ผาแดงกำไรพุ่ง 109% อานิสงส์ราคาสังกะสีขึ้น-บาทแข็ง

"ผาแดง" อวดงบไตรมาส 2 กำไรสุทธิ 210 ล้านบาท เติบโต 109% จากงวดปีก่อน หนุนครึ่งปีกำไร 523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 300% อานิสงส์ราคาสังกะสีพุ่ง 36% และเงินบาทแข็งค่า พร้อมหาโอกาสลงทุนโครงการพลังงานทดแทนเพิ่ม

บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ PDI  แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 210.75 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.93 บาท เพิ่มขึ้น 109% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 100.60 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.45 บาท ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิ 523.36 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.32 บาท เพิ่มขึ้น 300% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 130.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.58 บาท

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวมในไตรมาส 2 ปี 2560 จำนวน 1,371.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของราคาโลหะสังกะสีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และพรีเมียมที่ยังเป็นปัจจัยเสริมต่อผลประกอบการของบริษัทฯ ถึงแม้ปริมาณการขายโลหะสังกะสีจะลดลง 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ราคาโลหะสังกะสีโดยเฉลี่ยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 36% จาก 1,915 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ในไตรมาส 2 ปี 2559 เป็น 2,598 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตันในไตรมาส 2 ปีนี้

ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 3% จาก 35.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 2 ปี 2559 มาเป็น 34.41 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 2 ปี 2560 พรีเมียมจากราคาขายโลหะสังกะสีในไตรมาส 2 ปี 2560 สำหรับตลาดในประเทศยังสูงในระดับเดียวกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการที่บริษัทฯ กำลังจะหยุดดำเนินการผลิตสังกะสีลงในไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจค้าโลหะสังกะสีอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดหาโลหะสังกะสีให้กับกลุ่มลูกค้าในประเทศ

ทั้งนี้ ปริมาณการจำหน่ายโลหะสังกะสีในส่วนที่มาจากธุรกิจค้าโลหะคิดเป็นประมาณ 30% ของปริมาณขายรวมในไตรมาส 2 ปี 2560 ขณะที่ต้นทุนขายและบริการรวมมีจำนวน 1,023.76 ล้านบาท ลดลง 9% จา 1,127.70 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ตามปริมาณการจำหน่ายที่ลดลง

ส่วนงวด 6 เดือนปี 2560 รายได้จากการขายสินค้าและบริการมีจำนวน 2,888.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาโลหะสังกะสีเฉลี่ยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 50% เป็น 2,690 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน จาก 1,796 ดอลลาร์สหรัฐในงวดปีก่อน ช่วยชดเชยผลกระทบจากปริมาณการจำหน่ายที่ลดลง 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 34.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับ 35.64 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในครึ่งปีแรกปี 2559

นอกจากนี้เพื่อให้สินทรัพย์บริษัทฯ สะท้อนมูลค่าที่เป็นปัจจุบันในไตรมาส 2 ปี 2560 บริษัทฯ ได้เปลี่ยนวิธีการตีราคาสินทรัพยจ์ากวิธีราคาทุนมาเป็นวิธีมูลค่ายุติธรรม สำหรับที่ดิน ส่วนปรับปรุงที่ดิน อาคารชุดและอาคารทั่วไป มูลค่ายุติธรรมประเมินโดยผู้ประเมินอิสระซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทฯ ได้รับรู้กำไรสุทธิจากการตีราคาสินทรัพยใหม่ 388.11 ล้านบาทเป็นกำไรเบ็ดเสร็จอื่นและโอนเข้าส่วนของผู้ถือหุ้นโดยตรง อีกทั้งบริษทัฯ ยังได้เปลี่ยนแปลงประมาณการอายุการใช้งานของอาคารชุดและอาคารทั่วไปจาก 20-25 ปี เป็น 20-50 ปี ผลจากการเพิ่มขึ้นในมูลค่าทรัพย์สินนี้จะถูกปรับด้วยค่าเสื่อมราคาในอนาคตตามอายุการใช้งานที่เปลี่ยนไป

บริษัทฯ ยังดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์แห่งที่สองในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 10.57 เมกะวัตต์มีความคืบหน้าเป็นไปด้วยดีและคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาสสามของปี 2560 ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์  6.5 เมกะวัตต์ในจังหวัดตาก ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท พีดีไอแม่ระมาด มีผลดำเนินงานสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งบริษัทฯ ยังหาโอกาสลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป รวมทั้งหาโอกาสลงทุนในโครงการที่มีผลตอบแทนที่ดีและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในเขตภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และอื่นๆโดยเน้นธุรกิจพลังงานทดแทน บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและวัสดุรีไซเคิล รวมถึงเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจก็อยู่ในการพิจารณาลงทุนของบริษัทฯ