รมว.แรงงานห่วงแรงงานทางทะเล เร่งรัดออกกฎหมายลำดับรอง

30 มิ.ย. 2560 | 10:13 น.
รมว.แรงงานห่วงแรงงานทางทะเล เร่งรัดออกกฎหมายลำดับรอง กำชับทุกฝ่ายบูรณาการร่วมกัน

[caption id="attachment_172315" align="aligncenter" width="503"] พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล[/caption]

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมคณะกรรมการแรงงานทางทะเล พ.ศ.2558 ครั้งที่ 1/2560 ณ ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน วันนี้ (30 มิ.ย. 60) การประชุมฯ ดังกล่าว เป็นการประชุมหารือร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนฝ่ายเจ้าของเรือ และผู้แทนฝ่ายคนประจำเรือ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการแรงงานทางทะเล

001 (2)06 โดยหม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน ประธานคณะกรรมการฯ ได้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการประชุมฯ ว่า เพื่อให้คณะกรรมการฯ ได้ทราบถึงอำนาจหน้าที่ ความคืบหน้าการออกกฎหมายลำดับรองของพระราชบัญญัติแรงงานทางทะเล พ.ศ. 2558 รวมถึงผลการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้เสนอแนะความเห็นที่เกี่ยวกับนโยบายด้านแรงงานทางทะเล พิจารณาเกี่ยวกับการเร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรอง และขอความเห็นชอบในหลักการการออกกฎหมายลำดับรองที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องออกในปัจจุบัน

004 (1) ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบแนวทางการดำเนินงานแก่คณะกรรมการฯ ดังนี้

1. เร่งรัดการออกกฎหมายลำดับรองที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยให้จัดทำเป็นแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) และกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน (Time line)

2. การทำงานแบบบูรณาการ โดยมุ่งเน้นให้มีความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านแรงงานทางทะเล ผู้แทนฝ่ายเจ้าของเรือ และผู้แทนฝ่ายคนประจำเรือ

3. ให้สร้างการรับรู้เรื่องขั้นตอนกระบวนงาน การออกใบอนุญาตการให้บริการ และอื่นๆ ของหน่วยงาน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

4. ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง ปฏิบัติหน้าที่อย่างโปร่งใส เป็นธรรม ปราศจากการคอรัปชั่น โดยไม่เลือกปฏิบัติในการให้บริการ

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะเพิ่มขีดความสามารถในการมีสัดส่วนการขนส่งทางทะเลโดยกองเรือพาณิชย์ของไทยให้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันการใช้มาตรการ การกักเรือ การตรวจเรือ ของรัฐเจ้าของท่าต่อเรือไทยที่เดินทางระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่งในระบบการขนส่งสินค้าเข้า - ออกทางทะเลของประเทศให้มีความทัดเทียม สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0 ในอนาคตต่อไป