เอสซีกรุ๊ปผุดคลัง LPG เปิดเสรีทุบราคาค้าส่ง

23 มิ.ย. 2560 | 20:07 น.
เอสซี กรุ๊ป เล็งจับมือ มิตซูบิชิ ร่วมลงทุนคลังแอลพีจีขนาด 5 หมื่นตันที่มาบตาพุด คาดใช้เงินลงทุน 2 พันล้านบาท เตรียมเสนอเข้าบอร์ดตัดสินใจภายในปลายปีนี้ ขณะที่เปิดนำเข้าแอลพีจีเสรี ทุบราคาค้าส่ง 10-50 สตางค์ต่อกิโลกรัม

ภายหลังกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดให้ผู้ค้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลพีจี) มาตรา 7 นำเข้าแอลพีจีเสรี ล่าสุดมีบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจซื้อมาขายไป(เทรดดิ้ง) รายใหญ่ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาขอจดทะเบียนเป็นผู้ค้าตามมาตรา 7 เพื่อดำเนินการนำเข้าและจำหน่ายก๊าซแอลพีจีแบบค้าส่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการขอนำเข้าแอลพีจี

appDSCF9092 โดยระยะแรกจะเช่าคลังลอยนํ้า 4 หมื่นตัน ของบริษัท บิ๊กแก๊ส เทคโนโลยี จํากัด ที่อยู่ระหว่างการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า และขนถ่ายแอลพีจีลงเรือขนาดเล็กมายังคลังบนบกขนาด 5 พันตัน ที่เช่าจากบริษัท เอสซี กรุ๊ปฯ ตั้งอยู่ริมแม่นํ้าบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา และในระยะยาวเมื่อยกเลิกคลังลอยนํ้าที่ได้อนุญาตเป็นเวลา 3 ปีแล้ว มิตซูบิชิมีแผนที่จะเช่าคลังบนบกขนาด 8 หมื่นตัน ของเอสซี กรุ๊ป ที่มีแผนจะสร้างบริเวณ นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เพื่อรองรับทำการค้าก๊าซแอลพีจี 10 ล้านตันต่อปี โดยใช้เรือขนก๊าซฯขนาด 4 หมื่นตัน มากกว่า 20 ลำ

นายณัฐพงษ์ รัตนสุวรรณทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจและร่วมทุน บริษัท เอส ซี กรุ๊ปฯ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างหารือกับทางมิตซูบิชิถึงการร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้างคลังก๊าซแอลพีจีขนาด 5 หมื่นตัน ที่มาบตาพุด จ.ระยอง โดยจะสร้างในพื้นที่ของบริษัท ปุ๋ยเอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) เนื่องจากยังมีพื้นที่ว่างและมีท่าเทียบเรือแล้ว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่ตํ่ากว่า 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งการเจรจาดังกล่าวคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ หากมีความชัดเจน จะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) จากนั้นจะเสนอแผนไปยังกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) ต่อไป คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ และจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2-3 ปี จากนั้นจะเปิดใช้ได้ภายในปี 2562-2563

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าทางมิตซูบิชิจะไม่ร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว แต่บริษัทก็พร้อมลงทุน เนื่องจากต้องการขยายธุรกิจด้านคลังแอลพีจีขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับการนำเข้าของเรือแอลพีจีขนาด 4.4 หมื่นตันได้ ซึ่งคลังแอลพีจีของบริษัทในปัจจุบันรองรับได้เพียง 1 หมื่นตัน และเป็นถังกลม แต่ถังที่จะลงทุนใหม่นั้น จะสามารถรองรับแอลพีจีที่ขนส่งทางเรือ โดยจะเป็นลักษณะเดียวกับคลังแอลพีจีที่เขาบ่อยาของ บมจ.ปตท.

[caption id="attachment_165905" align="aligncenter" width="503"] เอสซีกรุ๊ปผุดคลังLPG เปิดเสรีทุบราคาค้าส่ง เอสซีกรุ๊ปผุดคลังLPG เปิดเสรีทุบราคาค้าส่ง[/caption]

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ภายหลังจาก ธพ.เปิดนำเข้าแอลพีจีเสรี ซึ่งปัจจุบันมีผู้ค้าแอลพีจี นำเข้า 3 ราย ได้แก่ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) มีแผนนำเข้าไปจนถึงสิ้นปีนี้ อยู่ที่ประมาณ 4.4 หมื่นตันต่อเดือน ,บริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) มีแผนนำเข้า 4-5 พันตันต่อเดือนและบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำเข้า 4.4 หมื่นตันต่อเดือน

ขณะที่ราคาขายส่งแอลพีจี มีการแข่งขันมากขึ้น โดยพบว่าบริษัท สยามแก๊สฯ ปรับลดลงราคาแอลพีจีให้กับผู้ค้า 10 สตางค์ต่อกิโลกรัม หลังจากนั้น ปตท. ได้มีการปรับราคาลดลง 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม และคาดว่าเมื่อมิตซูบิชินําเข้ามาแล้วจะเสนอให้ส่วนลดราคากับลูกค้าบางกลุ่มหรือลูกค้าที่ซื้อในปริมาณมากในระดับ 20-48 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคาขายปลีกอยู่ที่ 20.49 บาทต่อกิโลกรัม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,272 วันที่ 22 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560