แนะเศรษฐีปรับพอร์ต ดอกเบี้ยขึ้น-ศก.ฟื้น ชี้โคโคบอนด์มาแรง

10 พ.ค. 2560 | 05:00 น.
ไทยพาณิชย์แนะลูกค้าเศรษฐีปรับพอร์ตลงทุนเพิ่มผลตอบแทนรับตลาดผันผวนตามปัจจัยบวกและลบ ทั้งกระแสเศรษฐกิจโลกฟื้น ดอกเบี้ยขาขึ้น และความขัดแย้งทางการเมือง เผยโคโคบอนด์มาแรง “ยูโอบี” ชี้ทางสว่างทำใจนิ่งๆท่องคาถาปลอดภัยไว้ก่อน

นายศรชัย สุเนต์ตา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ ในฐานะผู้ดูแลหน่วยงาน Chief Investment Officer (CIO) กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนช่วงที่เหลือของลูกค้า SCB Private Banking ธนาคารให้น้ำหนักในการลงทุนตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตได้จากการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการส่งออก โดยตลาดหุ้นที่น่าสนใจอยู่ในกลุ่มประเทศเกิดใหม่โซนเอเซีย เช่นจีน อินเดียและไทย เพราะราคาตามมูลค่าพื้นฐานของดัชนีส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว

ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ถ้าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ส่งสัญญาณจะลดงบดุลและขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะฉุดผลตอบแทนปรับลดลงในตราสารหนี้ประเภทพันธบัตรรัฐบาลเช่นเดียวกับไทย ดังนั้นจึงแนะนำให้ลูกค้าลงทุนหุ้นกู้เอกชนเลือกกระจายความเสี่ยงในหุ้นกู้ระยะสั้น และตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน หรือ โคโคบอนด์ ที่ออกโดยธนาคารในยุโรป ที่ระยะหลังน่าสนใจ เนื่องจากธนาคารมีเงินกองทุนที่แข็งแกร่งขึ้นและความน่าเชื่อถือของธนาคารมีมากขึ้นโดยเห็นได้จาก 2-3 ปีที่ผ่านมาความต้องการประมูลในตราสารประเภทนี้สูงขึ้นและให้ผลตอบแทนประมาณ 6-9%

[caption id="attachment_146907" align="aligncenter" width="379"] ศรชัย สุเนต์ตา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ ศรชัย สุเนต์ตา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์[/caption]

ธนาคารไทยพาณิชย์แนะนำให้ลูกค้าจัดพอร์ตลงทุนให้ตรงวัตถุประสงค์ คือ แบ่งเงินเป็น 3ส่วน ประกอบด้วย 1.ลงทุนสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงซึ่งได้รับกระแสเงินต่อเนื่องส่วนที่ 1.ลงทุนตราสารหนี้ หุ้นกู้เอกชน โคโค บอนด์ และประกัน
2.ระยะยาวลดน้ำหนักตราสารหนี้ ตราสารทุนผสมระหว่างตลาดพัฒนาแล้ว ตลาดเกิดใหม่ และหุ้นไทยให้น้ำหนักเพิ่มเล็กน้อย และคาดหวังผลตอบแทนเกือบ 7% และ 3.การลงทุนระยะสั้นซึ่งต้องรอจังหวะเป็นสำคัญ เพราะตลาดผันผวนตลอดเวลา

ด้านนายวนา พูลผลกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นยังสามารถกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ โดยเฉพาะโคโคบอนด์ซึ่งเป็นตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุนที่ออกโดยธนาคารในยุโรป
ขณะที่ช่วงนี้เศรษฐกิจภาพรวมของยุโรปดีขึ้น ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในโคโคบอนด์ของธนาคารที่มีเงินทุนแข็งแกร่งและมีโอกาสทำกำไรในอนาคต แต่ต้องระมัดระวังการลงทุนโคโคบอนด์ของธนาคารที่หวือหวาอาจทำให้เงินกองทุนปรับลด

นอกจากนี้กลุ่มเฮลแคร์แม้จะมีความไม่แน่นอนเชิงนโยบายในปัจจุบัน แต่ระยะยาวกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตได้ เพราะเกี่ยวเนื่องกับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงเป็นช่วงของการรอจังหวะจนกว่าตลาดจะปรับฐาน เช่นเดียวกับกองทุนรวมประเภทตราสารหนี้ ซึ่งแนะนำให้ลูกค้าถือเป็นพอร์ตใหญ่โดยต้องปรับกลยุทธ์เลือกลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนดีและลดอายุของตราสารให้สั้นลงรวมทั้งสามารถเพิ่มความเสี่ยงตราสารไฮยิล แม้อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นยังเชื่อว่าราคาไฮยิลไม่ตกและที่สำคัญคือการกระจายความเสี่ยง

“ช่วงนี้เป็นโอกาสดีที่จะเพิ่มผลตอบแทนโดยย้ายลงทุนในหุ้นมากขึ้นในภูมิภาคเอเชียทั้งจีน อินเดียและไทย รวมทั้งปรับกลยุทธ์และกระจายลงทุนในFix income Fund ที่สำคัญส่วนตัวมีหลักเรื่องการลงทุน คือ“ทำใจนิ่งๆ” ซึ่งหมายรวมทั้งการดำเนินชีวิตและการลงทุน”

[caption id="attachment_146909" align="aligncenter" width="429"] แนะเศรษฐีปรับพอร์ต ดอกเบี้ยขึ้น-ศก.ฟื้น ชี้โคโคบอนด์มาแรง แนะเศรษฐีปรับพอร์ต ดอกเบี้ยขึ้น-ศก.ฟื้น ชี้โคโคบอนด์มาแรง[/caption]

นายสาธิต ผ่องธัญญา ผู้อำนวยการอาวุโส Family Office Business ธนาคารไทยพาณิชย์กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันพยายามให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสนับสนุนการประกอบกิจการในรูปแบบของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิ

ติบุคคลภายใต้การจัดตั้งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล (Holding Company) ตามกฎหมายไทย เพื่อถือหุ้นอย่างน้อย 25% ในบริษัทไทย และบริษัทต่างประเทศโดยยกเว้นภาษีจากเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้นในบริษัท Holding Company ซึ่งเป็นรูปแบบจัดโครงสร้างที่เอื้อประโยชน์การถือครองหุ้น การบริหารทรัพย์สินของกลุ่มครอบครัวและสามารถควบคุมการลงทุนได้ อีกทั้งช่วยส่งต่อความมั่งคั่งและรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่จากรุ่นสู่รุ่น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,259 วันที่ 7 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560