ทุเรียน+จิงโจ้เสริมแกร่งAIS มีคนTALKก็แฮปปี้แล้ว
แม้ “เอไอเอส” หรือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เบอร์ 1 ยังปักธงธุรกิจมือถือเป็นเรือธงมีผู้ใช้จำนวนทั้งสิ้น 40.6 ล้านราย
แต่ทว่า เอไอเอส ได้ขยายแขนขาไปยังธุรกิจไฟเบอร์ออพติกเพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ “เอไอเอส ไฟเบอร์” พร้อมกับให้บริการคอนเทนต์ด้านความบันเทิงผ่าน “เอไอเอส เพลย์บ็อกซ์”
ไม่เพียงเท่านี้ “เอไอเอส” ยังเป็นเสือปืนไวคว้า 2 หน้ากากทุเรียน (ทอม รูม 39) และ จิงโจ้ (เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร) ที่โด่งดังจากเดอะแมสซิงเกิลซีซัน 1 มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ หวังดึงแฟนคลับย้ายค่ายมาในระบบอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ เอไอเอส และเป็นครั้งแรกที่เขาเล่าถึง 2 หน้ากาก และภาพรวมธุรกิจติด ตามอ่านได้จากบรรทัดถัดจากนี้
[caption id="attachment_166628" align="aligncenter" width="335"]
สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ เอไอเอส[/caption]
**ทำไมดึง 2 หน้ากาก
แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ เป็นปรากฏการณ์ที่ผมก็ไม่เข้าใจได้ฟังกลุ่มเด็กคลั่งไคล้ มีคนพูดถึงตลอด มีแฟนคลับที่เยอะมากโดยเฉพาะบรรดาแม่ยกรุ่นป้า ชอบ “เป๊ก” เป็นพิเศษ ถามว่าประสบความสำเร็จ หรือ ไม่ที่ดึง “ทอม และ เป๊ก” มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ มีคนพูดถึง ผมก็แฮปปี้แล้ว และ เอไอเอส ก็ไม่ได้ถอดแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนอื่นออกเพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ เอไอเอส แข็งแรงยิ่งขึ้น
ตอนนี้ทั้ง 2 คนมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ได้ไม่ถึง 1 เดือนจำนวนยอดผู้ใช้เพิ่มขึ้น เท่าไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ในตอนนี้
ส่วนที่ 2 คือ เอไอเอส กับ เวิร์คพ้อยท์ เป็นพาร์ตเนอร์กันมานานเมื่อเกิดกระแสเดอะแมสซิงเกิลจึงได้ทาบทามที่สำคัญ “เป๊ก” ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนเกิดปรากฏการณ์ห้างแตก จึงได้ทาบทามทั้ง “ทอม และ เป๊ก” มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
**มีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์กี่คน
มีหลายคนแต่ละคนจับกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เช่น เจมส์จิ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) กลุ่มลูกค้า คือ กลุ่มแมส (ทั่วไป), แต้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) กลุ่มแมสในเมือง, เต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) กลุ่มวัยรุ่นในเมือง,มิว (นิษฐา จิรยั่ง ยืน) กลุ่มแมส, วี (วิโอเลต วอเทียร์) กลุ่มวัยรุ่น และ เป๊ก (ผลิตโชค อายนบุตร) ฐานลูกค้า คือ กลุ่มป้า
อย่างไรก็ตามมีบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติรายหนึ่งได้กล่าวว่า บริษัทเค้าไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยี บริษัทต้องมีประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น สิ่งที่ชนะคู่แข่งได้อยู่ที่ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเอไอเอส นั้นมีเน็ต เวิร์ก (เครือข่าย) และคอนเทนต์ที่ดีอยู่แล้ว
**ลูกค้า เอไอเอส ไฟเบอร์
ปัจจุบันมี 4 แสนราย สิ้นปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 6 แสนราย โดยเฉพาะรายการด้านความบันเทิงผ่านกล่อง เอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ มีฟรีคอนเทนต์จำนวน 100 ช่อง เป็นทั้งเคเบิล และ ทีวีดิจิตอลมีลิขสิทธิ์รายการ HBO, NBA,FOX, ซีรีส์เกาหลี และเน็ตฟลิกซ์ เป็นต้น
**ไลน์ มาทำมือถือ
ไม่มีผลกระทบ และไม่กังวล ถ้าทำลักษณะ MVNO (Mobile Virtual Network Operator เป็นผู้ให้บริการที่ไม่มีโครงข่ายของตัวเอง) ต้องขอใบอนุญาตจาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) สิ่งที่เกิด 2 อย่าง คือ 1.ไลน์ ต้องมีฐานลูกค้า และผู้ให้เช่า โครงข่ายมีเน็ตเวิร์กว่างเหลือพอ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,272 วันที่ 22 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560
แต่ทว่า เอไอเอส ได้ขยายแขนขาไปยังธุรกิจไฟเบอร์ออพติกเพื่อให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงภายใต้แบรนด์ “เอไอเอส ไฟเบอร์” พร้อมกับให้บริการคอนเทนต์ด้านความบันเทิงผ่าน “เอไอเอส เพลย์บ็อกซ์”
ไม่เพียงเท่านี้ “เอไอเอส” ยังเป็นเสือปืนไวคว้า 2 หน้ากากทุเรียน (ทอม รูม 39) และ จิงโจ้ (เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร) ที่โด่งดังจากเดอะแมสซิงเกิลซีซัน 1 มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ หวังดึงแฟนคลับย้ายค่ายมาในระบบอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม “ฐานเศรษฐกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ เอไอเอส และเป็นครั้งแรกที่เขาเล่าถึง 2 หน้ากาก และภาพรวมธุรกิจติด ตามอ่านได้จากบรรทัดถัดจากนี้
[caption id="attachment_166628" align="aligncenter" width="335"]
**ทำไมดึง 2 หน้ากาก
แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ เป็นปรากฏการณ์ที่ผมก็ไม่เข้าใจได้ฟังกลุ่มเด็กคลั่งไคล้ มีคนพูดถึงตลอด มีแฟนคลับที่เยอะมากโดยเฉพาะบรรดาแม่ยกรุ่นป้า ชอบ “เป๊ก” เป็นพิเศษ ถามว่าประสบความสำเร็จ หรือ ไม่ที่ดึง “ทอม และ เป๊ก” มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ มีคนพูดถึง ผมก็แฮปปี้แล้ว และ เอไอเอส ก็ไม่ได้ถอดแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนอื่นออกเพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้ เอไอเอส แข็งแรงยิ่งขึ้น
ตอนนี้ทั้ง 2 คนมาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ได้ไม่ถึง 1 เดือนจำนวนยอดผู้ใช้เพิ่มขึ้น เท่าไหร่นั้นยังตอบไม่ได้ในตอนนี้
ส่วนที่ 2 คือ เอไอเอส กับ เวิร์คพ้อยท์ เป็นพาร์ตเนอร์กันมานานเมื่อเกิดกระแสเดอะแมสซิงเกิลจึงได้ทาบทามที่สำคัญ “เป๊ก” ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนเกิดปรากฏการณ์ห้างแตก จึงได้ทาบทามทั้ง “ทอม และ เป๊ก” มาเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์
**มีแบรนด์แอมบาสซาเดอร์กี่คน
มีหลายคนแต่ละคนจับกลุ่มเป้าหมายต่างกัน เช่น เจมส์จิ (จิรายุ ตั้งศรีสุข) กลุ่มลูกค้า คือ กลุ่มแมส (ทั่วไป), แต้ว (ณฐพร เตมีรักษ์) กลุ่มแมสในเมือง, เต้ย (จรินทร์พร จุนเกียรติ) กลุ่มวัยรุ่นในเมือง,มิว (นิษฐา จิรยั่ง ยืน) กลุ่มแมส, วี (วิโอเลต วอเทียร์) กลุ่มวัยรุ่น และ เป๊ก (ผลิตโชค อายนบุตร) ฐานลูกค้า คือ กลุ่มป้า
อย่างไรก็ตามมีบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติรายหนึ่งได้กล่าวว่า บริษัทเค้าไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยี บริษัทต้องมีประสบการณ์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้น สิ่งที่ชนะคู่แข่งได้อยู่ที่ประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเอไอเอส นั้นมีเน็ต เวิร์ก (เครือข่าย) และคอนเทนต์ที่ดีอยู่แล้ว
**ลูกค้า เอไอเอส ไฟเบอร์
ปัจจุบันมี 4 แสนราย สิ้นปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 6 แสนราย โดยเฉพาะรายการด้านความบันเทิงผ่านกล่อง เอไอเอส เพลย์บ็อกซ์ มีฟรีคอนเทนต์จำนวน 100 ช่อง เป็นทั้งเคเบิล และ ทีวีดิจิตอลมีลิขสิทธิ์รายการ HBO, NBA,FOX, ซีรีส์เกาหลี และเน็ตฟลิกซ์ เป็นต้น
**ไลน์ มาทำมือถือ
ไม่มีผลกระทบ และไม่กังวล ถ้าทำลักษณะ MVNO (Mobile Virtual Network Operator เป็นผู้ให้บริการที่ไม่มีโครงข่ายของตัวเอง) ต้องขอใบอนุญาตจาก กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) สิ่งที่เกิด 2 อย่าง คือ 1.ไลน์ ต้องมีฐานลูกค้า และผู้ให้เช่า โครงข่ายมีเน็ตเวิร์กว่างเหลือพอ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,272 วันที่ 22 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560