‘จ.ประจวบฯ’ร่วม‘เมียนมา’ พัฒนา‘แลนด์บริดจ์’ทุกมิติ

01 ก.ค. 2560 | 11:00 น.
ไทย-เมียนมายกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จับมือภาคเอกชนผนึกความร่วมมือเมืองมะริด พัฒนาโครงการมะริด-บางสะพาน อีโคโนมิค แลนด์ บริดจ์ เชื่อมโยงเศรษฐกิจระดับภูมิภาคอาเชียน

นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ร่วมกับภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาทิ บริษัท เอสวีแอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ในเครือสหวิริยา หารือความร่วมมือการค้า การลงทุน ระหว่างไทย-เมียนมา ภายใต้โครงการมะริด-บางสะพาน อีโคโนมิค แลนด์ บริดจ์ (Myeik–Bang Saphan Economic Land Bridge) กับนายอูลินโกโก ผู้ว่าราชการจังหวัดมะริด สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐของภาคตะนาวศรี และจังหวัดมะริด รวมถึงนายอูรา ตัน ประธานหอการค้าและสภาอุตสาห กรรมจังหวัดมะริด เพื่อหาแนวทางพัฒนาเชื่อมโยงธุรกิจโลจิสติกส์ สู่การพัฒนาภาพรวมเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ ในเส้นทางมะริด-มูด่อง ด่านสิงขร-บางสะพาน เชื่อมสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และภูมิภาคอื่นๆ ของไทย

[caption id="attachment_170900" align="aligncenter" width="372"] ทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์[/caption]

“การประชุมครั้งนี้มีการพูดคุยถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะเรื่องการค้าการลงทุนจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สู่เมืองมะริด ผ่านด่านสิงขร รวม ถึงการพูดคุยเรื่องธุรกิจโลจิสติกส์ จากด่านสิงขร ผ่านทางท่าเรือนํ้าลึก อ.บางสะพาน จะต้องหารือและร่วมกันพัฒนาต่อไป เนื่องจากเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ”

ด้านนายสุรเดช มุขยางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสวีแอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ ในเครือสหวิริยา กล่าวว่า คณะของเมียนมาได้เข้าชมการผลิตเหล็กรีดร้อน บมจ.สหวิริยาสตีล อินดัสตรี และธุรกิจท่าเรือประจวบ ในกลุ่มเอสวีแอล พร้อมกับร่วมหารือแนวทางพัฒนาการค้าและการลงทุน นำไปสู่การบรรลุข้อตกลงต่างๆ ร่วมกับภาครัฐของทั้ง 2 ประเทศ

สำหรับสาระสำคัญของการหารือร่วมกันครั้งนี้เป็นเรื่องการผลักดันให้เปิดด่านสิงขร เป็นด่านการค้าถาวร เพื่อสร้างการเติบโตด้านการค้าชายแดน รวมถึงแผนการพัฒนาโครงการ Myeik-Bang Saphan Economic Land Bridge โดยมีท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน จ.ประ จวบคีรีขันธ์ ภายใต้การบริหารงานของบริษัทท่าเรือประจวบ จำกัด เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าประมงจากจังหวัดมะริด สู่ลูกค้าและสินค้าจากเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) สู่จังหวัดมะริด ก่อนที่จะกระจายไปยังภูมิภาคอื่นๆ ของเมียนมา

โดยข้อหารือและข้อเสนอแนะจากการประชุมครั้งนี้ผู้แทนของภาครัฐทั้งไทย-เมียนมา จะนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

“จะเป็นการเชื่อมต่อจากมะริดที่อยู่ติดกับทะเลอันดามันมาสู่ท่าเรือประจวบ ในอ่าวไทย ด้วยระยะทางเพียง 270 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง เมื่อเส้นทางนี้ได้รับการพัฒนาแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสายสำคัญ เพราะทุกอย่างมีพร้อมอยู่แล้ว โดยจากท่าเรือประจวบยังสามารถเชื่อมโยงสู่ EEC ด้วยเรือขนส่งชายฝั่งไปสู่ท่าเรือแหลมฉบังเพื่อการส่งออกไปสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น จีน และญี่ปุ่น ซึ่งจะสามารถดึงสินค้าส่งออกของเมียนมาที่จะส่งผ่านทางปีนังมาสู่ประเทศไทยได้

ล่าสุด SVL Group ได้เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนทางการค้าและการขนส่ง กับนายอูรา ตัน นักธุรกิจใหญ่ ในฐานะประธานหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม จังหวัดมะริด เพื่อดำเนินธุรกิจระหว่างงฝั่งของ SVL Group กับทางเมียนมา” นายสุรเดช กล่าว

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,274
วันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560