พรรคชาติไทยพัฒนายื่นกรธ.ทบทวนไพรมารีโหวต

26 มิ.ย. 2560 | 08:45 น.
พรรคชาติไทยพัฒนายื่นกรธ.ทบทวนไพรมารีโหวต ชี้พรรคการเมืองไม่พร้อม

นายพิสิษฐ์ พิทยาฐากุลเจริญ นายทะเบียนสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ได้รับมอบหมายจาก นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค ชทพ. เพื่อยื่นหนังสือต่อนายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เพื่อคัดค้านและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับระบบการคัดเลือกผู้สมัครเบื้องต้น และการส่งสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมือง หรือ ไพรมารีโหวต เพราะเห็นว่าระบบดังกล่าวอาจส่งผลที่ทำให้สิทธิของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่ทั้งที่เป็นและไม่เป็นสมาชิกพรรค ไม่สามารถลงคะแนนเลือกตั้งผู้ที่จะสมัครที่เป็นคนดีมีคุณธรรม ซื่อสัตย์จนเป็นที่ประจักษ์และเป็นเคารพรักโดยทั่วไปในเขตเลือกตั้ง ชทพ.

รวมทั้งอาจส่งผลไปถึงคะแนนรวมที่จะนำมาคำนวณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อได้ เนื่องจากการลงคะแนนให้ผู้สมัครส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้งใบเดียว ต้องนำคะแนนดังกล่าวมารวมคำนวณจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างขวางต่อการเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้น เช่น กระบวนการและขั้นตอนที่ได้ผู้สมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคเกิดความลักลั่นไม่เท่าเทียมกัน บางคนได้มาจากในเขตเลือกตั้งของตนเอง ในขณะที่บางคนได้มาจากในเขตเลือกตั้งอื่น ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค

สำหรับรายละเอียดในหนังสือดังกล่าวระบุว่า ความไม่พร้อมของระบบการคัดเลือกเบื้องต้นจะส่งผลกระทบต่อคะแนนที่จะมาคำนวณส.ส.แบบัญชีพรรคอีกด้วย เช่นเดียวกับการกำหนดให้สมาชิกพรรคหนึ่งคนเลือกส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 15 คน อาจไม่ได้คนดีมีความรู้ความสามารถมาอยู่ในลำดับต้นๆ เลย เนื่องจากผู้ลงคะแนนไม่รู้จักและคุ้นเคยกับรายชื่อในบัญชีเหล่านั้นมาก่อน จึงไม่สะท้อนความเป็นจริงตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย นอกจากนั้น จะเกิดความยุ่งยากสับสนเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการจัดทำการคัดเลือกผู้สมัครเบื้องต้นฯ ว่าค่าใช้จ่ายส่วนใดจะเป็นของผู้สมัครรับเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ

อย่างไรก็ตาม สิทธิพรรคการเมืองในการเตรียมความพร้อมรองรับระบบการคัดเลือกผู้สมัครเบื้องต้นเพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค (Primary Election) ขณะนี้พรรคการเมืองและนักการเมืองไม่สามารถจัดทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้ระบบการคัดเลือกเบื้องต้นฯ เนื่องจากพรรคการเมืองและนักการเมืองมีภารกิจมากมายหลายประการที่ต้องเตรียมการเพื่อให้เกิดความพร้อมรองรับกับการเลือกตั้งระบบใหม่

ดังนั้น ขอให้นำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ....   หมวด 3 การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง มาตรา 47 เดิมที่เสนอที่ กรธ.และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลับมาบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาล มาตรา 135/1 แทน โดยตัดข้อความในมาตรา 135/1 ที่สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งเพิ่มไว้ใหม่ทั้งหมด  กรธ.และ กกต.ได้ไตร่ตรองจนตกผลึกว่าร่างพระราชบัญญัติฯ มาตราดังกล่าวนั้น มีความเหมาะสมกับสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และไม่ยุ่งลำบากนักที่พรรคการจะปฏิบัติได้ และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ก็จะได้ระบบการคัดเลือกผู้สมัครเบื้องต้นเพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค (Primary Election) ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป