ชาวนาร้องเพิ่มค่าจำนำยุ้งฉาง นํ้าท่วมหอมมะลิเสียหายต้องได้มากกว่า1.4หมื่นบาท
สมาคมชาวนาฯถกผู้ส่งออก เคาะราคาข้าวเปลือกจำนำยุ้งฉาง ปีผลิต 2560/2561 ข้าวเปลือกหอมมะลิ 1.45หมื่นบาท/ตันชี้ผลพวงออร์เดอร์ข้าวพุ่ง-นํ้าท่วมใหญ่อีสานทำผลผลิตเสียหายต้องได้เพิ่ม ขณะ ธ.ก.ส.ระบุให้เท่าปีที่แล้ว 1.3 หมื่นบาท/ตัน ผู้ส่งออกเตรียมช่วยค่าเก็บเกี่ยว 20 ล้านบาท
จากโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวนาปี 2559/2560 หรือจำนำยุ้งฉางที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก สามารถช่วยดึงซัพพลายออกสู่ตลาดและทำให้ชาวนาขายข้าวเปลือกหอมมะลิได้เพิ่มเฉลี่ย1,000-2,000 บาทต่อตันคาดจะส่งผลให้ในปีนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการหารือมาตรการช่วยเหลือผลักดันราคาข้าวเปลือก 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวข้าวเจ้าข้าวหอมปทุมธานีปีนี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีนางสาววิบูลย์ลักษณ์ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ทั้งนี้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระบุจะใช้ราคาจำนำยุ้งฉาง ในปี 2559/2560 อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเหนียว ธ.ก.ส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 90% เท่านั้น หรือในราคา 9,500 บาท/ตัน ส่วนข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 7,800 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเจ้าหรือข้าวขาว ได้รับสนับสนุนสินเชื่อ 7,000 บาท/ตัน บวกค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้มีความชื้นไม่เกิน 15% 2,000 บาท/ตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก 1,500 บาท/ตัน จะทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับเงินในส่วนของข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียว 1.30 หมื่นบาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 1.13 หมื่นบาท/ตัน และข้าวเปลือกเจ้า หรือข้าวขาว 1.05 หมื่นบาทต่อตัน เป้าหมายครั้งนี้ 2 ล้านตันข้าวเปลือก
“ผมไม่เห็นด้วยกับผลการหารือในครั้งนี้ ท่านปลัดจึงให้สมาคมไปหารือนอกรอบกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจึงเป็นที่มาของนัดคุยกันในวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย”
โดยผลสรุปการประชุมในครั้งนี้ผู้ส่งออกเห็นด้วยว่าปีนี้ข้าวในโครงการจำนำยุ้งฉางของชาวนาควรจะปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคำสั่งซื้อและความต้องการข้าวไทยจากต่างประเทศมีเพิ่มขึ้นเช่น อิหร่าน ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ศรีลังกา รวมถึงตลาดอื่นๆ ขณะที่สต๊อกข้าวของรัฐบาลไทยเวลานี้เหลือน้อยมากจึงได้มีการถกราคากันขึ้น โดยฐานราคาจำนำใหม่ทางสมาคมเสนอข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเหนียวเท่ากัน คือที่ 1.10 หมื่นบาท/ตัน รวมค่าอื่นๆเกษตรกรได้ 1.45 หมื่นบาท/ตันส่วนราคาข้าวเหนียวน่าจะปรับลดลง เพราะมีพื้นที่ภาคกลางปลูกเพิ่มขึ้น จากแรงจูงราคาข้าวเหนียวดี สมาคมเห็นด้วยในข้อนี้ ส่วนข้าวชนิดอื่นได้เสนอราคาลดหลั่นตามลำดับ (ดูกราฟิกประกอบ)
นายสุเทพ กล่าวว่าอีกว่า ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ สมาคมจะแถลงข่าวความร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เบื้องต้นผู้ส่งออกจะช่วยค่าเก็บเกี่ยวแก่เกษตรกรไร่ละ 200 บาท ในพื้นที่เป้าหมาย 1 แสนไร่ วงเงิน 20 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือจะเป็นสมาชิกทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) อย่างไรก็ตามหลังจากสถานการณ์นํ้าท่วมคลี่คลายลงแล้ว จะต้องให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประเมินความเสียหายของนาข้าวอีกครั้ง คาดข้าวเปลือกหอมมะลิจะเสียหายมาก(เบื้องต้นนาข้าวอีสานเสียหายกว่า3.95ล้านไร่)ดังนั้นสินเชื่อจำนำยุ้งฉางก็ควรจะปรับเพิ่มขึ้น
สอดคล้องกับนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่กล่าวว่าเห็นด้วยที่จะปรับราคาให้กับชาวนาเพิ่มขึ้นในส่วนของการจำนำยุ้งฉางเพราะไม่กระทบกับกลไกตลาดแต่ราคาก็ควรจะอยู่ในระดับที่เหมาะสมเพราะถ้าสูงเกินไป ชาวนาก็ไม่อยากจะมาไถ่ถอน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560
จากโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวนาปี 2559/2560 หรือจำนำยุ้งฉางที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก สามารถช่วยดึงซัพพลายออกสู่ตลาดและทำให้ชาวนาขายข้าวเปลือกหอมมะลิได้เพิ่มเฉลี่ย1,000-2,000 บาทต่อตันคาดจะส่งผลให้ในปีนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้น
นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการหารือมาตรการช่วยเหลือผลักดันราคาข้าวเปลือก 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวข้าวเจ้าข้าวหอมปทุมธานีปีนี้เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีนางสาววิบูลย์ลักษณ์ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน
ทั้งนี้ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ระบุจะใช้ราคาจำนำยุ้งฉาง ในปี 2559/2560 อาทิ ข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเหนียว ธ.ก.ส.จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 90% เท่านั้น หรือในราคา 9,500 บาท/ตัน ส่วนข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 7,800 บาท/ตัน ข้าวเปลือกเจ้าหรือข้าวขาว ได้รับสนับสนุนสินเชื่อ 7,000 บาท/ตัน บวกค่าเก็บเกี่ยวและค่าปรับปรุงคุณภาพข้าว ให้มีความชื้นไม่เกิน 15% 2,000 บาท/ตัน และค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก 1,500 บาท/ตัน จะทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้รับเงินในส่วนของข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลิ และข้าวเปลือกเหนียว 1.30 หมื่นบาทต่อตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 1.13 หมื่นบาท/ตัน และข้าวเปลือกเจ้า หรือข้าวขาว 1.05 หมื่นบาทต่อตัน เป้าหมายครั้งนี้ 2 ล้านตันข้าวเปลือก
“ผมไม่เห็นด้วยกับผลการหารือในครั้งนี้ ท่านปลัดจึงให้สมาคมไปหารือนอกรอบกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจึงเป็นที่มาของนัดคุยกันในวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย”
โดยผลสรุปการประชุมในครั้งนี้ผู้ส่งออกเห็นด้วยว่าปีนี้ข้าวในโครงการจำนำยุ้งฉางของชาวนาควรจะปรับเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากคำสั่งซื้อและความต้องการข้าวไทยจากต่างประเทศมีเพิ่มขึ้นเช่น อิหร่าน ฟิลิปปินส์ บังกลาเทศ ศรีลังกา รวมถึงตลาดอื่นๆ ขณะที่สต๊อกข้าวของรัฐบาลไทยเวลานี้เหลือน้อยมากจึงได้มีการถกราคากันขึ้น โดยฐานราคาจำนำใหม่ทางสมาคมเสนอข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเหนียวเท่ากัน คือที่ 1.10 หมื่นบาท/ตัน รวมค่าอื่นๆเกษตรกรได้ 1.45 หมื่นบาท/ตันส่วนราคาข้าวเหนียวน่าจะปรับลดลง เพราะมีพื้นที่ภาคกลางปลูกเพิ่มขึ้น จากแรงจูงราคาข้าวเหนียวดี สมาคมเห็นด้วยในข้อนี้ ส่วนข้าวชนิดอื่นได้เสนอราคาลดหลั่นตามลำดับ (ดูกราฟิกประกอบ)
สอดคล้องกับนายเจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่กล่าวว่าเห็นด้วยที่จะปรับราคาให้กับชาวนาเพิ่มขึ้นในส่วนของการจำนำยุ้งฉางเพราะไม่กระทบกับกลไกตลาดแต่ราคาก็ควรจะอยู่ในระดับที่เหมาะสมเพราะถ้าสูงเกินไป ชาวนาก็ไม่อยากจะมาไถ่ถอน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560