กรุงศรีเผยเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบในปีนี้

27 ก.ค. 2560 | 10:50 น.
กรุงศรีเผยเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบในปีนี้ หลังคงดอกเบี้ยตามคาด หนุนบาทแข็ง

ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)  มีความเห็นต่อผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ในช่วงที่ 1.00-1.25% ตามความคาดหมาย  โดยเฟดระบุว่าจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไปหลังปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 1% แล้วนับตั้งแต่ปี 2558 ประเด็นหลักของแถลงการณ์เฟดอยู่ที่ ภาวะเงินเฟ้อซึ่งเฟดยอมรับว่าปรับตัวลดลงและอาจไม่ใช่ปรากฏการณ์ชั่วคราว รวมถึงการส่งสัญญาณในเรื่องการลดการถือครองพันธบัตรในเร็วๆ นี้ ท่าทีล่าสุดดังกล่าวบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างมากที่สุดอีกเพียง 1 ครั้ง ในช่วงที่เหลือของปี 2560 และจะเริ่มประกาศปรับลดขนาดงบดุลในเดือนกันยายนนี้

12994465_s ค่าเงินบาทแข็งค่าสู่ระดับ 33.37 ในช่วงเปิดการซื้อขายเช้านี้ เทียบกับ 33.49 ช่วงท้ายตลาดเมื่อวานนี้ หลังการปรับลดลงของดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับ 6 สกุลเงินสำคัญ โดยเงินยูโรแข็งค่าสุดในรอบสองปีครึ่ง และเงินบาททำสถิติแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 26 เดือนครั้งใหม่  ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทุกช่วงอายุปรับลดลงหลังเฟดเปิดเผยแถลงการณ์  ส่วนสัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้าบ่งชี้ว่า ความน่าจะเป็นของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมลดลงต่ำกว่า 50% ขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์หนุนราคาทองคำขึ้นด้วย

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์มองว่า แนวโน้มการไหลเข้าของเงินทุนสู่ตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทย ยังคงขาดความต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนปรับสถานะพอร์ตลงทุนตามกระแสข่าวที่เข้ามากระทบรายวัน แม้ว่าดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า หลังจากมีกระแสการเริ่มคุมเข้มนโยบายการเงินนอกสหรัฐฯ แต่ยังมีโอกาสที่ดอลลาร์จะเคลื่อนไหวกลับทิศทางเป็นแข็งค่าในระยะสั้น หลังจากค่าเงินดอลลาร์สะท้อนข่าวเชิงลบและอ่อนค่าลงมาพอสมควร ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับปัจจัยชี้นำสำคัญถัดไป ตลาดจะให้ความสนใจกับการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาสสองของสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้ รวมถึงการลงมติของวุฒิสภาเพื่อเห็นชอบแผนการยกเลิกและแทนที่กฎหมายประกันสุขภาพ โอบามาแคร์ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ อาทิ โครงการปฏิรูปภาษี และการลงทุนขนาดใหญ่ต่อไป