ปัตตานีอุตสาหกรรม ลุยทำตลาดแบรนด์ “ปาเท็กซ์” ในประเทศจีน หลังได้รับความนิยมในสินค้าจากยางพารา เตรียมขยายช่องทางโมเดิร์นเทรด 100 แห่ง หวังกระตุ้นรายได้โต 10-15% ขณะที่ตลาดในประเทศวางแผนรีแบรนด์ สร้างการรับรู้ลูกค้าคนไทย
นายณัฐพัฒน์ นิธิอุทัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปัตตานีอุตสาหกรรม (1971) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ย หมอดและที่นอน จากฟ้องน้ำยางพาราแบรนด์ปาเท็กซ์ และไทยปาเท็กซ์ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2560 ว่า ได้มีแผนสร้างแบรนด์ ปาเท็กซ์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ พร้อมกับตั้งเป้าการเติบโตอย่างน้อย 10-15% หรือมีรายได้รวมประมาณ 1,450 ล้านบาท โดยตลาดต่างประเทศจะนำสินค้ากลุ่ม “ปาเท็กซ์ ท็อปเปอร์” เข้าสู่ตลาดประเทศจีนมากขึ้น ส่วนที่นอนขนาดใหญ่จะนำไปทำตลาดในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือประมาณปี 2563
สำหรับการรุกตลาดในประเทศจีน บริษัทฯ เริ่มเข้าทำตลาดได้ประมาณ 3 ปี ผ่านพาร์ทเนอร์ โดยใช้แบรนด์ ปาเท็กซ์ การทำตลาดในช่วงแรกผ่านระบบออนไลน์เป็นหลัก ซึ่งประสบความสำเร็จพอสมควร และทำให้ ไทยปาเท็กซ์ (Taipatex) ได้รับการยอมรับโดยเฉพาะในกลุ่มระดับกลาง-บน ทำให้หมอนที่ผลิตจากฟองน้ำยางพาราได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปีนี้จะมุ่งเน้นการทำตลาดออฟไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มร้านค้า ตัวแทนจำหน่าย และช่องทางโมเดิร์นเทรด ในประเทศจีน โดยตั้งเป้าช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออฟไลน์ในประเทศจีนไม่ต่ำกว่า 100 แห่ง
นายณัฐพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงผลการดำเนินงานจากการขยายไปสู่ตลาดประเทศจีนในปี 2558 ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นกว่า 20% โดยมียอดขายรวมทั้งกลุ่มที่ 1,200 ล้านบาท เป็นยอดขายจากการส่งออก 70% และยอดขายในประเทศ 30% ส่วนในปี 2559 มียอดขายทั้งกลุ่มที่ 1,350 ล้านบาทเติบโตเพิ่ม 10-15% โดยมียอดขายจากการส่งออกเพิ่มเป็น 80% ของรายได้รวม จากเดิมมีอัตราส่วนการส่งออกที่ 60% ซึ่งยอดขายจากประเทศจีนมีสัดส่วน 70% ของการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 750 – 800 ล้านบาท บริษัทยังทำตลาดในกลุ่มประเทศยุโรป ออสเตรเลีย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา
ส่วนการทำตลาดในประเทศ จะกลับมารีแบรนด์ปาเท็กซ์ เพื่อเจาะลูกค้าคนไทยเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมาในช่วงแรกบริษัทเน้นทำการตลาดในต่างจังหวัด ด้วยกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง แต่ในปัจจุบันมีการทำตลาดเกือบทุกจังหวัดผ่านดีลเลอร์ที่จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงโมเดิร์นเทรด ในกลุ่มของเซ็นทรัล และกลุ่มโฮมเวิร์ค