ขาใหญ่ในตลาดหุ้น : ดีลหุ้นร้อน ‘ทวีฉัตร จุฬางกูร’
ขาใหญ่ในตลาดหุ้น
ดีลหุ้นร้อน ‘ทวีฉัตร จุฬางกูร’
ชื่อของ ทวีฉัตร จุฬางกูร แจ้งเกิดในวงการตลาดหุ้นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2544 เมื่อเขาได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) จำนวน 2.2 ล้านหุ้น มูลค่า 77 ล้านบาท ขณะที่หุ้น PTT ถูกจองหมดเกลี้ยงเป็นสถิติหุ้นใหม่ด้วยเวลาเพียง 1.07 นาที
ทวีฉัตร จุฬางกูร เป็นทายาทหมื่นล้าน “ซัมมิทกรุ๊ป” เป็นบุตรชาย สรรเสริญ จุฬางกูร อดีตประธานกรรมการบริษัทเอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน)
ที่สำคัญ ทวีฉัตร จุฬางกูร เป็นหลานชายของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่โดนโจมตีในสภา หลังปรากฏชื่อหลานชายสุดเลิฟ ได้หุ้น PTT
ทวีฉัตร จุฬางกูร จบปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2535 และ จบปริญญาโทไฟแนนซ์จาก Webster University เขาลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่อายุ 18 โดยนำหุ้นไอพีโอที่ได้รับมาจากพ่อและแม่ไปขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และได้กำไรพอสมควร เป็นใบเบิกทางให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่นั้นมา
ปลายปี 2549 มีข่าวว่า ทวีฉัตร จุฬางกูร ร่วมกับเพื่อนนักธุรกิจ เทกโอเวอร์ บล.พรูเด้นท์ สยามฯ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นบล.ไอร่าฯ ซึ่งทวีฉัตร เคยระบุว่าเปิดพอร์ตเล่นหุ้นกับโบรกเกอร์ 5 แห่ง แต่ลงทุนกับ บล.ไอร่าฯมากที่สุด มูลค่าพอร์ตประมาณ 1,500 ล้านบาท
เทคนิคการลงทุนส่วนตัว เขาจะแบ่งพอร์ตเป็น 2 ส่วน คือ หุ้นพื้นฐานลงทุนระยะยาว ที่จะต้องผ่านการทำการบ้านอย่างหนัก ต้องรู้ทุกเรื่อง ทุกมุมของหุ้นที่จะลงทุน และอีกส่วนเอาไว้ลงทุนตามเทคนิค ที่จะใช้เทคนิคเฉพาะจากประสบการณ์ลงทุนมาหลายสิบปี
จากการสำรวจพอร์ตลงทุนของ ทวีฉัตร จุฬางกูร ล่าสุด ปี 2560 พบว่า ทวีฉัตร มีเงินลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 30 บริษัท มูลค่ารวมกันกว่า 1.18 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าหุ้นที่ถือสูงสุดคือ AIRA 2,360 ล้านบาท IVL 1,665 ล้านบาท GRAMMY 1,490 ล้านบาท และ OISHI 1,076 ล้านบาท
หุ้นในพอร์ตที่มีมูลค่าระหว่าง 500-1,000 ล้านบาท มีอยู่หลายตัว เช่น LANNA 837 ล้านบาท NNCL 641 ล้านบาท SAFARI 528 ล้านบาท และหุ้น NOK 767 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าหลัก 100 ล้านบาท มีหลายตัว เช่น SE-ED มูลค่า 385 ล้านบาท ITD มูลค่า 311 ล้านบาท TSC มูลค่า 228 ล้านบาท HOTPOT 168 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นหลักสิบล้านบาท เช่น MPG SUSCO TVT NWR รวมถึง RICH ที่ถืออยู่ถึง 110 ล้านหุ้น มูลค่าเหลือแค่ 7.7 ล้านบาทเท่านั้น
ทวีฉัตร จุฬางกูร ชื่อของเขามากระฉ่อนอีกครั้ง รอบนี้มาคู่กับน้องชาย ณัฐพล จุฬางกูร ที่ร่วมกันซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOK เกินสิทธิ์ ทำให้เมื่อนับรวมหุ้นของพี่น้องคู่นี้ จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ NOK ทันที ด้วยสัดส่วน 28.93% เขี่ยผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมคือบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)(THAI) ที่ไม่ใช้สิทธิ์ิ และถูกลดสัดส่วนจาก 39% เหลือแค่ 21.57% เท่านั้น ท่ามกลางข้อกังขาว่า THAI เปิดทางให้จุฬางกูร ผงาดหรือไม่
คอลัมน์ ขาใหญ่ในตลาดหุ้น / หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11-14 มิถุนายน 2560
ดีลหุ้นร้อน ‘ทวีฉัตร จุฬางกูร’
ชื่อของ ทวีฉัตร จุฬางกูร แจ้งเกิดในวงการตลาดหุ้นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2544 เมื่อเขาได้รับการจัดสรรหุ้นไอพีโอ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) จำนวน 2.2 ล้านหุ้น มูลค่า 77 ล้านบาท ขณะที่หุ้น PTT ถูกจองหมดเกลี้ยงเป็นสถิติหุ้นใหม่ด้วยเวลาเพียง 1.07 นาที
ทวีฉัตร จุฬางกูร
ทวีฉัตร จุฬางกูร เป็นทายาทหมื่นล้าน “ซัมมิทกรุ๊ป” เป็นบุตรชาย สรรเสริญ จุฬางกูร อดีตประธานกรรมการบริษัทเอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่ปัจจุบันเปลี่ยนมือเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เฟอร์รั่ม จำกัด (มหาชน)
ที่สำคัญ ทวีฉัตร จุฬางกูร เป็นหลานชายของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ที่โดนโจมตีในสภา หลังปรากฏชื่อหลานชายสุดเลิฟ ได้หุ้น PTT
ทวีฉัตร จุฬางกูร จบปริญญาตรี รัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2535 และ จบปริญญาโทไฟแนนซ์จาก Webster University เขาลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่อายุ 18 โดยนำหุ้นไอพีโอที่ได้รับมาจากพ่อและแม่ไปขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และได้กำไรพอสมควร เป็นใบเบิกทางให้เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นตั้งแต่นั้นมา
ปลายปี 2549 มีข่าวว่า ทวีฉัตร จุฬางกูร ร่วมกับเพื่อนนักธุรกิจ เทกโอเวอร์ บล.พรูเด้นท์ สยามฯ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นบล.ไอร่าฯ ซึ่งทวีฉัตร เคยระบุว่าเปิดพอร์ตเล่นหุ้นกับโบรกเกอร์ 5 แห่ง แต่ลงทุนกับ บล.ไอร่าฯมากที่สุด มูลค่าพอร์ตประมาณ 1,500 ล้านบาท
เทคนิคการลงทุนส่วนตัว เขาจะแบ่งพอร์ตเป็น 2 ส่วน คือ หุ้นพื้นฐานลงทุนระยะยาว ที่จะต้องผ่านการทำการบ้านอย่างหนัก ต้องรู้ทุกเรื่อง ทุกมุมของหุ้นที่จะลงทุน และอีกส่วนเอาไว้ลงทุนตามเทคนิค ที่จะใช้เทคนิคเฉพาะจากประสบการณ์ลงทุนมาหลายสิบปี
จากการสำรวจพอร์ตลงทุนของ ทวีฉัตร จุฬางกูร ล่าสุด ปี 2560 พบว่า ทวีฉัตร มีเงินลงทุนในตลาดหุ้นประมาณ 30 บริษัท มูลค่ารวมกันกว่า 1.18 หมื่นล้านบาท โดยมูลค่าหุ้นที่ถือสูงสุดคือ AIRA 2,360 ล้านบาท IVL 1,665 ล้านบาท GRAMMY 1,490 ล้านบาท และ OISHI 1,076 ล้านบาท
หุ้นในพอร์ตที่มีมูลค่าระหว่าง 500-1,000 ล้านบาท มีอยู่หลายตัว เช่น LANNA 837 ล้านบาท NNCL 641 ล้านบาท SAFARI 528 ล้านบาท และหุ้น NOK 767 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าหลัก 100 ล้านบาท มีหลายตัว เช่น SE-ED มูลค่า 385 ล้านบาท ITD มูลค่า 311 ล้านบาท TSC มูลค่า 228 ล้านบาท HOTPOT 168 ล้านบาท เป็นต้น ส่วนที่เหลือเป็นหุ้นหลักสิบล้านบาท เช่น MPG SUSCO TVT NWR รวมถึง RICH ที่ถืออยู่ถึง 110 ล้านหุ้น มูลค่าเหลือแค่ 7.7 ล้านบาทเท่านั้น
ณัฐพล จุฬางกูร
ทวีฉัตร จุฬางกูร ชื่อของเขามากระฉ่อนอีกครั้ง รอบนี้มาคู่กับน้องชาย ณัฐพล จุฬางกูร ที่ร่วมกันซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOK เกินสิทธิ์ ทำให้เมื่อนับรวมหุ้นของพี่น้องคู่นี้ จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ของ NOK ทันที ด้วยสัดส่วน 28.93% เขี่ยผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมคือบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)(THAI) ที่ไม่ใช้สิทธิ์ิ และถูกลดสัดส่วนจาก 39% เหลือแค่ 21.57% เท่านั้น ท่ามกลางข้อกังขาว่า THAI เปิดทางให้จุฬางกูร ผงาดหรือไม่
คอลัมน์ ขาใหญ่ในตลาดหุ้น / หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ / ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11-14 มิถุนายน 2560