ที่นี่ไม่มีความลับ
โดย : เอราวัณ
รัฐบาลขาลง(ลิฟท์)
อิทธิฤทธิ์ของรัฐธรรมนูญ เป็นสิ่งที่รัฐบาลที่มาจากการ “รัฐประหาร” ที่เคยชินกับการใช้อำนาจอันได้มาซึ่งการฉีกรัฐธรรมนูญ พึงระวังว่า ต่อไปนี้ไม่สามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ ถ้าไม่ตระหนักช่วงท้ายๆ ของรัฐบาลก็จะกลายเป็น “ขาลง” ชนิดที่เรียกว่า "ลงลิฟท์" ที่เร็วกว่าลงบันได
เห็นจากเมื่อมีกฎหมายแม่บทคุ้มครองเรื่องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็น ก็ไม่มีนักการเมืองฝั่งไหนเกรงใจรัฐบาล เพราะมั่นใจว่าไม่สามารถจะเชิญไป "ปรับทัศนคติ" ในค่ายทหาร หรือใช้ “ม.44” ได้ตามอำเภอใจ ทันทีที่รู้ว่ากระทรวงกลาโหมของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แอบซื้อเรือดำน้ำด้วยงบกว่า 3 หมื่นล้านบาท หรือการที่คสช.เสนออนุมัติ 2 ขั้นพิเศษให้กับข้าราชการที่เข้ามาช่วยงานของคสช.
"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ออกมาวิจารณ์ทันทีพร้อมๆ กับความเห็นเชิงลบจากหน้าสื่อแทบทุกสำนักแบบไม่ต้องเกรงใจกันต่อไป
จังหวะพอดีกับความคิดควบคุมสื่อของสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ(สปท.) ที่จะให้สื่อและเจ้าของสื่อตีทะเบียนเพื่อง่ายต่อการจัดระเบียบ ผสมกับความคิดของ"พ.อ.นที ศุกลรัตน์"แห่งกสทช.ที่คิดจะเข้าไปจัดระเบียบสื่ออิเลคโทรนิคส์ทั้งหลาย
รวมทั้งการที่คณะรัฐมนตรีไปอนุมัติให้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้ “ตำรวจ” สามารถขออำนาจศาลเพื่อดักฟังโทรศัพท์และการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ (เช่น FB , line และอื่นๆ) จึงไม่แปลกที่เกิดภาพว่ากำลังเข้ามารุกรานริดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนและสื่อมวลชน
ภาพเหล่านี้ยิ่งทำให้การทำงานในโค้งสุดท้ายเป็นไปอย่างลำบากมากขึ้น
เป็นงานหนักที่ท้าทาย "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งว่าจะสามารถฝ่ากระแสขาลงเพื่อก้าวขึ้นสู่นายกรัฐมนตรีรอบ 2 ได้หรือไม่
เพราะแม้ว่าวางหมากกลไว้ในรัฐธรรมนูญหลายรูปแบบเพื่อปูทางในการสานต่ออำนาจจากการรัฐประสานสู่อำนาจหลังการเลือกตั้ง แต่หมากกลนั้นจะ "เป็นหมัน" หากไม่สามารถพลิกสถานการณ์ “ขาลง" ได้
โดยเฉพาะขาลงเหล่านี้ล้วนมาจากแม่น้ำ 5 สายที่ทำคลอดมากับมือเอง
เรื่องราวในประวัติศาสตร์ทางการเมืองแทบทุกรัฐบาลไม่ว่ามาจากบัตรเลือกตั้งหรือปลายกระบอกปืน มักไปไม่รอด เมื่อคิดริด รอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน เพราะการทำเช่นนั้นคือการ "ทุบกระจก" ที่ต้องระวังไว้ว่า จะบาดมือคนทุบกระจกเอง
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ / หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษกิจ /ฉบับ 3257 ระหว่างวันที่ 30 เม.ย.-3 พ.ค.2560