“ประชาชนร้อยละ 87.5 คาดหวังจากการปฏิรูปตำรวจครั้งนี้ว่า จะเห็นการทำงานของตำรวจที่เป็นธรรมกับประชาชนมากที่สุด โดยร้อยละ 26.5 อยากให้ตำรวจขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี ขณะที่ร้อยละ 59.0 เห็นควรแยกอำนาจการสอบสวนจากตำรวจ และร้อยละ 59.1 เห็นควรพิจารณาจากระดับอาวุโสร่วมกับผลงาน ในการโยกย้ายตำแหน่ง ทั้งนี้ร้อยละ 42.3 มั่นใจว่า 9 เดือนจากนี้ไป จะได้เห็นผลการปฏิรูปตำรวจอย่างเป็นรูปธรรม"
กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง
“การปฏิรูปตำรวจกับ 3 โจทย์ใหญ่ที่ต้องหาคำตอบ”โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,084 คน พบว่า
เรื่องที่คาดหวังจากการปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 87.5 ระบุว่า อยากเห็นการทำงานของตำรวจเป็นธรรมกับประชาชน (ไม่รีดไถ/ไม่รับส่วย/ไม่ตั้งด่านลอย/ไม่เพิกเฉย ฯลฯ) รองลงมา ร้อยละ41.8 อยากเห็นการสอบเข้ารับราชการตำรวจอย่างโปร่งใส และร้อยละ 35.8 อยากเห็นการโยกย้ายตำแหน่งที่เป็นธรรม
เมื่อถามถึง 3 ประเด็น ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้มอบให้คณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ประชาชนมีความเห็นดังนี้
ประเด็นที่1 “ด้านโครงสร้างองค์กร”ประชาชนร้อยละ 26.5 ระบุว่าให้ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี (เหมือนในปัจจุบัน)รองลงมา ร้อยละ 24.4 ระบุว่า ให้กลับไปสังกัดกระทรวงมหาดไทย และ ร้อยละ 22.6 ระบุว่า เห็นควรย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม
ประเด็นที่ 2 “ด้านกระบวนการยุติธรรม” ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.0 ระบุว่า ควรแยกอำนาจการสอบสวนให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่นเหมือนในต่างประเทศ ขณะที่ร้อยละ 28.3 ระบุว่า ควรคงไว้เป็นหน้าที่ของตำรวจเหมือนเดิมที่เหลือร้อยละ 12.7 ระบุว่าไม่แน่ใจ
ประเด็นที่ 3 “ด้านการบริหารบุคลากร” ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.1 ระบุว่าการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจควรพิจารณาจาก ระดับอาวุโสร่วมกับผลงาน รองลงมาร้อยละ 39.0 ระบุว่า ควรพิจารณาจากผลงานและความดีความชอบ มีเพียงร้อยละ 1.9 เท่านั้นที่ระบุว่า ควรพิจาณาจากระดับอาวุโส
ส่วนการปฏิรูปตำรวจจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ตามสูตร 2-3-4 หรือ 9 เดือนตามที่นายกรัฐมนตรีวางกรอบไว้หรือไม่ นั้น ประชาชนร้อยละ 42.3 คิดว่าได้ ขณะที่ ร้อยละ 37.7 คิดว่าไม่ได้ และร้อยละ 20.0 ระบุว่าไม่แน่ใจ
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
1. เรื่องที่คาดหวังจากการปฏิรูปตำรวจในครั้งนี้
การทำงานของตำรวจเป็นธรรมกับประชาชน(ไม่รีดไถ/ไม่รับส่วย/ไม่ตั้งด่านลอย/ไม่เพิกเฉยฯลฯ) ร้อยละ 87.5
การสอบเข้ารับราชการตำรวจอย่างโปร่งใส ร้อยละ 41.8
การโยกย้ายตำแหน่งที่เป็นธรรม ร้อยละ 35.8
มีการปรับโครงสร้างการทำงานของตำรวจ ร้อยละ 32.9
2.ประเด็นด้านโครงสร้างองค์กร : สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรสังกัด/ขึ้นตรงกับหน่วยงานใด
ขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรี (เหมือนในปัจจุบัน) ร้อยละ 26.5
กลับไปสังกัดกระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 24.4
ย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร้อยละ 22.6
ตั้งเป็นกระทรวงใหม่ ร้อยละ 15.4
ขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัด ร้อยละ 9.9
อื่นๆ อาทิ องค์การอิสระ เป็นต้น ร้อยละ 1.2
3.ประเด็นด้านกระบวนการยุติธรรม : “อำนาจการสอบสวน”ในคดีต่างๆควรคงไว้เป็นหน้าที่ของตำรวจหรือควรแยกให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น เหมือนในต่างประเทศเช่น FBI CSI
ควรแยกให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานอื่น เหมือนในต่างประเทศเช่น FBI CSI ร้อยละ59.0
ควรคงไว้เป็นหน้าที่ของตำรวจเหมือนเดิม ร้อยละ 28.3
ไม่แน่ใจ ร้อยละ 12.7
4.ประเด็นด้านการบริหารบุคลากร : การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจควรพิจารณาจากอะไรมากที่สุด
ระดับอาวุโสร่วมกับผลงาน ร้อยละ 59.1
ผลงานและความดีความชอบ ร้อยละ 39.0
ระดับอาวุโส ร้อยละ 1.9
5.การปฏิรูปตำรวจจะเห็นผลเป็นรูปธรรมได้ตามสูตร2-3-4 หรือ9 เดือนตามที่นายกรัฐมนตรีวางกรอบไว้หรือไม่
คิดว่าได้ ร้อยละ 42.3
คิดว่าไม่ได้ ร้อยละ 37.7
ไม่แน่ใจ ร้อยละ 20.0