ชูนวัตกรรมก่อสร้างเยอรมนี‘พฤกษา’ลุยกลยุทธ์4.0ดันเป้า 5.8 หมื่นล้าน

04 พ.ค. 2560 | 06:00 น.
พฤกษา เรียลเอสเตทชูกลยุทธ์ “พฤกษา 4.0” รักษาแชมป์ผู้นำอันดับ 1 ของไทย เป้ายอดขาย 5.8 หมื่นล้านบาท โดยนำนวัตกรรมเพิ่มคุณภาพเพื่อลูกค้า โชว์ความเป็นผู้นำด้านระบบพรีแคสต์ที่ทันสมัยจากเยอรมนี เตรียมงบลงทุนด้านระบบไอทีกว่า 140 ล้านบาท

นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พฤกษาให้ความสำคัญกับการปรับปรุงสินค้าและบริการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยปี 2560 นี้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท และรายได้ 5.4 หมื่นล้านบาท

สำหรับกลยุทธ์สู่เป้าหมายได้วาง “Pruksa 4.0” มุ่งเน้นการนำนวัตกรรมใหม่ๆใน 4 ด้านเป็นหลัก ได้แก่ 1.Smart – Product พัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น การออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นลดการใช้พลังงานช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้มากยิ่งขึ้น 2. Smart - Marketing เน้นการทำตลาดโดยใช้ Digital Marketing เพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในยุคดิจิทัล 3. Smart - Home Application พัฒนาแอพที่รวบรวมบริการต่างๆ เกี่ยวกับบ้านอย่างครบวงจร นอกเหนือจากบริการเรื่องบ้าน เช่น บริการล้างรถ เสริมสวย ซักรีด ฯลฯ และ 4. Smart –Construction นำนวัตกรรมการก่อสร้างที่ทันสมัยระดับโลกมาใช้ในการก่อสร้างไม่ว่าจะเป็น นวัตกรรมพฤกษา พรีคาสท์ จากเยอรมนีที่ทันสมัยที่สุดในโลก ทำให้ได้บ้านที่แข็งแรงทนทานปลอดภัย หรือ นวัตกรรมการก่อสร้างระบบอุตสาหกรรมคุณภาพ Pruksa REM” (Real Estate Manufacturing) ซึ่งจะแบ่งการก่อสร้างเป็นลำดับขั้นตอนโดยใช้ช่างผู้ชำนาญการในงานแต่ละประเภทสามารถควบคุมคุณภาพในแต่ละขั้นตอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“พฤกษา เป็นผู้นำในด้านนวัตกรรมการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป โดยเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายแรกในประเทศไทย ที่นำเทคโนโลยีพรีคาสท์มาใช้ตั้งแต่ปี 2547 ทำให้มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญมากกว่าผู้ประกอบการรายอื่น ปัจจุบันบริษัทฯมีโรงงานพฤกษา พรีคาสท์ รวมทั้งสิ้น 7 โรงงาน ทำการผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านในโครงการต่างๆ ของพฤกษา ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม”

นอกเหนือจากนำระบบพรีคาสท์มาใช้งานแล้วยังมีแผนนำระบบนวัตกรรมอื่นๆมาใช้ในโครงการบ้านจัดสรรอีก ปัจจุบันทั้ง 72 โปรเจ็กต์มีครบทุกโครงการแล้ว อาทิ การนำระบบการดีไซน์ระบบระบายอากาศ การใช้โซลาร์เซลในการหมุนระบายอากาศ ระบบแสงธรรมชาติ ต่อจากนี้ไปก็จะได้เห็นทาวน์เฮ้าส์เปิดโล่ง มีสเปซชั้นล่างโดยได้จัดให้มีทีมพัฒนา Commercail Development กำหนดวงเงินในการวางระบบไอที 3-4 รายการ คิดเป็นงบประมาณราว 140 ล้านบาทเพื่อรองรับการเข้าสู่ระบบ 4.0 ที่พฤกษากำหนดไว้โดยยังเน้นการมุ่งยกระดับระบบเทคโนโลยีการก่อสร้าง ล่าสุดได้มีการตรวจสอบงานเสาเข็มด้วยการใช้กล้องอัจฉริยะตรวจสอบเข็มทุกต้นไม่ให้ผิดพลาด

สำหรับแผนการรุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ พบว่าตลาดต่างจังหวัดมีความต้องการที่อยู่อาศัยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี ทางพฤกษาจะเน้นการพัฒนาในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม แม้ว่าปัจจุบันที่ดินเริ่มแพง แต่กำลังซื้อยังเท่าเดิม ล่าสุดจากที่รัฐบาลมีแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) แต่พฤกษาได้มีการขยายโครงการไปในโซนภาคตะวันออกแล้วกว่า 10 โครงการ โดยเริ่มตั้งแต่จังหวัดนครราชสีมาเป็นต้นไป สำหรับยอดขายช่วง 4 เดือนแรก หากตลาดโต 14% จึงเชื่อว่าตลาดยังเติบโต พฤกษาก็เติบโตประมาณ 14% คอนโดมิเนียมยังเติบโตมาก แต่ช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมายังเท่ากับแผน แต่ไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้นเพราะเป้าสูงกว่า ที่ 4,500 ล้านบาทต่อเดือน

"ยังคงเดินหน้าการพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัยโดยได้ร่วมกับพาร์ทเนอร์หารือกับไลน์แอพพิเคชั่น

ปัจจุบันมีลูกบ้านกว่า 600 โครงการ หรือคิดเป็นกว่า 2 แสนยูนิต มีผู้อยู่อาศัยราว 6 แสนคนซึ่งการนำระบบพรีคาสท์มาใช้พบว่าสามารถลดการร้องเรียนต่อหลังได้แล้วกว่า 60% จุดเด่นยังอยู่ที่การรับประกันโครงสร้าง 10 ปีมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนงบการตลาดใช้ประมาณ 1% พร้อมกับมุ่งพัฒนาศักยภาพทีมก่อสร้างให้ดีขึ้น"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,258 วันที่ 4 - 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560