บลจ.โซลาริสฟ้อง KC ชำระหนี้ 365 ล้าน ศาลนัดไกล่เกลี่ย7ส.ค.
KC เผยบลจ.โซลาริส ฟ้องชำระหนี้ตั๋วแลกเงินมูลค่า 350 ล้านบาท หลังบริษัทฯ ทำแผนชำระหนี้ไม่เสร็จ จากยอดหนี้รวม 530 ล้านบาท ส่วนหนี้แบงก์กรุงไทยคาดเจรจาจบใน 2 เดือนนี้
นายธีราสิทธิ์ แสงเงิน กรรมการและเลขานุการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2560 บริษัทได้รับคำฟ้องจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส ในคดีแพ่งระหว่าง กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 4 ที่ 1, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 5 ที่ 2, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 3 ที่ 3, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 1 ที่ 4, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 6 เอ็ม 6 ที่ 5 โจทก์ และ บริษัท ในฐานะจำเลย ในข้อหาหรือฐานความผิดตั๋วเงิน (ตั๋วแลกเงิน), หนังสือรับสภาพหนี้, บังคับจำนอง, เรียกค่าเสียหาย จำนวนทุนทรัพย์ตามคำฟ้อง 365.618 ล้านบาท โดยกำหนดไกล่เกลี่ย แก้ไขข้อหาคดี และสืบพยานในวันที่ 7 ส.ค.2560
บริษัทฯ จะแต่งตั้งทนายความเข้าว่าต่างแก้คดีในวันดังกลาว โดยยังประสงค์จะเข้าเจรจาต่อรองไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในขั้นศาล เพื่อหาแนวทางในการยุติข้อพิพาทกับบลจ.โซลาริส ตามแผนการชำระหนี้ที่จะเสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของบลจ.โซลาริส
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2560 บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัท โอไรนออนซ์ แอดไวซอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งบริษัทฯมอบหมายให้จัดทำแผนชำระคืนหนี้แก่ บลจ.โซลาริส เพื่อให้แผนชำระหนี้เสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของบลจ.โซลาริส แจ้งว่าจะทำแผนชำระหนี้เสร็จภายในอีก 1 เดือน บริษัทจึงมีหนังสือขอขยายระยะเวลาการส่งแผนดังกล่าวไปยังบลจ.โซลาริส เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2560
ปัจจุบันบริษัทฯ มีภาระหนี้รวมทั้งหมดจำนวน 530.9 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อกับธนาคารกรุงไทย จำนวน 103.4 ล้านบาท ธนาคารธนชาต จำนวน 4.5 ล้านบาทและกองทุนเปิดบลจ.โซลาริส จำนวน 350 ล้านบาท กรณีที่ฟ้องร้อง นอกจากนี้มีตั๋วแลกเงินเสนอขายบุคคลในวงจำกัด ประกอบด้วย นางปวีณา พรโชติทวีรีตน์ จำนวน 15 ล้านบาท นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ จำนวน 8 ล้านบาท นางสาวสุจิตรา ชุณหนิรันฤทธิ์ จำนวน 20 ล้านบาท นางสุภาภรณ์ เติมรัตนกุล จำนวน 10 ล้านบาทและนายสมเกียรติ สุขศิริกุล จำนวน 20 ล้านบาท
สำหรับหนี้ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในระยะเวลา 2 เดือน ส่วนธนาคารธนชาต น่าจะสามารถชำระหนี้คืนได้หมดภายในเดือนส.ค.2560 ขณะที่เจ้าหนี้ตั๋วแลกเงินที่บริษัทเสนอขายบุคคลในวงจำกัดรวม 73 ล้านบาทนั้น บริษัทได้เจรจาตกลงกับเจ้าหนี้ทุกรายและเจ้าหนี้ทุกรายตกลงขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้แก่บริษัท โดยไม่ถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิเรียกร้องของกองทุนเปิดบลจ.โซลาริส ในการฟ้องร้องให้กับบริษัทฯ ชำระหนี้คืนจำนวน 350 ล้านบาท น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้าหนี้รายอื่นผู้ให้สินเชื่อ
นายธีราสิทธิ์ แสงเงิน กรรมการและเลขานุการ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2560 บริษัทได้รับคำฟ้องจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส ในคดีแพ่งระหว่าง กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 4 ที่ 1, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 5 ที่ 2, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 3 ที่ 3, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3 เอ็ม 1 ที่ 4, กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 6 เอ็ม 6 ที่ 5 โจทก์ และ บริษัท ในฐานะจำเลย ในข้อหาหรือฐานความผิดตั๋วเงิน (ตั๋วแลกเงิน), หนังสือรับสภาพหนี้, บังคับจำนอง, เรียกค่าเสียหาย จำนวนทุนทรัพย์ตามคำฟ้อง 365.618 ล้านบาท โดยกำหนดไกล่เกลี่ย แก้ไขข้อหาคดี และสืบพยานในวันที่ 7 ส.ค.2560
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2560 บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัท โอไรนออนซ์ แอดไวซอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งบริษัทฯมอบหมายให้จัดทำแผนชำระคืนหนี้แก่ บลจ.โซลาริส เพื่อให้แผนชำระหนี้เสนอต่อผู้ถือหน่วยลงทุนของบลจ.โซลาริส แจ้งว่าจะทำแผนชำระหนี้เสร็จภายในอีก 1 เดือน บริษัทจึงมีหนังสือขอขยายระยะเวลาการส่งแผนดังกล่าวไปยังบลจ.โซลาริส เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2560
ปัจจุบันบริษัทฯ มีภาระหนี้รวมทั้งหมดจำนวน 530.9 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อกับธนาคารกรุงไทย จำนวน 103.4 ล้านบาท ธนาคารธนชาต จำนวน 4.5 ล้านบาทและกองทุนเปิดบลจ.โซลาริส จำนวน 350 ล้านบาท กรณีที่ฟ้องร้อง นอกจากนี้มีตั๋วแลกเงินเสนอขายบุคคลในวงจำกัด ประกอบด้วย นางปวีณา พรโชติทวีรีตน์ จำนวน 15 ล้านบาท นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ จำนวน 8 ล้านบาท นางสาวสุจิตรา ชุณหนิรันฤทธิ์ จำนวน 20 ล้านบาท นางสุภาภรณ์ เติมรัตนกุล จำนวน 10 ล้านบาทและนายสมเกียรติ สุขศิริกุล จำนวน 20 ล้านบาท
สำหรับหนี้ในส่วนของธนาคารกรุงไทย ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในระยะเวลา 2 เดือน ส่วนธนาคารธนชาต น่าจะสามารถชำระหนี้คืนได้หมดภายในเดือนส.ค.2560 ขณะที่เจ้าหนี้ตั๋วแลกเงินที่บริษัทเสนอขายบุคคลในวงจำกัดรวม 73 ล้านบาทนั้น บริษัทได้เจรจาตกลงกับเจ้าหนี้ทุกรายและเจ้าหนี้ทุกรายตกลงขยายระยะเวลาการชำระหนี้ให้แก่บริษัท โดยไม่ถือว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิเรียกร้องของกองทุนเปิดบลจ.โซลาริส ในการฟ้องร้องให้กับบริษัทฯ ชำระหนี้คืนจำนวน 350 ล้านบาท น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเจ้าหนี้รายอื่นผู้ให้สินเชื่อ