ทิสโก้ชู'กองทุนหุ้นปันผล'ทางเลือกตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวแคบ

07 มิ.ย. 2560 | 05:24 น.
บลจ.ทิสโก้ มองหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ เหตุเศรษฐกิจไทยขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ แนะกองทุนหุ้นที่เน้นหุ้นที่มีพื้นฐาน จ่ายปันผลดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน พร้อมอวดผลงาน TISCOHD เน้นลงทุนหุ้นในกลุ่มปันผล สร้างตอบแทนถึง 41.88% ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ว่า SET Index มีแนวโน้มเคลื่อนไหวแบบ Sideway ในกรอบแคบที่ระดับประมาณ 1,540 – 1,575 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ มาสนับสนุนตลาด หลังจากผ่านช่วงประกาศงบการเงินในไตรมาสที่ผ่านมา

tiscp0607-1 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะทยอยปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในครึ่งปีหลัง ที่จะได้รับแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากเงินลงทุนจากภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ประกอบกับการบริโภคภาคเอกชน การท่องเที่ยว และการส่งออกต่างทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง บลจ. ทิสโก้จึงแนะนำให้ใช้โอกาสนี้ทยอยลงทุนในกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุน

“ในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ ที่จะทำให้เม็ดเงินใหม่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นบ้านเรายังมีไม่มาก การทยอยซื้อสะสมหุ้นที่มีผลการดำเนินงานดีสม่ำเสมอและมีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลสูงน่าจะยังได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอยู่ เพราะอย่างน้อยผู้ลงทุนก็ยังได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลซึ่งคาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลก็ยังอยู่ในระดับที่ดี และหากผลประกอบการของบริษัทเหล่านั้นดีกว่าที่ผู้ลงทุนคาด ราคาหุ้นของบริษัทก็มักจะปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนผลประกอบการที่ดี เท่ากับว่าการลงทุนในหุ้นปันผลผู้ลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนได้ถึงสองทาง”นายสาห์รัช กล่าว

ทั้งนี้ บลจ. ทิสโก้มี กองทุนเปิด ทิสโก้ ไฮ ดิวิเดนด์ หุ้นทุน (TISCOHD) มีนโยบายลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน SET High Dividend 30 Index เป็นหลัก เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยข้อมูลจาก Morningstar เมื่อวันที่31 พ.ค. 60 ระบุว่า นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (18 ก.ค. 55) TISCOHD สร้างผลตอบแทนเป็นบวกได้ถึง 41.88% ขณะที่ SET Index ซึ่งใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงให้ผลตอบแทน 11.96% และในส่วนของผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี1 ปี 6 เดือน และ 3 เดือน TISCOHD มีผลตอบแทน 22.46% 17.66% 11.52% และ 1.71% ตามลำดับ

ขณะที่ SET Index สร้างผลตอบแทนที่ 11.16% 16.43% 11.97% และ 2.46% ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยที่ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิใช่สิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
2 ไฟล์แนบ