EXIMบุกเมียนมา ลงทุนพุ่ง7แสนล้าน
เอ็กซิมแบงก์หวัง 3 ปีมูลค่าการค้าลงทุนไทย-เมียนมาโตพรวด 7 แสนล้าน เดินหน้าตั้งสำนักงานสปป.ลาว-กัมพูชาหนุนนักลงทุนไทยบุก CLMV
[caption id="attachment_121409" align="aligncenter" width="503"]
อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง[/caption]
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน2560 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมพิธีเปิดสำนักงานตัวแทนต่างประเทศแห่งแรกของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมในกรุงย่างกุ้ง พร้อมลงนามความร่วมมือกับธนาคารการค้าต่างประเทศของเมียนมา หรือ MFTB เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และ สนับสนุนทางการเงิน การให้บริการ รวมถึงกิจกรรมขยายช่องทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทยและเมียนมา
[caption id="attachment_124508" align="aligncenter" width="335"]
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา[/caption]
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ ระบุว่า แนวโน้มนักลงทุนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม(CLMV) ธนาคารจึงปรับแผนมุ่งส่งเสริมการลงทุนและการค้าเพิ่มขึ้น และเพิ่มนโยบายการให้บริการด้านสินเชื่อให้สอดคล้องกับแผนการให้บริการระยะ 1-3 ปี โดยธนาคารมีแผนเปิดสำนักงานผู้แทนเพิ่มอีก 2 แห่งในสปป.ลาว และ กัมพูชา ช่วงปลายปี 2560และต้นปี2561 และอยู่ระหว่างศึกษาที่จะเปิดสำนักงานให้บริการในประเทศเวียดนามต่อไป โดยเฉพาะสำนักงานผู้แทนเมืองย่างกุ้งนั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกแล้ว คาดว่าภายใน 3 ปีมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเมียนมาจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 7แสนล้านบาท
ดังนั้นเมื่อการลงทุนการค้าที่เพิ่มขึ้นแน่นอนว่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ซึ่งภาคการท่องเที่ยว บริการเป็นสายงานธุรกิจที่คนไทยถนัดซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อต่อปีไม่ต่ำกว่า 10-20% ขณะที่ปัจจุบันกำลังพิจารณาอนุมัติเชื่อแก่นักธุรกิจไทยในเมียนมา 18โครงการ ปัจจุบันยอดสินเชื่อโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท
"ขณะนี้เอ็กซิมแบงก์มียอดสินเชื่อคงค้าง(out standing)อยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งกว่า 50% เป็นสินเชื่อในกลุ่มซีแอลเอ็มวี มูลค่ารวมกันกว่า 4 หมื่นล้านบาท สำหรับเมียนมา คาดว่าปีนี้จะปล่อยกู้ 1หมื่นล้านบาท”
นายวรมินทร์ ถาวราภา หัวหน้าสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ย่างกุ้ง ระบุว่าเศรษฐกิจของพม่าขยายตัวสูง 6-7% ต่อเนื่องมีกำลังซื้อในประเทศสูงขึ้นจากอดีตมาก สะท้อนจากสินค้าแบรด์แนมเข้ามารุกตลาดจำนวนมาก รวงทั้งการลงทุนสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ส่วนอุตสาหกรรมที่รัฐบาลเมียนมาต้องการให้มีการลงทุน เช่น กลุ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้า น้ำประปา และโรงแรม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560
[caption id="attachment_121409" align="aligncenter" width="503"]
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน2560 นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมพิธีเปิดสำนักงานตัวแทนต่างประเทศแห่งแรกของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมในกรุงย่างกุ้ง พร้อมลงนามความร่วมมือกับธนาคารการค้าต่างประเทศของเมียนมา หรือ MFTB เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และ สนับสนุนทางการเงิน การให้บริการ รวมถึงกิจกรรมขยายช่องทางการค้าการลงทุนระหว่างประเทศให้แก่ผู้ประกอบการไทยและเมียนมา
[caption id="attachment_124508" align="aligncenter" width="335"]
นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ เอ็กซิมแบงก์ ระบุว่า แนวโน้มนักลงทุนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม(CLMV) ธนาคารจึงปรับแผนมุ่งส่งเสริมการลงทุนและการค้าเพิ่มขึ้น และเพิ่มนโยบายการให้บริการด้านสินเชื่อให้สอดคล้องกับแผนการให้บริการระยะ 1-3 ปี โดยธนาคารมีแผนเปิดสำนักงานผู้แทนเพิ่มอีก 2 แห่งในสปป.ลาว และ กัมพูชา ช่วงปลายปี 2560และต้นปี2561 และอยู่ระหว่างศึกษาที่จะเปิดสำนักงานให้บริการในประเทศเวียดนามต่อไป โดยเฉพาะสำนักงานผู้แทนเมืองย่างกุ้งนั้น นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกแล้ว คาดว่าภายใน 3 ปีมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างไทยและเมียนมาจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 7แสนล้านบาท
ดังนั้นเมื่อการลงทุนการค้าที่เพิ่มขึ้นแน่นอนว่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทย ซึ่งภาคการท่องเที่ยว บริการเป็นสายงานธุรกิจที่คนไทยถนัดซึ่งมีแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อต่อปีไม่ต่ำกว่า 10-20% ขณะที่ปัจจุบันกำลังพิจารณาอนุมัติเชื่อแก่นักธุรกิจไทยในเมียนมา 18โครงการ ปัจจุบันยอดสินเชื่อโครงการลงทุนที่ได้รับอนุมัติแล้วกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท
นายวรมินทร์ ถาวราภา หัวหน้าสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ย่างกุ้ง ระบุว่าเศรษฐกิจของพม่าขยายตัวสูง 6-7% ต่อเนื่องมีกำลังซื้อในประเทศสูงขึ้นจากอดีตมาก สะท้อนจากสินค้าแบรด์แนมเข้ามารุกตลาดจำนวนมาก รวงทั้งการลงทุนสร้างห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ส่วนอุตสาหกรรมที่รัฐบาลเมียนมาต้องการให้มีการลงทุน เช่น กลุ่มการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โรงไฟฟ้า น้ำประปา และโรงแรม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,269 วันที่ 11 - 14 มิถุนายน พ.ศ. 2560