บลจ.กสิกรไทย มองหุ้นเอเชียสดใส โอกาสลงทุนราคายังถูก

18 พ.ค. 2560 | 09:41 น.
บลจ.กสิกรไทยมองแนวโน้มตลาดหุ้นเอเชียสดใส เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว แนะลงทุนรับโอกาสเติบโต ชูกองทุน K-ASIA โชว์ผลงาน 1 ปี ผลตอบแทน 21%

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มสดใส เนื่องจากเศรษฐกิจในภูมิ ภาคเอเชียมีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับอัตราการเติบโตของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนของหลายประเทศในภูมิภาคมี แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องและขยายตัวสูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ขณะที่ระดับราคาหุ้นเอเชียยังถือว่าถูกกว่าเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นเอเชีย (ดัชนี MSCI Asia ex. Japan) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 16 พ.ค. 2560 ตลาดหุ้นเอเชียพุ่งสูงขึ้นกว่า 19%

“ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียน่าสนใจลงทุน มาจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียที่มีอยู่สู งเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจในภูมิภาคอื่นๆ นำโดยเศรษฐกิจของประเทศจีนและอิ นเดีย โดย IMF คาดว่า GDP ของอินเดียปี 2560 นี้จะเติบโตอยู่ที่ 7.2% ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในโลก ขณะที่เศรษฐกิจจีนที่ ออกมาในไตรมาสแรกของปี 2560 ขยายตัวดีกว่าที่คาด โดย GDP เติบโตอยู่ที่ 6.9% จากปีก่อนหน้า ด้านเศรษฐกิจเกาหลีใต้เติบโตดี ขึ้นในไตรมาสแรกของปีจากการฟื้นตัวของการส่งออก รวมไปถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานที่ ขยายตัวมากขึ้น นอกจากนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและนโยบายการเงินของธนาคารกลางในหลายประเทศในเอเชียยังเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนสามารถขยายตัวได้สูงเมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว  ในขณะที่ระดับราคาหุ้นก็ยังต่ำกว่า โดยราคาหุ้นเอเชียปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจและใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในอดีต”นายนาวิน กล่าว

นายนาวิน กล่าวว่า ส่วนปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรติดตาม ได้แก่ ปัญหาเรื่องระดับหนี้สินและราคาอสังหาฯที่อาจสะท้อนการเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน รวมไปถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประชุมเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดมีความผั นผวนในระยะสั้น อย่างไรก็ตามผลกระทบต่อกระแสเงิ นทุนเคลื่อนย้ายคาดว่าจะมีจำกัด เนื่องจากตลาดค่อนข้างรับรู้ การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED ไปมากแล้ว

ทั้งนี้ด้วยมุมมองการลงทุนในระยะยาว นับเป็นโอกาสที่ดีที่ผู้ลงทุนสามารถทยอยสะสมการลงทุนในหุ้นเอเชียเพิ่มเติม ซึ่งบลจ.กสิกรไทยมีกองทุนแนะนำ ได้แก่ กองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน(K-ASIA) ที่เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดเล็กในภูมิภาคเอเชียที่มี แนวโน้มการเติบโตสูงผ่านกองทุนหลัก Templeton ASEAN Smaller Companies Fund บริหารจัดการโดย Franklin Templeton Investments บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียยาวนานกว่า 40 ปี ปัจจุบันกองทุนให้น้ำหนักการลงทุนในรายประเทศ 5 อันดับแรก ได้แก่ อินเดีย 25.18%, เกาหลีใต้ 20.26%, จีน 13.40%, ไต้หวัน 12.81% และฮ่องกง 5.63% และให้น้ำหนักการลงทุนในรายอุ ตสาหกรรม 3อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มไอทีและกลุ่มการเงิน   (ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 2560)

ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน K-ASIA ณ วันที่ 30 เม.ย 2560 มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนอยู่ ที่ 17.64% เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 13.12%, ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 1 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 21.0% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 12.60% ต่อปี และผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ให้ผลตอบแทนที่ 8.07% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานซึ่งอยู่ที่ 3.46% ต่อปี นอกจากนี้กองทุน K-ASIA ยังได้รับการจัดอันดับเรตติ้ง 4ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูลจากMorningstar® ณ 30 เม.ย. 2560) ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนในกองทุน K-ASIA ได้ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 500 บาท