ส.อ.ท.ไม่หวั่นSGมะกัน ไทยฐานโซลาร์เซลล์จีน

11 พ.ค. 2560 | 07:00 น.
สภาอุตฯ ไม่หวั่นมะกัน จ่อเปิดไต่สวนใช้มาตรการเซฟการ์ดกับสินค้าโซลาร์เซลล์จากไทย หลังปีที่แล้วยอดส่งออกไปสหรัฐฯพุ่ง 700% ชี้ส่วนใหญ่เป็นบริษัทจากจีนใช้ไทยเป็นฐานผลิตส่งออกเลี่ยงเอดี หากโดนตอบโต้ไม่กระทบผู้ผลิตไทย ผวาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นถูกเพ่งเล็งมากกว่า

กรณีมีผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐอเมริการ้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ(ไอทีซี) เพื่อขอให้มีการเปิดไต่สวนและใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น(เซฟการ์ดหรือ SG) กับสินค้าโซลาร์เซลล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่ส่งผลให้บริษัทในสหรัฐฯล้มละลาย ซึ่งไทยเป็น 1 ในประเทศสุ่มเสี่ยง เพราะจากข้อมูลการส่งออกสินค้าโซลาร์เซลล์ของไทยไปสหรัฐฯในปีที่ผ่านมามีมูลค่า 465 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 700% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นายวิษณุ ลิ่มวิบูลย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และโทรคมนาคม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยกับกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ในข้อเท็จจริงของการส่งออกสินค้าโซลาร์เซลล์ที่เพิ่มสูงขึ้นมากดังกล่าว เป็นผลจากบริษัทต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ผลิตรายใหญ่จากจีนหลายบริษัทได้มาใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออก รวมถึงจำหน่ายในประเทศ ซึ่งการเข้ามาลงทุนในไทยของจีนเป็นผลจากที่ผ่านมาสินค้าโซลาร์เซลล์จากจีนถูกสหภาพยุโรป(อียู) และสหรัฐฯใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด(เอดี)โดยเก็บภาษีเอดีตอบโต้สินค้าที่ผลิตในจีนในอัตรา 30% ขณะที่การมาตั้งฐานในไทยส่งออกไปสหรัฐฯ เสียภาษีอัตราเพียง 0.5% เท่านั้น

"จีนเป็นผู้ผลิตโซลาร์เซลรายใหญ่สุดของโลก และผลิตได้ในราคาต่ำ เพราะเขามีวัตถุดิบ และแร่ธาตุที่ใช้ในการผลิตโซลาร์เซลล์เอง ผู้ผลิตในจีนก็เป็นโรงงานขนาดใหญ่ เมื่อได้รับกระทบจากถูกอียูและสหรัฐฯใช้มาตรการเอดีก็ได้เข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต เพราะรัฐบาลไทยส่งเสริมการลงทุน เขาแค่นำเข้าชิ้นส่วนกึ่งสำเร็จรูปจากจีนมาประกอบและอาศัยแหล่งกำเนิดสินค้าจากไทยส่งออก ซึ่งไทยได้รับประโยชน์ไม่มากนัก ได้เฉพาะค่าจ้างแรงงานในการประกอบสินค้าเล็กน้อย"

ทั้งนี้ธุรกิจแผงโซลาร์เซลล์ในไทยส่วนใหญ่เป็นของคนจีน มีผู้ผลิตไทยไม่มากซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ผลิตส่วนใหญ่ก็มาจากจีน ส่วนผู้นำเข้าโซลาร์เซลล์จากจีนเข้ามาจำหน่ายในไทย ทางจีนก็ให้เครดิตเรื่องการชำระเงินได้ยาวถึง 2-3 ปีถือว่าเอื้อมาก โดยสินค้าโซลาร์เซลล์นำเข้าจากจีนเข้ามาจำหน่ายในไทย รวมถึงสินค้าจากผู้ผลิตส่งออกจากไทยไปจำหน่ายในต่างประเทศมีราคาคาถูกจึงเป็นที่มาของการร้องเรียนจากบริษัทผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในสหรัฐฯให้เปิดไต่สวนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งหากในที่สุดแล้วสินค้าโซลาร์เซลล์จากไทยถูกใช้มาตรการเซฟการ์ด โดยขึ้นภาษีนำเข้า หรือมีการกำหนดโควตาภาษีมองว่าไม่น่าห่วงมาก เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้าของผู้ผลิตจีน

"ขณะเดียวกันการส่งออกสินค้าจากประเทศจีน รัฐบาลเขาก็ให้การอุดหนุนการส่งออก 17% เช่น ถ้าส่งออก 100% จะได้เงินคืนจากรัฐบาล 17 บาท ทำให้สินค้าจากประเทศอื่นแข่งขันกับสินค้าจีนลำบาก"

นายวิษณุ อีกกล่าวว่า ที่ห่วงกว่าสินค้าโซลาร์เซลล์ คือสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าในไทยในภาพรวม เพราะส่วนใหญ่ใช้วัตถุดิบ/ชิ้นส่วนที่ผลิตในจีนเข้ามาประกอบ เช่น จอแอลอีดีในการผลิตโทรทัศน์ซึ่งไทยไม่มีการผลิต ซึ่งการเข้ามาราคาก็ไม่สูง หากมีการส่งออกไปสหรัฐฯมากอาจะถูกตรวจสอบเพื่อใช้มาตรการทางการค้าได้

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560