มิตซูบิชิโดดร่วมค้าLPG ธุรกิจแข่งเดือดผู้ค้าแห่นำเข้าชิงแชร์ตลาด

18 มิ.ย. 2560 | 05:40 น.
ธุรกิจค้าแอลพีจีแข่งเดือด มิตซูบิชิ จากญี่ปุ่นโดดร่วมวง จดทะเบียนเป็นผู้ค้าม.7 แล้ว กางแผนร่วมกับ"บิ๊กแก๊สนำเข้า 4.4 หมื่นตันต่อเดือน ลอยลำที่ศรีราชา และเช่าคลังเอสซี กรุ๊ป ที่บางปะกง และอนาคตสร้างคลังที่มาบตาพุด

จากนโยบายการเปิดเสรีนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจีตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา ส่งผลให้มีผู้ค้าก๊าซแอลพีจีหน้าใหม่ เห็นโอกาสที่จะเข้ามาทำธุรกิจค้ากาซแอลพีจีมากขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้มัอัตราเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการแข่งขันในธุรกิจนี้มากขึ้น ล่าสุดได้รับการเปิดเผยจากกรมธุรกิจพลังงาน(กธ.) ว่า มีบริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจซื้อมาขายไป(เทรดดิ้ง) รายใหญ่ของโลกจากประเทศญี่ปุ่น เข้ามาขอจดทะเบียนเป็นผู้ค้าตามมาตรา 7 เพื่อดำเนินการนำเข้าและจำหน่ายก๊าซแอลพีจีแบบค้าส่งแล้ว สร้างความร้อนๆ หนาวๆ ให้กับผู้ค้ารายใหญ่อย่างบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และบริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) มิใช่น้อย

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า นโยบายการเปิดเสรีนำเข้าก๊าซแอลพีจี ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายใหม่ที่ไม่เคยค้ากาซแอลพีจีในประเทศไทยมาก่อน มายื่นขอจดทะเบียนเป็นผู้ค้าตามมาตรา 7 เพิ่มขึ้น ล่าสุดเพิ่งได้พิจารณาการยื่นขอจดทะเบียนรับรองการเป็นผู้ค้าแอลพีจีมาตรา 7 ของ บริษัท มิตซูบิชิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจเทรดดิ้งของญี่ปุ่นแล้ว และได้นำเสนอให้พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้ลงนามเห็นชอบแล้ว ซึ่งเชื่อว่า ในอนาคตจะมีส่วนสำคัญในการทำให้ตลาดแอลพีจีของไทยมีการแข่งขันเพิ่มขึ้น จะเห็นว่าราคาแอลพีจีขายส่งมีการแข่งขันด้านราคาลดลงแล้วเฉลี่ย 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม และต่อไปที่สุดจะสะท้อนมายังราคาขายปลีกให้กับผู้บริโภค จากปัจจุบันอยู่ที่ 20.49 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนทางบริษัท มิตซูบิชิ จะนำเข้าแอลพีจีมาจำหน่ายเมื่อใดนั้น หลังจากที่อนุมัติให้เป็นผู้ค้าตามมาตรตรา 7 แล้ว ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าทางมิตซูบิชิจะมีความพร้อมเมื่อใด และในปริมาณที่เท่าใด เพราะการนำเข้าจะต้องแจ้งล่วงหน้ากับกรมฯก่อนทุกวันที่ 20 ของทุกเดือน

[caption id="attachment_164018" align="aligncenter" width="503"] มิตซูบิชิโดดร่วมค้าLPG ธุรกิจแข่งเดือดผู้ค้าแห่นำเข้าชิงแชร์ตลาด มิตซูบิชิโดดร่วมค้าLPG ธุรกิจแข่งเดือดผู้ค้าแห่นำเข้าชิงแชร์ตลาด[/caption]

ทั้งนี้ หากดูตามแผนของมิตซูบิชิ ที่ได้ยื่นแผนการค้าแอลพีจี ประกอบการขอจดทะเบียนเป็นผู้ค้าตามมาตรา 7 นั้น พบว่า ในระยะแรกจะร่วมกับบริษัท บิ๊กแก๊ส นำเข้าแอลพีจีโดยทางเรือขนาด 4.4 หมื่นตัน และมาลอยลำบริเวณศรีราชา เพื่อถ่ายลงเรือลำเล็ก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตลอยลำเรือจากกรมเจ้าอยู่ และขนถ่ายมายังคลังบางปะกง ที่ขอเช่าจากบริษัท เอสซี กรุ๊ป ที่มีความจุราว 5 พันตัน

ขณะที่แผนในอนาคตนั้น จะร่วมกับบริษัท เอสซี กรุ๊ป สร้างคลังแอลพีจี บริเวณมาบตาพุต จังหวัดระยอง ซึ่งมีท่าเรือน้ำลึกรับเรือแอลพีจีขนาด 4.4 หมื่นตันได้

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอสจีพี เปิดเผยว่ากรณีบริษัท มิตซูบิชิ ค่ายญี่ปุ่น เข้าจดทะเบียนเป็นผู้ค้ามาตรา 7 ในประเทศไทย เพื่อนำเข้าแอลพีจี เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากบริษัทนำเข้าแอลพีจีเพื่อป้อนให้กับลูกค้าของบริษัท ไม่ได้แย่งลูกค้าของบริษัทรายอื่น

โดยบริษัทมียอดขายแอลพีจีในประเทศรวมทั้งสิ้น 1-1.2 ล้านตันต่อเดือน แบ่งเป็นยอดขายแอลพีจีภาคขนส่ง 20-25% ,แอลพีจีครัวเรือน 60-65% ส่วนที่เหลือเป็นแอลพีจีในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม 15% ปัจจุบันบริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 30-40% ของยอดขายทั้งหมด ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศอยู่ที่กว่า 2 ล้านตันต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้นำเข้ารายใหม่เข้ามาในระบบเพิ่มขึ้น บริษัทไม่มีความกังวลแต่อย่างใด รวมทั้งคงไม่ปรับลดลงราคาเพื่อการแข่งขัน เนื่องจากการทำธุรกิจของบริษัทจะเน้นกลุ่มลูกค้าเดิม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,271 วันที่ 18 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560