“อองมาร์ช-มาครง” ครองพื้นที่รัฐสภาตราไก่

12 มิ.ย. 2560 | 05:48 น.
วันที่ 12-6-60-ความคืบหน้าผลการเลือกตั้งส.ส.ฝรั่งเศสนั้น ล่าสุดพรรคอองมาร์ช (La Republique en Marche) ของนายเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส คว้าชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปรอบแรกเมื่อวานนี้(11มิ.ย.) โดยสิ่งที่ปรากฏกับพรรคอองมาร์ชพรรคการเมืองสายกลางของประธานาธิบดีฝรั่งเศสนั้นนับเป็นความสำเร็จอย่างงดงาม เนื่องจากพรรคของนายมาครงเพิ่งจะก่อตั้งมาได้เพียงแค่1ปีเศษ และไม่เคยมีส.ส. ในสภามาก่อน

Legislatives-La-Republique-en-marche-accentue-son-avance-au-premier-tour-768x384 ผลสำรวจคาดว่า พรรคอองมาร์ช  น่าจะได้คะแนนเสียง 32.3% ในการเลือกตั้งส.ส. ส่วนพรรครีพับลิกันที่เป็นสายอนุรักษนิยมน่าจะได้คะแนนเสียง 20% และพรรคเนชันแนล ฟรอนต์ พรรคการเมืองสายขวาจัด น่าจะได้ประมาณ 17% และคาดว่า หลังจากเสร็จสิ้นการเลือกตั้งรอบสองที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.นี้  พรรคอองมาร์ช น่าจะได้ที่นั่งในสภา 400 ที่นั่ง จาก 577 ที่นั่ง

ด้านนางแคทเธอรีน บาร์บาโรว์ รักษาการหัวหน้าพรรคอองมาร์ชแถลงแสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้ง และกล่าวขอบคุณชาวฝรั่งเศสที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรคอองมาร์ช ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ และเป็นผู้หญิงมากถึงครึ่งหนึ่ง

2017-05-07t192509z_1225739273_rc1b8a14eb60_rtrmadp_3_france-election-768x434 ขณะที่นางมารีน เลอแปน จากพรรคเนชั่นแนล ฟร้อนท์ พรรคขวาจัด ที่พ่ายแพ้นายมาครงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพ.ค. น่าจะได้คะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ 17 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่ในเขตฐานเสียงสำคัญของนางเลอ เเปน พรรคเนชั่นแนลฟร้อนท์ยังได้คะแนนเสียงเพียง 44 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น นางเลอแปน แสดงความกังวลต่อจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งรอบแรกน้อย เพียงแค่ 48.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น  พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนพรรคออกมาใช้สิทธิ์กันมาก ๆ ในการเลือกตั้งรอบสองในวันที่18มิ.ย.นี้

การเลือกตั้ง ส.ส.ของฝรั่งเศส มีขึ้นสองรอบ คือวันที่ 11 และ 18 มิ.ย. ผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งรับตำแหน่งในสภาผู้แทนราษฎร จะต้องได้คะแนนโหวตเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเขตที่ผู้สมัครได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์จะต้องไปคัดเลือกกันต่อในรอบสอง และหากพรรคของนายมาครง สามารถกวาดคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งรอบสอง อย่างที่โพลล์หลายสำนักฟันธง จะกลายเป็นความพ่ายแพ้ของพรรคการเมืองกระแสหลัก หลังจากที่ก่อนหน้าที่ก็พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมาแล้ว และพรรคของนายมาครงก็จะครองเสียงส่วนใหญ่ในสภา