สถาบันอาหารเซ็น MOI เจโทร ปั้นไทยเป็นฐานผลิตสินค้าอาหารแปรรูป

26 พ.ค. 2560 | 10:02 น.
ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย สถาบันอาหาร ผนึกองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทร กรุงเทพฯ ทำบันทึกแสดงเจตจำนง(Memorandum of Intent - MOI) เริ่มต้นความร่วมมือในการส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารของไทยและญี่ปุ่น ครอบคลุมการนำเข้า-ส่งออก การร่วมทุน การให้คำปรึกษา การจับคู่ธุรกิจ และการขยายกิจการของผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่น   ชูกลยุทธ์หลักด้วย Food Value Chain หวังผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าอาหารแปรรูปที่มีคุณภาพ พุ่งเป้าการส่งออกไปยังตลาดอาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลางในอนาคต ประเดิมจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น (Business Matching) ในงาน THAIFEX-World of Food Asia 2017 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. 2560  ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายยงวุฒิ  เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การลงนามในบันทึกแสดงเจตจำนง(MOI) กับเจโทร ครั้งนี้ เพื่อความชัดเจนของกลุ่มเป้าหมายการให้บริการที่กว้างขวางขึ้น ได้แก่ ผู้ผลิตสินค้าอาหารของไทยและญี่ปุ่นที่ต่างต้องการส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นหรือประเทศไทย  หรือต้องการร่วมลงทุนเป็นพันธมิตรกับบริษัทท้องถิ่นของแต่ละประเทศ หรือต้องการขยายธุรกิจในญี่ปุ่นหรือประเทศไทย รวมถึงต้องการนำสินค้าอาหารส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตอีกด้วย แบ่งเป็นการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายดังกล่าว 2 ด้านด้วยกัน คือ

1) ด้านการให้บริการข้อมูลและคำปรึกษา อาทิ ข้อมูล กฎ ระเบียบ มาตรฐานสินค้าอาหาร ขั้นตอนการนำเข้า-ส่งออก ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอาหารและมาตรการใหม่ๆ ข้อมูลด้านการตลาดและแนวโน้ม และการตรวจสอบสินค้าอาหารโดยห้องปฏิบัติการทดสอบ เป็นต้น   2) ด้านการจัดสัมมนาเชิงวิชาการในประเด็นที่เกี่ยวข้องธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการ รวมถึงการจับคู่ธุรกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

“โดยผู้ประกอบการของไทยและญี่ปุ่น สามารถเข้าร่วมจับคู่ธุรกิจการค้า (Business Matching) ได้ภายในงาน THAIFEX – Word of Food Asia 2017 ซึ่งในปีนี้สถาบันอาหารได้จัดแสดงนิทรรศการ และตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารจากผู้ประกอบการของไทยจำนวน 24 ราย ภายใต้แนวคิด Future Food ซึ่งประกอบด้วยสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มเสริมสุขภาพ (Functional Foods) อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) อาหารเพื่อบำบัดผู้ป่วยเฉพาะโรค อาหารอินทรีย์  (Organic Foods) และอาหารที่ผลิตขึ้นมาใหม่เพื่อนวัตกรรม (Novel Food)  หลากหลายประเภท  ทั้งยังได้จัดสรรพื้นที่ภายใน  NFI Pavilion แสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์เกษตรและอาหารแปรรูป “Saraburi Selected” หรือของดีสระบุรี ที่ได้รับการคัดสรรแล้ว อาทิ Sun Puff (กะหรี่ปั๊ปรูปทรงดอกทานตะวัน), น้ำเกสรดอกทานตะวันพร้อมดื่ม, แยมมัลเบอรี่ทูอินวัน, ทองม้วนเคลือบเมล็ดทานตะวัน, น้ำมัลเบอรี่พร้อมดื่ม (สูตรน้ำตาลต่ำ) เป็นต้น บริเวณบูธ M25 - M35 ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสร้างสรรค์ภูมิปัญญาจังหวัดสระบุรีสู่ภาคการค้าในระดับสากล และสาธิตการปรุงอาหารรสไทยแท้(Authentic Thai Food) สร้างสีสันแก่นักชิมที่เข้าร่วมชมงานอีกด้วย”

อนึ่งในปี 2559 ไทยส่งออกสินค้าอาหารไปญี่ปุ่นคิดเป็นมูลค่าราว 1.32 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.0  เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยญี่ปุ่นเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 ของไทยรองจากกลุ่มประเทศอาเซียน  มีสินค้าหลักที่สามารถเติบโตได้ดี อาทิ ไก่ กุ้ง  ทูน่ากระป๋อง อาหารพร้อมรับประทาน และสับปะรดกระป๋อง เป็นต้น สำหรับในไตรมาสที่ 1 ปี 2560 นี้ ไทยส่งออกไปญี่ปุ่นด้วยมูลค่า 33,064 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 8.4

นายฮิโรคิ มิทสึมาตะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) กรุงเทพฯกล่าวว่า บันทึกแสดงเจตจำนง(MOI) ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง 2ประเทศ ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารทั้งในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น มีกรอบที่กว้างขวางขึ้น เน้นการขยายตลาดสินค้าอาหารแปรรูปโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตไปยังประเทศที่ 3 โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อินเดีย และตะวันออกกลางซึ่งมีศักยภาพสูง  ซึ่งจะใช้กลยุทธ์การสร้างความแข็งแกร่งด้าน Food Value Chain หรือห่วงโซ่การผลิตสินค้าอาหารแปรรูปที่นำเข้าวัตถุดิบมาจากญี่ปุ่นเพื่อมาผลิตในประเทศไทย และผลักดันให้ส่งออกไปตลาดประเทศเป้าหมาย

นายมิทสึมาตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการเริ่มต้นความร่วมมือภายใต้บันทึกฯดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม สถาบันอาหารและเจโทรมีแผนที่จะจัดการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) อย่างไม่เป็นทางการขึ้นในงาน THAIFEX-World of Food Asia 2017 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 พ.ค. - 4 มิ.ย. 2560   ซึ่งผู้ประกอบการชาวไทยที่เข้าเยี่ยมชม Japan Pavilion บริเวณฮอลล์ 4 บูธ U02-W33 อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นราว 67 ราย ที่มาจัดแสดงผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพสูงหลากหลายรายการ ทั้งยังสามารถร่วมชมการสาธิตการปรุงอาหารโดยเชฟและบล็อกเกอร์ชื่อดัง และร่วมชิมเมนูใหม่ๆที่สร้างสรรค์อีกด้วย