ฟอร์ด ยอดขายพุ่ง 34 %
ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศยอดขายไตรมาสที่สองประจำปี 2560 ที่เติบโตขึ้นถึง 34 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ด้วยยอดขายรถยนต์ที่ 12,575 คัน สืบเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ และรถเอสยูวีขนาดกลาง ฟอร์ด เอเวอเรสต์
นายณรงค์ สีตลายน รองกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จของยอดขายไตรมาสนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมของฟอร์ดในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนเพิ่มขึ้น 1.3 %เป็น 6.3 % ซึ่งนับเป็นส่วนแบ่งตลาดการในไตรมาสที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของฟอร์ด
“ฟอร์ด เรนเจอร์และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ยังคงได้รับความนิยมในวงกว้างจากผู้บริโภคชาวไทยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รถทั้ง 2 รุ่นนี้ยังคงครองตลาดในเซ็กเมนท์ของตนเองได้อย่างแข็งแกร่ง”
นายณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลให้ฟอร์ดเติบโตอย่างมากในไตรมาสสองของปีนี้ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 45 % หรือที่ 9,748 คัน โดยส่วนแบ่งตลาดของฟอร์ด เรนเจอร์ เพิ่มขึ้นถึง 3.7 % จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว มาเป็น 12.2% ในไตรมาสนี้
ในประเทศไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ ‘รถกระบะเกิดมาแกร่ง’ มีทั้งหมด 24 รุ่น ตั้งแต่รุ่นพรีเมียม เช่น ไวลด์แทรคและ FX4 ไปจนถึงรุ่น XL และ XLS ที่เน้นการใช้งานที่มากกว่า เพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคในตลาดรถกระบะที่มีการแข่งขันสูง
ยอดขายของฟอร์ด เรนเจอร์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 51 %ด้วยยอดขาย 20,230 คัน ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ครองตำแหน่งรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย
สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์นั้น ยอดขายในไตรมาสที่สองเติบโตขึ้น 7 % อยู่ที่ 1,883 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 13.5% เติบโตขึ้น 1.2 %เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์เอสยูวีขนาดกลาง ด้วยดีไซน์ภายนอกที่บึกบึนและภายในที่หรูหรา พร้อมสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดที่เหนือชั้นและมอบความสะดวกสบายเมื่อขับขี่ในเมือง
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ชาญฉลาดที่สุดในตลาดรถยนต์ประเภทเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถให้ขับขี่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) และระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
ยอดขายในครึ่งปีแรกของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เพิ่มขึ้น 14 % ด้วยยอดขาย 3,647 คัน
สำหรับฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รถเอสยูวีขนาดเล็ก มียอดขายในไตรมาสสองนี้เติบโตขึ้นถึง 41 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว หรือคิดเป็นยอดขาย 815 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 4.6 %จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 11.3 % ในขณะที่ยอดขายตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้น 36 % ด้วยยอดขาย 1,278 คัน
นอกจากนี้ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รุ่นรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของการใช้งานที่คล่องตัวของรถขนาดกะทัดรัด และความคุ้มค่าของประโยชน์ใช้สอยของรถเอสยูวี
ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายของฟอร์ดเติบโตสูงขึ้นถึง 41 % ด้วยยอดขาย 25,513 คัน ส่งผลให้ฟอร์ดยังคงครองตำแหน่งหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตสูงที่สุดในประเทศไทยอีกครั้งในปีนี้
“ฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องผ่านผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ซึ่งรวมไปถึงการปรับโฉมโชว์รูม การยกระดับบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า และการพัฒนาโปรแกรมอบรมพนักงานขายและช่างเทคนิคที่เข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย” นายณรงค์ กล่าวสรุป
นายณรงค์ สีตลายน รองกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จของยอดขายไตรมาสนี้ ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมของฟอร์ดในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนเพิ่มขึ้น 1.3 %เป็น 6.3 % ซึ่งนับเป็นส่วนแบ่งตลาดการในไตรมาสที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของฟอร์ด
นายณรงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ฟอร์ด เรนเจอร์ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ส่งผลให้ฟอร์ดเติบโตอย่างมากในไตรมาสสองของปีนี้ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 45 % หรือที่ 9,748 คัน โดยส่วนแบ่งตลาดของฟอร์ด เรนเจอร์ เพิ่มขึ้นถึง 3.7 % จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว มาเป็น 12.2% ในไตรมาสนี้
ในประเทศไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ ‘รถกระบะเกิดมาแกร่ง’ มีทั้งหมด 24 รุ่น ตั้งแต่รุ่นพรีเมียม เช่น ไวลด์แทรคและ FX4 ไปจนถึงรุ่น XL และ XLS ที่เน้นการใช้งานที่มากกว่า เพื่อมอบทางเลือกที่หลากหลายให้แก่ผู้บริโภคในตลาดรถกระบะที่มีการแข่งขันสูง
ยอดขายของฟอร์ด เรนเจอร์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 51 %ด้วยยอดขาย 20,230 คัน ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ ครองตำแหน่งรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย
สำหรับฟอร์ด เอเวอเรสต์นั้น ยอดขายในไตรมาสที่สองเติบโตขึ้น 7 % อยู่ที่ 1,883 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 13.5% เติบโตขึ้น 1.2 %เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์เอสยูวีขนาดกลาง ด้วยดีไซน์ภายนอกที่บึกบึนและภายในที่หรูหรา พร้อมสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดที่เหนือชั้นและมอบความสะดวกสบายเมื่อขับขี่ในเมือง
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ชาญฉลาดที่สุดในตลาดรถยนต์ประเภทเดียวกัน ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (Forward Collision Warning System) ระบบช่วยควบคุมรถให้ขับขี่ในช่องทาง (Lane Keeping System) ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ (Auto High Beam Control) และระบบแจ้งเตือนการขับขี่ (Driver Alert System)
สำหรับฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รถเอสยูวีขนาดเล็ก มียอดขายในไตรมาสสองนี้เติบโตขึ้นถึง 41 % เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว หรือคิดเป็นยอดขาย 815 คัน ส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 4.6 %จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 11.3 % ในขณะที่ยอดขายตั้งแต่ต้นปีเพิ่มขึ้น 36 % ด้วยยอดขาย 1,278 คัน
นอกจากนี้ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รุ่นรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของการใช้งานที่คล่องตัวของรถขนาดกะทัดรัด และความคุ้มค่าของประโยชน์ใช้สอยของรถเอสยูวี
ในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายของฟอร์ดเติบโตสูงขึ้นถึง 41 % ด้วยยอดขาย 25,513 คัน ส่งผลให้ฟอร์ดยังคงครองตำแหน่งหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตสูงที่สุดในประเทศไทยอีกครั้งในปีนี้
“ฟอร์ดมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องผ่านผู้จำหน่ายฟอร์ดทั่วประเทศ ซึ่งรวมไปถึงการปรับโฉมโชว์รูม การยกระดับบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า และการพัฒนาโปรแกรมอบรมพนักงานขายและช่างเทคนิคที่เข้มข้นมากขึ้นอีกด้วย” นายณรงค์ กล่าวสรุป