กรมปศุสัตว์เข้ม 4 มาตรการเฝ้าระวัง "ไข้หวัดนก" หลังพบระบาดประเทศเพื่อนบ้าน

20 มิ.ย. 2560 | 16:06 น.
app-pai-696x380

นายไพโรจน์ เฮงแสงชัย รองอธิบดี ปฎิบัติราชการแทนอธิบดีกรมปศุสัตว์  กระทรวงเกศตรและสหกรณ์ ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2560 เปิดเผยว่า ด้วยในปัจจุบันการสุขภาพสัตว์โลก (OLE)ได้รายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกของประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องชนิดรุ่นแรก และชนิดรุนแรงต่ำ ได้แก่ ประเทศกัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม และมาเลเซีย จำนวน 37 จุด (ตั้งแต่มกราคม 2560 ถึงปัจจุบัน) และล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2560 มีรายงานการเกิดโรคไข้หวัดนกชนิดรุนแรง H5N1 ในสัตว์ปีกที่เลี้ยงหลังบ้านของประเทศเวียดนาม อีกทั้ง ณ ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนมีฝนตกชุกทำให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศไทยมีความเสี่ยงในการเกิดการระบาดของโรคไข้หวัดนกได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของโรคในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีก กรมปศุสัตว์จึงขอกำหนดระยะพักฟาร์มสัตว์ปีกเพิ่มเติม

1.ฟาร์มสัตว์ปีกเนื้อในระบบคอมพาร์ทเมนต์ และที่ได้รับรองการปฎิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP)จากกรมปศุสัตว์ ให้พักฟาร์ม อย่างน้อย 14 วัน หลังจากทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคครั้งที่ 1 ของโรงเรือนสุดท้าย

2.ฟาร์มสัตว์ปีกเนื้อที่ได้รับรองการปฎิบัติทางเกษตรที่ดี (GAP)จากกรมปศุสัตว์ ให้พักฟาร์ม อย่างน้อย 21 วัน หลังจากทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคครั้งที่ 1 ของโรงเรือนสุดท้ายหรือโรงเรือนนั้นๆ

3.ฟาร์มสัตว์ปีกพันธุ์/สัตว์ปีกไข่ที่ได้รับรองการปฎิบัติทางเกษตรที่ดี (GAP)จากกรมปศุสัตว์ ให้พักฟาร์ม อย่างน้อย 21 วัน หลังจากทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคครั้งที่ 1 ของโรงเรือนสุดท้ายหรือโรงเรือนนั้นๆ

4.ฟาร์มสัตว์ปีกอื่นๆ ให้พักฟาร์มหรือโรงเรือนอย่างน้อย 30 วัน หลังจากทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคครั้งที่ 1 ของโรงเรือนสุดท้าย หรือโรงเรือนนั้นๆ

นายไพโรจน์ กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าไม่มีเชื้อโรคระบาดสัตว์ปีกหลงเหลืออยู่ให้ดำเนินการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้ออีกครั้งก่อนนำสัตว์ปีกเข้าเลี้ยงใหม่ หลังจากพ่นฟาร์มหรือโรงเรือนไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป