มอ’ไซค์แฟชั่นสุดคึก ยามาฮ่าปลื้ม‘คิวบิกซ์’โดนใจโจ๋‘ฮอนด้า’ชูสมาร์ทเทคโนโลยี
คึกคักซัดกันสนุกสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย แม้จะเริ่มอิ่มตัวด้วยยอดขายไม่ถึง2 ล้านคัน หรือคาดว่าปีนี้จะปิดยอดขายรวม 1.7ล้านคัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2559 ทว่าความน่าสนใจกลับอยู่ที่ โปรดักต์ใหม่ที่ถูกแนะนำเข้าสู่ตลาด หากทำมาแบบฉีกแนวแต่ถูกจิตตรงใจผู้บริโภคก็มีโอกาสแจ้งเกิดได้
โดยเซ็กเมนต์ที่น่าจับตามองคือ กลุ่มสปอร์ตที่เข้าไปกินส่วนแบ่งทางการตลาดจากเซ็กเมนต์อื่นนอกจากนั้นแล้วโมเดลรถแฟชั่นที่มีความแปลกแตกต่างเฉพาะตัวกำลังได้การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยกระแสความนิยมใหม่นี้เห็นได้จาก “ยามาฮ่า” ที่เพิ่งเปิดตัว “คิวบิกซ์” ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2017 ที่ผ่านมาด้วยแนวคิด Digital Life :DigitalMatic หรือรถออโตเมติกเจเนอเรชันใหม่สไตล์ดิจิตอล โดดเด่นตั้งแต่รูปทรงการออกแบบสี่เหลี่ยมบนความโค้งมน แถมฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย อาทิช่องต่อชาร์จไฟแบบรถยนต์,กุญแจรีโมต ระบบเปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ รวมถึงระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบสตาร์ตหรือดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ ภายใต้เครื่องยนต์บลูคอร์ขนาด 125 ซีซี
ทั้งนี้ “คิวบิกซ์”สามารถทำยอดจองภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2017 ได้กว่า 500 คันซึ่งถือว่าดีเกินคาด โดยรถเริ่มทยอยส่งให้ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
[caption id="attachment_147750" align="aligncenter" width="503"]
มอ’ไซค์แฟชั่นสุดคึก ยามาฮ่าปลื้ม‘คิวบิกซ์’โดนใจโจ๋‘ฮอนด้า’ชูสมาร์ทเทคโนโลยี[/caption]
“ในอดีตจำนวนรุ่นรถมอเตอร์ไซค์มีให้เลือกไม่มาก จึงทำให้ยอดขายของแต่ละรุ่นสูง ยกตัวอย่างฟีโน่ ที่เคยทำยอดต่อเดือนได้กว่าหมื่นคัน แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 2,000-3,000 คัน ส่วนหนึ่งที่ยอดลดลงเพราะรุ่นรถในตลาดมีมากขึ้น มีการออกแบบมาเฉพาะกลุ่ม เฉพาะเซ็กเมนต์ ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปเพราะมีทางเลือกมากขึ้น” นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด กล่าว
สำหรับคิวบิกซ์พัฒนาและผลิตจากโรงงานประเทศไทย ดังนั้นการทำตลาดเบื้องต้นจึงป้อนในประเทศก่อน ส่วนตลาดต่างประเทศหากมีความต้องการก็พร้อมที่จะผลิตและส่งออกไป ปัจจุบันคิวบิกซ์ มีให้เลือก7 สี 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่53,500-59,900 บาท โดยยามาฮ่าตั้งเป้าหมายยอดขายรถรุ่นนี้ไว้ที่ 3,000- 4,000คันต่อเดือน
… ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองสำหรับ “คิวบิกซ์”
ขณะที่สปอร์ตไบค์“เอ็ม-สแลซ” ที่แปลกแหวกแนวมาก่อนหน้าสามารถทำยอดขายทะลุเป้าเช่นเดียวกันเพราะแต่เดิมตั้งเป้า 3,000คันต่อเดือน แต่พบว่าลูกค้าตอบรับดีจนต้องปรับเป้าเป็น5,000 คันต่อเดือน
ด้านคู่แข่ง “ฮอนด้า”ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทยอยเสริมทัพรถเซ็กเมนต์ใหม่และได้การตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน ทั้ง“เอ็มเอสเอ็กซ์”125 เอสเอฟ ใหม่ ที่ทำยอดขายไตรมาสแรกทะลุ 3 หมื่นคัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขการขายที่สูงมาก หากเทียบกับปี2559 ทั้งปีรถรุ่นนี้ขายได้ 6.7หมื่นคัน ส่วน “ซูมเมอร์-เอ็กซ์” ปีที่แล้วทำยอดขาย8.3 หมื่นคัน แต่เฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้ฟันตัวเลขไปกว่า 2.7 หมื่นคันแล้วล่าสุดเปิดตัว “สกู๊ปปี้ไอ” โฉมใหม่ พร้อมชูจุดขาย ฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีประกอบไปด้วยเครื่องยนต์หัวฉีด ขนาด 110 ซีซี ระบายความรอ้ นดว้ ยอากาศ,ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะIdling Stop และระบบการกระจายแรงเบรก พร้อมติดตั้งไฟอีโคแลมป์คอยแจ้งเตือนเมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบประหยัดนํ้ามัน และเพิ่มที่ชาร์จไฟสำรองใต้คอนโซลหน้า
สำหรับรุ่นสกู๊ปปี้ไอ ใหม่ รุ่น Club 12 มีให้เลือก 3 สี ราคาเริ่มต้น48,100 -51,100 บาท และยังมีรุ่นพิเศษที่มาพร้อมชุดแต่งจาก H2C
“สกู๊ปปี้ ไอ เปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทำให้เรามีการปรับเปลี่ยนโมเดลอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรถรุ่นนี้จะอยู่ที่ 1.2-1.3 หมื่นคันต่อเดือน ซึ่งหลังจากเปิดตัวใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดีตอนนี้กำลังการผลิตไม่สามารถที่จะป้อนทันตามออร์เดอร์ที่เข้ามา และเร็วๆนี้จะมีการปรับแผนการผลิตเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า” นายสุชาติอรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ.พี. ฮอนด้า จำกัดผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าว
ขณะที่น้องใหม่แบรนด์คนไทยอย่าง“จีพีเอ็กซ์” ที่มีรถยอดนิยมในรุ่น DEMON X 125,DEMON 150 GN ซึ่งเป็นกลุ่มมินิไบค์ ก็เตรียมพัฒนารถรุ่นใหม่เพื่อรองรับในเซ็กเมนต์ที่จีพีเอ็กซ์ยังไม่มีในตลาด โดยรุ่นใหม่หลังจากนี้จะรองรับเครื่องยนต์แบบหัวฉีด ที่บริษัทกำลังพัฒนาขึ้นมา
“สัดส่วนยอดขายรถในกลุ่มมินิไบค์ของเราคิดเป็น 50% และแนวโน้มของเซ็กเมนต์นี้คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆซึ่งเรากำลังศึกษาเทรนด์ของตลาดเพื่อจะนำไปพัฒนาโมเดลใหม่” นายไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีวีแพนเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์จีพีเอ็กซ์ กล่าว
… เรียกว่าตลาดรถจักรยานยนต์ต่างระดมรถเทรนด์ใหม่และอัดเทคโนโลยีมาสู้กันทุกค่ายซึ่งผลประโยชน์ย่อมตกถึงผู้บริโภคที่จะมีโอกาสได้ใช้ของดี มีความทันสมัย และในอนาคตคงได้เห็นรถเซ็กเมนต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
โดยเซ็กเมนต์ที่น่าจับตามองคือ กลุ่มสปอร์ตที่เข้าไปกินส่วนแบ่งทางการตลาดจากเซ็กเมนต์อื่นนอกจากนั้นแล้วโมเดลรถแฟชั่นที่มีความแปลกแตกต่างเฉพาะตัวกำลังได้การตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค โดยกระแสความนิยมใหม่นี้เห็นได้จาก “ยามาฮ่า” ที่เพิ่งเปิดตัว “คิวบิกซ์” ในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2017 ที่ผ่านมาด้วยแนวคิด Digital Life :DigitalMatic หรือรถออโตเมติกเจเนอเรชันใหม่สไตล์ดิจิตอล โดดเด่นตั้งแต่รูปทรงการออกแบบสี่เหลี่ยมบนความโค้งมน แถมฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย อาทิช่องต่อชาร์จไฟแบบรถยนต์,กุญแจรีโมต ระบบเปิดช่องกุญแจอัตโนมัติพร้อมไฟเรืองแสง และส่งสัญญาณบอกตำแหน่งรถ รวมถึงระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบสตาร์ตหรือดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ ภายใต้เครื่องยนต์บลูคอร์ขนาด 125 ซีซี
ทั้งนี้ “คิวบิกซ์”สามารถทำยอดจองภายในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2017 ได้กว่า 500 คันซึ่งถือว่าดีเกินคาด โดยรถเริ่มทยอยส่งให้ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา
[caption id="attachment_147750" align="aligncenter" width="503"]
“ในอดีตจำนวนรุ่นรถมอเตอร์ไซค์มีให้เลือกไม่มาก จึงทำให้ยอดขายของแต่ละรุ่นสูง ยกตัวอย่างฟีโน่ ที่เคยทำยอดต่อเดือนได้กว่าหมื่นคัน แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 2,000-3,000 คัน ส่วนหนึ่งที่ยอดลดลงเพราะรุ่นรถในตลาดมีมากขึ้น มีการออกแบบมาเฉพาะกลุ่ม เฉพาะเซ็กเมนต์ ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปเพราะมีทางเลือกมากขึ้น” นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์จำกัด กล่าว
สำหรับคิวบิกซ์พัฒนาและผลิตจากโรงงานประเทศไทย ดังนั้นการทำตลาดเบื้องต้นจึงป้อนในประเทศก่อน ส่วนตลาดต่างประเทศหากมีความต้องการก็พร้อมที่จะผลิตและส่งออกไป ปัจจุบันคิวบิกซ์ มีให้เลือก7 สี 3 รุ่น ราคาเริ่มต้นตั้งแต่53,500-59,900 บาท โดยยามาฮ่าตั้งเป้าหมายยอดขายรถรุ่นนี้ไว้ที่ 3,000- 4,000คันต่อเดือน
… ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองสำหรับ “คิวบิกซ์”
ขณะที่สปอร์ตไบค์“เอ็ม-สแลซ” ที่แปลกแหวกแนวมาก่อนหน้าสามารถทำยอดขายทะลุเป้าเช่นเดียวกันเพราะแต่เดิมตั้งเป้า 3,000คันต่อเดือน แต่พบว่าลูกค้าตอบรับดีจนต้องปรับเป้าเป็น5,000 คันต่อเดือน
ด้านคู่แข่ง “ฮอนด้า”ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทยอยเสริมทัพรถเซ็กเมนต์ใหม่และได้การตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน ทั้ง“เอ็มเอสเอ็กซ์”125 เอสเอฟ ใหม่ ที่ทำยอดขายไตรมาสแรกทะลุ 3 หมื่นคัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขการขายที่สูงมาก หากเทียบกับปี2559 ทั้งปีรถรุ่นนี้ขายได้ 6.7หมื่นคัน ส่วน “ซูมเมอร์-เอ็กซ์” ปีที่แล้วทำยอดขาย8.3 หมื่นคัน แต่เฉพาะไตรมาสแรกของปีนี้ฟันตัวเลขไปกว่า 2.7 หมื่นคันแล้วล่าสุดเปิดตัว “สกู๊ปปี้ไอ” โฉมใหม่ พร้อมชูจุดขาย ฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยีประกอบไปด้วยเครื่องยนต์หัวฉีด ขนาด 110 ซีซี ระบายความรอ้ นดว้ ยอากาศ,ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะIdling Stop และระบบการกระจายแรงเบรก พร้อมติดตั้งไฟอีโคแลมป์คอยแจ้งเตือนเมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบประหยัดนํ้ามัน และเพิ่มที่ชาร์จไฟสำรองใต้คอนโซลหน้า
สำหรับรุ่นสกู๊ปปี้ไอ ใหม่ รุ่น Club 12 มีให้เลือก 3 สี ราคาเริ่มต้น48,100 -51,100 บาท และยังมีรุ่นพิเศษที่มาพร้อมชุดแต่งจาก H2C
“สกู๊ปปี้ ไอ เปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่ยังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทำให้เรามีการปรับเปลี่ยนโมเดลอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรถรุ่นนี้จะอยู่ที่ 1.2-1.3 หมื่นคันต่อเดือน ซึ่งหลังจากเปิดตัวใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดีตอนนี้กำลังการผลิตไม่สามารถที่จะป้อนทันตามออร์เดอร์ที่เข้ามา และเร็วๆนี้จะมีการปรับแผนการผลิตเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า” นายสุชาติอรุณแสงโรจน์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอ.พี. ฮอนด้า จำกัดผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าในประเทศไทย กล่าว
ขณะที่น้องใหม่แบรนด์คนไทยอย่าง“จีพีเอ็กซ์” ที่มีรถยอดนิยมในรุ่น DEMON X 125,DEMON 150 GN ซึ่งเป็นกลุ่มมินิไบค์ ก็เตรียมพัฒนารถรุ่นใหม่เพื่อรองรับในเซ็กเมนต์ที่จีพีเอ็กซ์ยังไม่มีในตลาด โดยรุ่นใหม่หลังจากนี้จะรองรับเครื่องยนต์แบบหัวฉีด ที่บริษัทกำลังพัฒนาขึ้นมา
“สัดส่วนยอดขายรถในกลุ่มมินิไบค์ของเราคิดเป็น 50% และแนวโน้มของเซ็กเมนต์นี้คาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆซึ่งเรากำลังศึกษาเทรนด์ของตลาดเพื่อจะนำไปพัฒนาโมเดลใหม่” นายไชยยศ ร่วมใจพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีวีแพนเตอร์ จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์จีพีเอ็กซ์ กล่าว
… เรียกว่าตลาดรถจักรยานยนต์ต่างระดมรถเทรนด์ใหม่และอัดเทคโนโลยีมาสู้กันทุกค่ายซึ่งผลประโยชน์ย่อมตกถึงผู้บริโภคที่จะมีโอกาสได้ใช้ของดี มีความทันสมัย และในอนาคตคงได้เห็นรถเซ็กเมนต์ใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560