“สรศักดิ์”ยันก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่โปร่งใส
“สรศักดิ์” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยัน ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ โปร่งใส ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายในปี 2562 เชื่อมั่น สมาชิกรัฐสภาและขรก. เข้าใช้งานได้ภายในปี 2563
นายสรศักดิ์ เพียรเวช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 สิงหาคม) นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนทหาร แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยเปิดเผยผลการดำเนินงานก่อสร้งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า มีความคืบหน้าในภาพรวมร้อยละ 38 % ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 และนำสมาชิกรัฐสภาและข้าราชการเข้าใช้งานได้ภายในปี 2563
กรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นนั้น ยืนยันว่า ช่วงเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนับเป็นคนที่ 4 ที่เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ ได้ผลักดันการจัดสรรงบประมาณเพื่อเร่งให้การก่อสร้างเสร็จทันตามกำหนดเวลา ขอยืนยันว่า ช่วงเวลาการบริหารงานของตนเองนั้นไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่วงการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงเชื่อว่า ไม่มีใครกล้าที่จะทุจริตอย่างแน่นอน
ด้านนายพินิจ พูจเกิด ผู้จัดการสำนักงานที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 กรกฎกาคม 2560 มีความคืบหน้าประมาณ 38 % โดยในส่วนงานก่อสร้างอาคารแห่งใหม่นั้น มีความก้าวหน้าประมาณ 44.09 % แบ่งเป็น งานโครงสร้าง 91.64 % งานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน และเครื่องยอด 5.31% และงานระบบประกอบอาคาร 34.13 % โดยงานโครงสร้างในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนั้น ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนตรงกลางดำเนินการถึงชั้นที่ 9-10 แล้ว เหลืออีกเพียง 2-3 ชั้นเท่านั้น และคาดว่า ต้นปี 2561 จะสามารถสร้างฐานยอดได้
สำหรับงานประกอบอาคาร ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า สุขาภิบาล ดับเพลิง เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ได้ดำเนินการควบคู่กันไป ส่วนความคืบหน้าของเครื่องยอดมีทั้งหมด 5 ส่วน ได้ดำเนินการไปแล้ว 33 %
ขณะที่นายพีระ นาควิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิโนไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะอำนวยการโครงการฯ ระบุกรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีการทุจริตในโครงการว่า ควรจะชี้ให้ชัดว่า ทุจริตส่วนไหน เพราะขณะนี้งานก่อสร้างมีงบประมาณที่ขาดทุนอยู่ อีกทั้งหากจะมีการทุจริตในโครงการของรัฐ ต้องเริ่มมาจากกรอบงบประมาณตั้งแต่ต้น โดยโครงการก่อสร้างดังกล่าว เริ่มในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
ส่วนกรณีที่กล่าวว่ามีการเปลี่ยนแบบเพื่อให้บริษัทชิโนไทยฯ ได้เปรียบนั้น ไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ดี หากมีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบเอกสารได้ ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้ เป็นโครงการที่สะอาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการฯ ชี้แจงถึงสาเหตุความล่าช้าในการก่อสร้างว่า เป็นเหตุมาจากที่ดิน และการส่งมอบที่ดินล่าช้าของโรงเรียนโยธินบูรณะ จำนวน 32.2 ไร่ ซึ่งล่าช้าไป 940 วัน จึงกระทบต่อการดำเนินการ และมี 2 ส่วนที่หากโครงการไม่แล้วเสร็จจะได้รับผลกระทบได้แก่ งานที่ได้มีการออกแบบแล้ว ประกอบด้วย งานเทคโนโลยีโสตทัศนูปกรณ์ 3,000 ล้านบาท และงานสาธารณูปโภค จำนวน 570 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 3,570 ล้านบาท รวมถึงงานที่ยังไม่ได้อยู่ในแบบและยังไม่ได้ของบประมาณ ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติงบประมาณในปี 2561 และ 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 สิงหาคม) นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนทหาร แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ โดยเปิดเผยผลการดำเนินงานก่อสร้งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า มีความคืบหน้าในภาพรวมร้อยละ 38 % ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 และนำสมาชิกรัฐสภาและข้าราชการเข้าใช้งานได้ภายในปี 2563
กรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นนั้น ยืนยันว่า ช่วงเข้ามารับตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนับเป็นคนที่ 4 ที่เข้ามาดูแลในเรื่องนี้ ได้ผลักดันการจัดสรรงบประมาณเพื่อเร่งให้การก่อสร้างเสร็จทันตามกำหนดเวลา ขอยืนยันว่า ช่วงเวลาการบริหารงานของตนเองนั้นไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่วงการบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงเชื่อว่า ไม่มีใครกล้าที่จะทุจริตอย่างแน่นอน
ด้านนายพินิจ พูจเกิด ผู้จัดการสำนักงานที่ปรึกษาบริหารโครงการฯ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ผลการดำเนินงาน ณ วันที่ 31 กรกฎกาคม 2560 มีความคืบหน้าประมาณ 38 % โดยในส่วนงานก่อสร้างอาคารแห่งใหม่นั้น มีความก้าวหน้าประมาณ 44.09 % แบ่งเป็น งานโครงสร้าง 91.64 % งานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน และเครื่องยอด 5.31% และงานระบบประกอบอาคาร 34.13 % โดยงานโครงสร้างในส่วนของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรนั้น ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนตรงกลางดำเนินการถึงชั้นที่ 9-10 แล้ว เหลืออีกเพียง 2-3 ชั้นเท่านั้น และคาดว่า ต้นปี 2561 จะสามารถสร้างฐานยอดได้
สำหรับงานประกอบอาคาร ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า สุขาภิบาล ดับเพลิง เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ได้ดำเนินการควบคู่กันไป ส่วนความคืบหน้าของเครื่องยอดมีทั้งหมด 5 ส่วน ได้ดำเนินการไปแล้ว 33 %
ขณะที่นายพีระ นาควิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิโนไทยเอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะอำนวยการโครงการฯ ระบุกรณีที่มีการกล่าวหาว่า มีการทุจริตในโครงการว่า ควรจะชี้ให้ชัดว่า ทุจริตส่วนไหน เพราะขณะนี้งานก่อสร้างมีงบประมาณที่ขาดทุนอยู่ อีกทั้งหากจะมีการทุจริตในโครงการของรัฐ ต้องเริ่มมาจากกรอบงบประมาณตั้งแต่ต้น โดยโครงการก่อสร้างดังกล่าว เริ่มในสมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล
ส่วนกรณีที่กล่าวว่ามีการเปลี่ยนแบบเพื่อให้บริษัทชิโนไทยฯ ได้เปรียบนั้น ไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ดี หากมีข้อสงสัยสามารถตรวจสอบเอกสารได้ ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้ เป็นโครงการที่สะอาดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
นายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการฯ ชี้แจงถึงสาเหตุความล่าช้าในการก่อสร้างว่า เป็นเหตุมาจากที่ดิน และการส่งมอบที่ดินล่าช้าของโรงเรียนโยธินบูรณะ จำนวน 32.2 ไร่ ซึ่งล่าช้าไป 940 วัน จึงกระทบต่อการดำเนินการ และมี 2 ส่วนที่หากโครงการไม่แล้วเสร็จจะได้รับผลกระทบได้แก่ งานที่ได้มีการออกแบบแล้ว ประกอบด้วย งานเทคโนโลยีโสตทัศนูปกรณ์ 3,000 ล้านบาท และงานสาธารณูปโภค จำนวน 570 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 3,570 ล้านบาท รวมถึงงานที่ยังไม่ได้อยู่ในแบบและยังไม่ได้ของบประมาณ ซึ่งจะต้องได้รับอนุมัติงบประมาณในปี 2561 และ 2562
