“ชาญชัย”ซัดทอท.ละเลยติด”พีโอเอส”ตรวจยอดขายสินค้าดิวตี้ฟรี

25 พ.ค. 2560 | 07:23 น.
"ชาญชัย"กระซวกซ้ำ “เจ้าหน้าที่ทอท.”ละเว้นปฏิบัติหน้าที่กรณีไม่ติดตั้งเครื่องตรวจสอบยอดขายสินค้าดิวตี้ฟรีในสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ"พีโอเอส" ทำชาติเสียหาย 2.7หมื่นล้านบาท

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการปัองกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ ในคณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เปิดเผยว่า บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือทอท. ทำสัญญาให้กลุ่มบริษัทเอกชนเข้าบริหารพื้นที่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยบริษัทเอกชนต้องจัดแบ่งสรรผลประโยชน์จากยอดการขายสินค้าปลอดอากรและบริการให้ ทอท.15% จากยอดที่ให้บริษัท คิงเพาเวอร์ เก็บได้ไม่เกิน 20% ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญว่าจะต้องติดตั้งระบบพ้อย ออฟเซล(พีโอเอส) ที่เป็นระบบที่สามารถตรวจสอบยอดการขายสินค้า การได้มาของรายได้และสต็อกสินค้าในคลัง ตั้งแต่วันลงนามในสัญญาและเป็นเงื่อนไขของการประกวดราคาด้วย ที่ต้องทำโดยเคร่งครัด หากไม่ทำ ถือว่าเป็นการทำผิดสัญญาที่ ทอท. สามารถบอกเลิกสัญญาได้ทันที

ทั้งนี้ตลอดเวลา 9 ปีที่ผ่านมา พบว่าไม่มีการติดตั้งระบบ พีโอเอส ในการเช็คยอดรายได้จริงๆ จากการขายสินค้าของบริษัทเอกชนได้เลย ทอท.ไม่สามารถตรวจหรือรู้ยอดการขายสินค้าและบริการที่แท้จริง ซึ่งทางสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เข้าไปตรวจสอบ ผลปรากฎว่าไม่สามารถตรวจสอบยอดการขายสินค้าและบริการที่แท้จริงได้ เพราะไม่มีการติดตั้งระบบพีโอเอส ตามที่ระบุไว้ในสัญญา

นอกจากนั้นพบว่า ก่อนหน้าที่จะเซ็นต์สัญญาคือ ก่อนการประมูล ทาง ทอท.ได้มีการประมูลระบบพีโอเอสไว้แล้ว โดยใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งสตง.ไปตรวจสอบพบเครื่องมืออุปกรณ์ระบบพีโอเอส ได้ถูกกองไว้ใต้สายพานลำเลียงอย่างไร้ค่า ซึ่งอุปกรณ์ของระบบพีโอเอสนี้ยังสามารถใช้ได้ดี คือสามารถเช็คยอดการซื้อสินค้า และตัดยอดสินค้าในสต็อกแบบเรียลไทม์ได้ทันที โดยสามารถรู้ยอดการขายสินค้าและบริการแบบเรียลไทม์ในแต่ละวัน แต่ปรากฎข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่เปิดขายสินค้าจนถึงปัจจุบัน บริษัทคิงเพาเวอร์ กลับส่งแต่รายงานยอดการขายสินค้าและบริการ หลังจากพ้นระยะเวลาไปแล้ว 24 ชั่วโมง ต่อ ทอท.

“ขอตั้งข้อสังเกตว่า ในเมื่อมีการทำผิดสัญญาที่ระบุชัดแล้วในสัญญาหลักเรื่องการไม่ติดตั้งระบบพีโอเอส ทำไม ทอท.ไม่เตือน หรือบอกยกเลิกสัญญา แต่กลับมีการสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนกับเอกชนในการปล่อยปละละเลยในการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ให้กับบริษัทคิงเพาเวอร์ ขณะที่บริษัทเอกชนดังกล่าวก็รู้ว่าตัวเองทำผิดสัญญาที่ไม่ยอมติดตั้งระบบพีโอเอส เพื่อให้ตรวจสอบยอดการขายสินค้าปลอดอากรและบริการในแต่ละวัน โดยไม่ติดตั้งระบบดังกล่าวให้ตัวแทนรัฐรับทราบ ถือว่าผิดทางแพ่ง ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องมีความผิดทางอาญาที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุทำให้รัฐรับความเสียหายจำนวนเงินหลายหมื่นล้านบาท “

นายชาญชัย กล่าวว่า ทางคณะอนุกมธ.ฯ เคยรายงานให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รับทราบแล้ว เฉพาะรายการนี้อย่างเดียวประเมินว่า รัฐเสียหายไม่น้อยกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา และหากมีการตรวจสอบด้านเอกสารอาจจะเสียหายมากกว่านี้ และเพื่อเป็นการยืนยันข้อมูลกรณีนี้ ได้มีการทำรายละเอียดรายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอขา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ทราบแล้ว แต่ยังขาดเพียงชื่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องร่วมรู้เห็นและกระทำความผิด รวมถึงคนที่ปล่อยปละละเลย

ขณะเดียวกันยังพบรายงานการประชุมของคณะกรรมการใน ทอท.บางชุดที่ทำรายงานโกหกว่า ได้ติดตั้งระบบพีโอเอสนี้แล้ว เป็นการโกหกหลวกลวงประชาชนและผู้ถือหุ้น ทอท. ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนที่ทางสตง.ตรวจสอบพบเมื่อวันที่ 29 ก.พ.2559 โดยสตง.ทำรายงานถึงนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผอ.ทอท. และประธาน คือนายประสงค์ พูลธเนศ ซึ่งทราบเรื่องนี้ดีแต่กลับไม่แก้ไขอะไรเลย ถามว่าควรหรือไม่ ที่นายกฯ จะปล่อยให้คนเหล่านี้อยู่บริหารในตำแหน่งต่อไป จึงเป็นที่มาของการทำความเห็นของสปท. เสนอให้ปลดออก เพราะทำผิดสัญญาและละเลยอย่างนี้ ตนจึงจำเป็นต้องชี้แจงบอกกล่าวต่อสังคมให้รับทราบข้อเท็จจริง