"เสนา"ลุยตลาดคอนโดฯสุขุมวิทตอนปลาย
เสนา ชี้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายแบริ่ง-สมุทรปราการ ช่วยเปิดตลาดใหม่ให้คอนโดมิเนียม ล่าสุด เปิดตัวโครงการนิช ไอดี สุขุมวิท 113 มูลค่ากว่า 590 ล้านบาท เชื่อผู้บริโภคให้การต้อนรับ
นายสัมมา คีตสิน
นายสัมมา คีตสิน กรรมการและกรรมการอิสระบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวถึง ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทตอนปลายว่า การพัฒนาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าไปยังสุขุมวิทตอนปลาย ถือเป็นการช่วยเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ในสุขุมวิทตอนต้นอย่าง อ่อนนุช-บางจาก-ปุณณวิถี-อุดมสุข-บางนา-แบริ่ง
รวมไปถึงราคาที่ดินที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น เช่น ที่ดินริมถนนสุขุมวิท ย่านอ่อนนุช ปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นเป็น 800,000 บาทต่อตารางวา ขณะที่ย่านปุณณวิถีพุ่งสู่ 500,000 บาทต่อตารางวา และย่านบางนา-แบริ่ง ที่ราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาขายโครงการที่ตั้งอยู่ในช่วงสุขุมวิทตอนต้น(ถึงแยกอโศก)-ตอนกลาง(อโศก-เอกมัย) และสุขุมวิทตอนปลาย พบว่า มีราคาขายแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโครงการที่ติดถนนใหญ่และโครงการที่อยู่ในซอย ซึ่งในช่วงก่อนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอย่างเป็นทางการ ราคาคอนโดฯใกล้สถานีแบริ่ง อยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบ 70,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่คอนโดฯใกล้สถานีอ่อนนุชเดิมอยู่ที่ 100,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 120,000-140,000 บาทต่อตารางเมตร
หากแยกเป็นทำเลพบว่าช่วงระหว่างปี 2552-2554 บริเวณส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง (ก่อนเปิดให้บริการสถานีแบริ่ง) มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 40 โครงการ จำนวนมากกว่า 17,000 หน่วย และในปัจจุบันมีการเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นอีกมากกว่าเท่าตัว โดยขยายมาในพื้นที่บางนา-แบริ่งมากขึ้น โดยโครงการที่เปิดตัวส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ , บริษัทลูกหรือบริษัทเดิมที่เคยพัฒนาโครงการในพื้นที่
ด้าน นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีโครงการเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยศักยภาพของพื้นที่ บริษัทจึงเปิดตัวโครงการนิช ไอดี สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการกว่า 590 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ ไรซ์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 ตึก รวม 366 หน่วย และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
นายสัมมา คีตสิน
นายสัมมา คีตสิน กรรมการและกรรมการอิสระบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA กล่าวถึง ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมย่านสุขุมวิทตอนปลายว่า การพัฒนาส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าไปยังสุขุมวิทตอนปลาย ถือเป็นการช่วยเปิดพื้นที่ใหม่ให้กับตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ในสุขุมวิทตอนต้นอย่าง อ่อนนุช-บางจาก-ปุณณวิถี-อุดมสุข-บางนา-แบริ่ง
รวมไปถึงราคาที่ดินที่ขยับตัวเพิ่มสูงขึ้น เช่น ที่ดินริมถนนสุขุมวิท ย่านอ่อนนุช ปัจจุบันปรับตัวสูงขึ้นเป็น 800,000 บาทต่อตารางวา ขณะที่ย่านปุณณวิถีพุ่งสู่ 500,000 บาทต่อตารางวา และย่านบางนา-แบริ่ง ที่ราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาท
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาขายโครงการที่ตั้งอยู่ในช่วงสุขุมวิทตอนต้น(ถึงแยกอโศก)-ตอนกลาง(อโศก-เอกมัย) และสุขุมวิทตอนปลาย พบว่า มีราคาขายแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะโครงการที่ติดถนนใหญ่และโครงการที่อยู่ในซอย ซึ่งในช่วงก่อนเปิดให้บริการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายอย่างเป็นทางการ ราคาคอนโดฯใกล้สถานีแบริ่ง อยู่ที่ประมาณ 30,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเกือบ 70,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่คอนโดฯใกล้สถานีอ่อนนุชเดิมอยู่ที่ 100,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 120,000-140,000 บาทต่อตารางเมตร
หากแยกเป็นทำเลพบว่าช่วงระหว่างปี 2552-2554 บริเวณส่วนต่อขยายอ่อนนุช-แบริ่ง (ก่อนเปิดให้บริการสถานีแบริ่ง) มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากกว่า 40 โครงการ จำนวนมากกว่า 17,000 หน่วย และในปัจจุบันมีการเปิดตัวโครงการเพิ่มขึ้นอีกมากกว่าเท่าตัว โดยขยายมาในพื้นที่บางนา-แบริ่งมากขึ้น โดยโครงการที่เปิดตัวส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ , บริษัทลูกหรือบริษัทเดิมที่เคยพัฒนาโครงการในพื้นที่
ด้าน นางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ในพื้นที่ดังกล่าวจะมีโครงการเกิดใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ด้วยศักยภาพของพื้นที่ บริษัทจึงเปิดตัวโครงการนิช ไอดี สุขุมวิท 113 มูลค่าโครงการกว่า 590 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ ไรซ์ สูง 8 ชั้น จำนวน 2 ตึก รวม 366 หน่วย และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี