เอกชนห่วงไตรมาส 3 ส่งออกส่อชะลอ เหตุผู้นำเข้าเร่งสั่งซื้อสินค้าในไตรมาส 2 หวังตุนไว้ใช้ช่วงสถานการณ์โลกไม่มั่นคง คาดส่งผลให้ไตรมาส 2 น่าจะขยายตัว 5% ด้านพาณิชย์ยิ้มส่งออกไตรมาส 1 ขยายตัวถึง4.9% สูงสุดในรอบ 4 ปี
นายนพพร เทพสิทธา รักษาการประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึง ทิศทางการส่งออกไทยของไทยว่า ภาคเอกชนยังมองว่าในครึ่งปีแรกน่าจะขยายตัวได้ดีที่สุดอัตรา5% โดยคาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกจะขยายตัวได้ 2-3% และไตรมาส 2 ขยายตัว 3-4% และทั้งปีนี้น่าจะขยายตัวได้เพียง 2-3% เท่านั้น จากเป้าส่งออกของกระทรวงพาณิชย์ทั้งปีนี้ตั้งไว้ที่ 5%
ทั้งนี้ในไตรมาสที่ 2 มีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ ประกอบกับสหรัฐฯ อาจมีมาตรการกีดกันทางการค้า เช่นมาตรการด้านภาษี และอื่นๆ เพื่อลดการขาดดุลการค้า ซึ่งอาจทำให้เกิดการเร่งนำเข้าสินค้าของผู้นำเข้าจากประเทศต่างๆ ในช่วงไตรมาส 2 โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหารสำเร็จรูป เพื่อป้องกันการขาดแคลนจากสถานการณ์โลกที่ไม่มั่นคง ซึ่งจะทำให้การส่งออกของไทยในไตรมาส 2 ของปีนี้จะขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนส่งออกของไทยในเดือนมีนาคมล่าสุดที่ขยายตัวสูงถึง 9.2% ถือว่าเป็นการขยายตัวเกินความคาดหมายไว้เพราะเดิมคาดว่าน่าจะขยายตัวเพียง 2-3% แต่ปรากฏขยายตัว 9.2% ทำให้คาดการณ์การส่งออกในเดือนเมษายนน่าจะขยายตัวเป็นบวกเช่นกัน
"เดิมเอกชนมองว่าไตรมาส2การส่งออกน่าจะชะลอตัวและจะดีขึ้นในไตรมาส3 แต่จากสถานการณ์ต่าง ๆ ผู้นำเข้าเร่งนำเข้าสินค้าในช่วงไตรมาส2มากขึ้นซึ่งทำให้การส่งออกของไทยในไตรมาส 2 ปีนี้น่าจะขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมา แต่ที่กังวลคือปลายไตรมาส2 ถึงต้นไตรมาส 3ต้องจับตาดูว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือ สถานการณ์ในยุโรปที่ยังไม่มั่นคง รวมไปถึงสิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะดำเนินการด้านการค้าว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นทิศทางไหน ซึ่งไตรมาส 3 การส่งออกไทยน่าจะขยายตัวไม่ถึง 5%"
ทั้งนี้ในไตรมาส3 มองว่ามีความน่าเป็นห่วงและมีความเสี่ยงซึ่งต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการเกิดสงคราม ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ และจากภาวะเศรษฐกิจโลก (ล่าสุดองค์การการค้าโลกได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัว 1.8-3.6% จากเดิมคาดขยายตัว 2.4% ) ซึ่งจะทำให้การค้าโลกชะลอตัวลง
"แนวโน้มราคาน้ำมัน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้น อาจส่งผลต่อต้นทุนการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นความเสี่ยงที่ต้องทำให้ผู้ส่งออกเองต้องทำประกันความเสี่ยงและต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าการส่งออกไตรมาสของ3น่าจะขยายตัวประมาณ3%จากเดิมที่คาดการณ์ว่าน่าจะขยายตัวได้ 4-5%"
ด้านนางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการส่งออกของไทย เดือนมีนาคม 2560 มีมูลค่า 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 9.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ในไตรมาส 1 การส่งออกมีมูลค่า 5.64 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 4.9% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 ปี มีปัจจัยสำคัญจากไทยส่งออกไปจีนและอินเดียขยายตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สินค้าเกษตรส่งออกได้มากขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนและการค้าโลกที่ขยายตัวต่อเนื่องน่าจะทำให้ทิศทางการส่งออกโดยรวมดีขึ้น มั่นใจว่าในปีนี้การส่งออกโดยรวมน่าจะขยายตัวได้ถึง 5% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้คงต้องติดตามความเสี่ยงของสถานการณ์โลก มาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ รวมถึงความตึงเครียดระหว่างเกาหลีเหนือ และสหรัฐฯ
ขณะที่การนำเข้าช่วงไตรมาสที่ 1/2560 มีมูลค่า 5.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 14.8% ซึ่งเป็นการนำเข้าสินค้าทุน และวัตถุดิบ แสดงถึงความมั่นใจ และการลงทุนที่จะมีมากขึ้น โดยไทยยังเกินดุลการค้าในช่วงไตรมาสแรก 4,052.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,256 วันที่ 27 - 29 เมษายน พ.ศ. 2560