สุขุมวิท 61 โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์เดอะปาล์ม ใน 3 ทำเล ได้แก่ กาญจนาภิเษก-ปิ่นเกล้า, รามคำแหง-วงแหวน และอ่อนนุช-วงแหวน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,289 วันที่ 20 - 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560