ททท. เผยธุรกิจแห่ลงทุนสร้างจุดขายใหม่เมืองพัทยา ไล่ตั้งแต่ศูนย์การค้าโรงแรมใหม่อีกร่วม 2 พันห้องที่เปิดตัวในปีนี้ โรงละครระดับชั้นนำ รองรับท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง รวมถึงอานิสงส์เออีซี พร้อมผนึกภาคธุรกิจในพื้นที่โปรโมตภาพลักษณ์เดสติเนชันสำหรับครอบครัวระดับโลก
นางสาวสุลัดดา ศรุตลาวัณย์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพัทยา เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าปัจจุบันเมืองพัทยา มีการลงทุนใหม่ของภาคเอกชนอยู่หลายโครงการ เพื่อรองรับการขยายตัวของการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และการขับเคลื่อนนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ของรัฐบาล ซึ่งพื้นที่ในการลงทุนไม่ใช่อยู่ภายในใจกลางพัทยา แต่ยังขยายจากนาจอมเทียนไปยังสัตหีบด้วย
ทั้งนี้โครงการที่อยู่ระหว่างการลงทุน อาทิ โครงการเทอร์มินอล 21 ที่กำลังสร้างศูนย์ การค้าและโรงแรมบริเวณพัทยาเหนือ โครงการโรงละคร SINGHA D’LUCK Cinematic Theatre โรงละครขนาด 1 พันที่นั่ง กับการแสดง KAAN Show ซึ่งเป็นโชว์ที่เอาวรรณคดีไทย มาผสมผสานกับเทคโนโลยี ที่เพิ่งเปิดให้บริการในเดือนนี้ และในปีนี้ยังจะมีห้องพักโรงแรมในเมืองพัทยาที่จะเปิดใหม่อีกราว 2 พันห้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมเชอราตันพัทยา ที่รีแบรนด์เป็นอินเตอร์คอนติเนนตัลพัทยา การเปิดให้บริการของโรแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรสนอกจากนี้ยังมีข่าวว่า เอวาซอนจะเข้ามาลงทุนโรงแรมที่เมืองพัทยา
การลงทุนใหม่ที่เกิดขึ้นทำให้พัทยามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงจุดขายใหม่ด้านการท่องเที่ยว ที่จะรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพต่างๆไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสตรี, กลุ่มไมซ์ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และพัทยามีนักท่องเที่ยวข้ามภาคจากอีสานเข้ามาเพิ่มขึ้น จากที่เมื่อเดือนเมษายนปี 2559 ไทยแอร์เอเชียเปิดบินเส้นทางใหม่ อุบลราชธานี-อู่ตะเภา
อีกทั้งการลงทุนภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงอู่ตะเภา ซึ่งจะขยายการรองรับการเดินทางที่สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สนามบินอู่ตะเภา จะเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ภายในเดือนสิงหาคมนี้, การขยายถนนเส้นทางเข้าสนามบินอู่ตะเภาจาก 2 เลน เป็น 4 เลน ในพัทยาก็มีการทำอุโมงค์ทางลอดจากพัทยากลางขึ้นไปสัตหีบ เป็นต้น
ส่วนเป้าหมายการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในปีนี้ตั้งเป้าขยายตัว 10% จากปีก่อนที่มีนักท่องเที่ยวกว่า 10 ล้านคน กว่า 35-40% เป็นนักท่องเที่ยวไทย และส่วนมากเดินทางมาเที่ยวพร้อมครอบครัวส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับ1 เป็นจีน อันดับ 2 เป็นรัสเซียที่ในปีนี้เดินทางเที่ยวพัทยาเพิ่มขึ้น และในปีที่ผ่านพัทยามีรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ราว 1.5แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เนื่องจากเราได้ปรับฐานการคำนวณรายได้จากห้องพักในพัทยาจาก5 หมื่นห้องเป็น 8 หมื่นห้อง เพื่อให้ใกล้เคียงกับจำนวนโรงแรมที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ล่าสุดททท.ได้ร่วมมือกับภาคเอกชนในพื้นที่ร่วมกันส่งเสริมพัทยา ให้เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวระดับโลกหรือแฟมิลี่ เฟรนด์ลี่ เดสติเนชันโดยอาศัยจุดเด่นการมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายในเมืองพัทยาโดยททท.ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายแห่งอาทิ โรงแรมเมอเวนพิค สยามโฮเทล พัทยา, สยาม มิวสิค ยามาฮ่า, สนามกอล์ฟสยาม คันทรีคลับพัทยา และสโมสรขี้ม้าไทยร่วมกันผลักดันแคมเปญ สำหรับครอบครัว เน้นการสร้างภาพลักษณ์ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวแบบครอบครัวสามารถทำร่วมกันได้ รวมถึงเน้นสื่อสารออกไปสู่ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวทั่วโลกเพื่อให้เป็นที่รู้จัก “พัทยา”ในภาพลักษณ์ใหม่มากขึ้นต่อไปในอนาคต
นายมาร์ค ซิทล์ ผู้จัดการทั่วไปเมอเวนพิค สยามโฮเทล พัทยา กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมกลุ่มครอบครัว โรงแรมได้จัดทำ “โปรแกรมเมอเวนพิค จูเนียร์ออลสตาร์” โดยร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นจัดโปรแกรมสำหรับเด็กและครอบครัว ให้ได้สัมผัสความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่ และเพื่อให้เพลิดเพลินกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5 โปรแกรม ได้แก่จูเนียร์เชฟ, คอร์สสอนทำอาหาร จูเนียร์ อาร์ตติส,คอร์สศิลปะ จูเนียร์ กอล์ฟคอร์สสอนกอล์ฟโดยโปรกอล์ฟมืออาชีพที่สยามคันทรีคลับ, จูเนียร์ ไรเดอร์ คอร์สขี่ม้าที่โปโลคลับ พัทยา และจูเนียร์ มิวสิเชียน คอร์สสอนเล่นดนตรีริมทะเลโดยสยามยามาฮ่ามิวสิคซึ่งจะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการทำกิจกรรมของครอบครัว เมื่อมาพักที่โรงแรม
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,264 วันที่ 25 - 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2560