ธิสเซ่นครุปป์ดันไทยเป็นศูนย์ส่งออกโรงงานโอลีโอเคมีคอลระดับโลก

ธิสเซ่นครุปป์ ขยายการลงทุนในไทยอีกกว่า 680 ล้าน ตั้งศูนย์โอลีโอเคมีคอลแห่งแรก ที่มาบตะพุด ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลาง ในการส่งมอบโซลูชั่นส์ทางวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีโอลีโอเคมีคอล คาดสร้างรายได้ปีแรกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้าน และจะสร้างรายได้กว่า 3 พันล้านในอีก 5 ปี เผยพร้อมทำธุรกิจและขยายการลงทุนล้อไปกับยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0

นายไบรอัน คาเมรอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเตรียล โซลูชั่นส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากปีนี้บริษัทได้ลงทุนในประเทศไทยกว่า 680 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์โอลีโอเคมีคอล (Oleochemical Technologies Hub) เพื่อให้บริการทั้งด้านแลป การจัดสร้างโรงงานสำเร็จรูป พร้อมเทคโนโลยีและเครื่องปฏิกรณ์ เจ็ท รีแอ็คเตอร์ ที่เป็นหัวใจของกระบวนการ ที่จะช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (specialty chemicals) ที่มีความหลากหลาย ด้วยวงจรการผลิตที่เร็วยิ่งขึ้น โดยโรงงานสำเร็จรูปนี้ สามารถนำไปประกอบแล้วสร้างเป็นโรงงานที่มีประสิทธิภาพได้เลย พร้อมทั้งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ตามที่ลูกค้าต้องการ

[caption id="attachment_174555" align="aligncenter" width="503"] DCIM100MEDIA[/caption]

"เราสามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในประเทศไทยเพื่อมอบโซลูชั่นส์ให้แก่โรงงานเกือบทุกแห่งทั่วโลกด้วยการใช้แนวทางแบบโมดูลาร์ ที่คล้ายกับตัวต่อเลโก้ ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น คาดการณ์ระยะเวลาได้ ทั้งยังมีมูลค่าการลงทุนที่ต่ำกว่า ทำให้ลูกค้าของเราสามารถผลิตสินค้าเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น” นายไบรอันกล่าวและว่า การลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยกระตุ้นให้เสรษบกิจไทยขับเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่เพียงแต่เป็นประเทศที่ส่งออกด้านเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งออกด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย และยังสร้างให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทยอีกด้วย

การเปิดศูนย์โอลีโอเคมีคอลในประเทศไทย สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ผู้ประกอบการเน้นการลงทุนด้านเทคโนโลยี และมีการออกแบบที่ปลอดภัย และยังสอดคล้องกับโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุน เพื่อกระจายไปยังภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหญ่ของบริษัทอีกด้วย

นายไบรอัน กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้รายได้ให้กับบริษัทประมาณ 20-40 ล้านยูโร หรือประมาณ 700-1,500 ล้าน และจะสามารถเพิ่มรายได้เป็น 80 ล้านยูโร หรือประมาณ 3 พันล้านบาทได้ภายใน 5 ปี

ดร. ไฮน์ริช ฮีซิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธิสเซ่นครุปป์ กล่าวว่า พร้อมด้านการลงทุน แต่ในการลงทุนต้องดูว่าการเจริญเติบโตอยู่ที่ไหน จึงจะเข้าไปลงทุน ที่ไหนเติบโตก็จะลงทุนต่อ ปีที่แล้ว ลงทุนไป 1.6 พันล้านยูโร และย้อนกลับไป 5 ปี ลงทุน 6.7 พันล้านยูโร ในแง่ของโปรดักชั่นและเอ็นจิเนียริ่ง ลงทุนในเอเชียและอเมริกา

ส่วนแผนงานด้านอีซีซีของไทย ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องดีกว่าการกระจัดกระจายไปทั่วประเทศ ชอบที่รัฐบาลคิดเป็นยุทธศาสตร์เช่นที่อีอีซี ก็จะเอื้อให้ประเทศไทยไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ได้