นำเข้าแอลพีจีทะลัก1แสนตัน ครึ่งปีหลังแข่งดุ‘สยามแก๊ส-ปตท.’เปิดศึกชิงลูกค้า

22 เม.ย. 2560 | 09:00 น.
ผู้ค้าแห่นำเข้าก๊าซแอลพีจี ปตท. และสยามแก๊ส เปิดศึกชิงลูกค้าในช่วงครึ่งปีหลัง นำเข้าขายในประเทศแตะระดับ 1 แสนตันต่อเดือน “จินตณา”เผยรับความต้องการใช้ทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมเติบโต โดยดึงลูกค้ารายเก่าที่เคยเสียตลาดไปกลับคืน

การที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายเปิดให้มีการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือแอลพีจี ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมา เพื่อนำไปสู่การปล่อยลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจีทั้งระบบ และปลดล็อกการผูกขาดการนำเข้าก๊าซแอลพีจี จากเดิมที่มีเพียงบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายเดียวเท่านั้น กำลังจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการธุรกิจแอลพีจีอีกครั้ง เมื่อผู้ค้าได้หันไปนำเข้าเพื่อมาจำหน่ายในประเทศมากขึ้น

ล่าสุดกรมธุรกิจพลังงาน แจ้งว่าปัจจุบันมีผู้ค้าแอลพจี นำเข้า 3 รายได้แก่ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) มีแผนนำเข้าในช่วงเดือนเมษายน-กันยายน 4.4 หมื่นตันต่อเดือน ยกเว้นเดือนพฤษภาคมนำเข้า 2.2 หมื่นตัน เพื่อจำหน่ายในประเทศ บริษัท ยูนิคแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคลั ส์ จำกัด (มหาชน) มีแผนนำเข้าเดือนเมษายน-มิถุนายน 5 พันตันต่อเดือน และกรกฎาคม-กันยายน 4.5 พันตันต่อเดือน เพื่อการส่งออก ขณะที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นำเข้าเดือนสิงหาคม ปริมาณ 4.4 หมื่นตันต่อเดือน แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 2.2 หมื่นตันต่อเดือน และส่งออก 2.2 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งเท่ากับว่าขณะนี้สงครามการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของผู้ค้าแอลพีจีในประเทศได้เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะการนำเข้ามาราคาถูกกว่าราคาแอลพีจีในประเทศ ที่มีต้นทุนในการดำเนินงานที่ถูกกว่า

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) ในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่องส่งผลให้บริษัทมีแผนที่จะนำ เข้าแอลพีจีตามที่แจ้งกับกรมธุรกิจพลังงานไปแล้ว และในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มปริมาณขึ้นอีก 1 เท่าตัว หรืออยู่ที่ประมาณ 8.8 หมื่นตัน หลังจากที่ได้เริ่มนำเข้ามาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เป็นต้นมาเพื่อป้อนให้กับลูกค้าในประเทศที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดใช้ภาคอุตสาหกรรมเติบโต 10% จากปีก่อนและภาคครัวเรือนเติบโต 5% จากปีก่อนที่ติดลบ

“ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีแผนนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 8.8 หมื่นตันต่อเดือนซึ่งยืนยันว่าไม่ได้แย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้ค้ารายอื่นๆ แต่เป็นการเรียกลูกค้าเก่ากลับคืนมา หลังจากก่อนหน้านี้มีผู้ค้าแอลพีจีรายเก่าและรายใหม่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าของสยามแก๊สลดลง”

ส่วนแผนการลงทุนของบริษัทนั้น จะมีการลงทุนในส่วนของการก่อสร้างคลังเก็บแอลพีจี ที่ถนนสุขสวัสดิ์เพิ่มขึ้นอีก 1 หมื่นตัน จากปัจจุบันเก็บได้ 2 หมื่นตัน คาดว่าแผนขยายคลังแอลพีจีดังกล่าวแล้วเสร็จภายใน 3-5 ปีโดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 5 พันล้านบาท

สำหรับการหาทางออกจากยอดขายแอลพีจีในภาคขนส่งที่ปรับตัวลดลงนั้น ที่ผ่านมาบริษัทจับมือกับบริษัทบางจากฯ เพื่อเปิดหัวจ่ายนํ้ามันในสถานีบริการแอลพีจีของสยามแก๊ส โดยเป้าหมายในปีนี้ 5 แห่ง หลังจากมีสถานีนำร่องแล้วเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา 1 แห่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งผลตอบรับดีมาก มียอดขายนํ้ามันอยู่ที่ 1 ล้านลิตรต่อเดือน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,254 วันที่ 20 - 22 เมษายน พ.ศ. 2560