LH Bank รุกอินโดจีน ดันสินทรัพย์โต10%

08 ส.ค. 2560 | 21:57 น.
LH Bank ฉลองความสำเร็จจับมือ CTBC Bank ประกาศเดินหน้าลุยธุรกิจบิ๊กคอร์ปอเรตหลังเงินทุน SLL ปึ้กสูง 9 พันล้านบาทต่อราย เร่งพัฒนาระบบเทรดไฟแนนซ์ คาดปี 61 พร้อมทั้งบุคลากร-เทคโนโลยี ตั้งเป้าเติบโตไม่ตํ่ากว่าปีละ 10% ระบุสิ้นปีสินทรัพย์แตะ 2.4 แสนล้านบาท

บริษัทแอลเอชไฟแนนซ์เชียลกรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ LHBANK รับเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 16,599 ล้านบาทจาก CTBC BANK เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2560 โดยปัจจุบัน CTBC BANK ถือหุ้นในสัดส่วน 35.617% เป็นสัดส่วนเท่ากับการถือหุ้นรวมกันของบมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ที่ถือหุ้น 21.879% และบริษัทควอลิตี้เฮ้าส์ฯ ที่ถือหุ้น 13.738% และธนาคารได้ปรับโครงสร้างกรรมการ และโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับการพัฒนาบริการให้ก้าวสู่ระดับสากล

นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ LHBANK กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระหว่าง LHBANK และ CTBC BANK ทั้ง 2 องค์กรจะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้บริการด้วยมาตรฐานสากล และรองรับการเติบโตธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยน และการบริหารการเงินลูกค้าส่วนบุคคล หรือธุรกิจรายย่อยที่จะมุ่งเน้น Digital Banking เป็นต้น

[caption id="attachment_159092" align="aligncenter" width="503"] ศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) ศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล)[/caption]

ส่วนฐานลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ภายหลังความร่วมมือทำให้หลักเกณฑ์กำกับลูกหนี้รายใหญ่ (Single Lending Limit: SLL) จะขยายเพิ่มขึ้นจากเดิม 5,800 ล้านบาทต่อราย เป็น 9,000 ล้านบาทต่อราย ซึ่งเป็นโอกาสอย่างมากที่ธนาคารจะขยายธุรกิจกลุ่มนี้ไปในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานหรือธุรกิจข้ามชาติ เป็นต้น

ดังนั้น เป้าหมายระยะต่อไปหลังจากนี้จะเห็นการเติบโตอย่างยั่งยืนอย่างน้อยไม่ตํ่ากว่าปีละ 10% นับตั้งแต่ปี 2561 เนื่องจากในปีนี้จะเน้นเรื่องการวางระบบในส่วนของธุรกิจเทรดไฟแนนซ์ ซึ่งจะต้องใช้เวลา รวมถึงภายในเดือนตุลาคมนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงทีมโครงสร้างผู้บริหารและหาบุคลากรจากไต้หวันมาช่วยเสริม ทำให้ภายในปี 2561-2562 ธนาคารจะมีอัตราที่มีศักยภาพพร้อมดำเนินธุรกิจให้เติบโต

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ ธนาคารยังคงเน้นการเติบโตสินเชื่อกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ตั้งเป้าการเติบโตสินเชื่อและสินทรัพย์อยู่ที่ 6-10% จากปัจจุบันมีสินทรัพย์อยู่ที่ 2.27 แสนล้านบาท คาดภายในสิ้นปีจะจบอยู่ที่ 2.40 แสนล้านบาท ขณะที่ควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ให้อยู่ที่ระดับ 2% แม้ว่าในครึ่งปีแรกจะสูงกว่าเป้าเล็กน้อยอยู่ที่ 2.01% ก็ตาม

“แผนธุรกิจเราทำมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นว่าตอนที่เป็นธนาคารเพื่อรายย่อย สินทรัพย์ประมาณ 80%เป็นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่ปัจจุบันโครงสร้างเปลี่ยนเป็น 65% เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ ต้นปีหน้าจะเริ่มแชร์ลูกค้ารายใหญ่ขยายฐานไปตลาด CLMV”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560