สงกรานต์คึกคัก! เช่าเหมาลำทะลักไทย 619 ไฟลต์

13 เม.ย. 2560 | 09:45 น.
แอร์ไลน์เฮโลเพิ่มไฟลต์เช่าเหมาลำร่วม 619 เที่ยวบิน รับสงกรานต์ ดอนเมืองฮอตสุด ไทย-เทศทะลักโรงแรมภูเก็ต-พัทยา ตีปีกรับทัวร์จีน ยุโรป รัสเซียเชียงใหม่ทัวร์ไทยคึก หาดใหญ่ ซึมพิษค่าเงินริงกิต

สถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ปีนี้  ภาพรวมถือว่าคึกคักมาก 6 สนามบินหลักของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ช่วงวันที่ 5-18 เมษายนระบุว่า มีสายการบินประจำขอเพิ่มเที่ยวบิน(เอ็กซ์ตร้าไฟลต์) และเปิดให้บริการเช่าเหมาลำรวมกว่า 619 เที่ยวบิน สนามบินดอนเมืองมีการขอเพิ่มเที่ยวบินสูงสุดถึง 251 เที่ยวบิน รองลงมาเป็นสนามบินภูเก็ต 167 เที่ยวบิน สนามบินสุวรรณภูมิ 129 เที่ยวบิน สนามบินหาดใหญ่ 28 เที่ยวบิน สนามบินเชียงใหม่ 24 เที่ยวบิน สนามบินเชียงราย 20 เที่ยวบิน

หากรวมกับเที่ยวบินประจำพบว่าในช่วง 14 วันดังกล่าวจะมีเที่ยวบินรวมกันกว่า 3.23 หมื่นเที่ยวบินเพิ่มขึ้น 7.22% คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการ 5.36 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ 3.83 แสนคน เพิ่มขึ้น 12.05% โดย 3 สนามบินที่มีจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารมากที่สุด ได้แก่ สุวรรณภูมิ เฉลี่ย 972 เที่ยวบินต่อวัน ผู้โดย สารเฉลี่ย 1.84 แสนคนต่อวัน สนามบินดอนเมือง เฉลี่ย 698 เที่ยวบินต่อวัน ผู้โดยสารเฉลี่ย 1.04 แสนคนต่อวันและสนามบินภูเก็ตเฉลี่ย 293 เที่ยวบินต่อวันผู้โดยสารเฉลี่ย 4.6 หมื่นคนต่อวัน

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า
ช่วงสงกรานต์ 14 วัน สนามบินสุวรรณภูมิ จะมีเที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำรวม 129 เที่ยวบิน จาก 6 สายการบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 56 เที่ยวบินและเที่ยวบินภายในประเทศ 73 เที่ยวบิน โดยสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวมากที่สุด 3 อันดับ คือ ไทยสมายล์ 61 เที่ยวบิน
อีสตาร์เจ็ท 28 เที่ยวบิน และเจแปนแอร์ไลน์ส 16 เที่ยวบิน

สำหรับการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมต่างๆ ในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ส่วนใหญ่ เป็นไปอย่างคึกคัก โดยพัทยาและภาคใต้ฝั่งอันดามัน พบว่ามีอัตราการเข้าพักที่สูงมาก ขณะที่เชียงใหม่ ได้ตลาดคนไทย ยกเว้นหาดใหญ่ ซบเซากว่าทุกปี เพราะการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินและปัญหาเศรษฐกิจในประเทศต่อเรื่องนี้

ดร.กฤษฎา ตันสกุล นายกสมาคมโรงแรมไทย ภาคใต้ เผยว่า การท่องเที่ยวของภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน) มียอดจองห้องพักเฉลี่ยกว่า 80-85% แล้ว  ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป รัสเซีย จีน ส่วนคนไทยไม่มากนัก โดยภูเก็ต ถือว่าดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงคริสต์มาส จนถึงสงกรานต์ เนื่องจากปีนี้แนวโน้มตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นเกือบทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นยุโรป รัสเซีย และตลาดจีนเริ่มดีขึ้น จนถึงขณะนี้โรงแรมต่าง ๆ ในภูเก็ตจึงยังไม่ลดราคาค่าห้องพักลง จากปกติจะลดราคาลงตั้งแต่เดือนมีนาคม เนื่องจากเข้าสู่ช่วงโลว์ซีซัน

สอดคล้องกับนายสรรเพชร ศุภบวรเสถียร นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก กล่าวว่า ขณะนี้ยอดจองห้องพักในเมืองพัทยาระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนเกิน 85% เฉพาะวันที่ 14 เมษายนนี้ มียอดจองเข้าพักแล้วกว่า 90% เนื่องจากนักท่องเที่ยวรัสเซีย กลับมาเที่ยวพัทยาเพิ่มขึ้นมาก ตลาดจีน ก็เริ่มเป็นทัวร์ที่ถูกกฎหมายและเดินทางมาเที่ยวช่วงสงกรานต์ด้วย และยังมีตลาดเกาหลีใต้ และอินเดีย  จึงจะเห็นชัดเจนว่าพัทยามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นกว่าสงกรานต์ปีที่ผ่านมา  ส่วนตลาดคนไทย ยังคงมีพฤติกรรมการจองห้องพักแบบนาทีสุดท้ายอยู่

ด้านนางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ กล่าวว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมเชียงใหม่ล่าสุด มีอัตราการเข้าพักมากถึง 85% ถือว่าคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา เป็นคนไทยกว่า 70% อีก 30% เป็นนักท่องเที่ยวจีนและยุโรป  นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรม เชียงใหม่ ไนท์ รันนิ่ง ของกลุ่มสิงห์ในวันที่ 13 เมษายน ผู้เข้าร่วมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนกว่า 1,300 คน กิจกรรมวิ่งฮาล์ฟมาราธอนไทย-จีน 1,100 คนวันที่ 16 เมษายน การจัดงานสงกรานต์แบบวิถีล้านนา “บ้านโบราณเชียงใหม่” ทำให้คึกคักมากกว่าทุกปี

ส่วนนายสมชาติ พิมพ์ธนพูนพร กรรมการผู้จัดการโรงแรมซากุระ แกรนด์วิว กล่าวว่า สงกรานต์หาดใหญ่ปีนี้ถือว่าแย่กว่าทุกปี ขณะนี้มีอัตราการจองเข้าพักที่ราว 70% เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดหลักกว่า 80% ลดลงไปมาก  จากปัญหาเศรษฐกิจของมาเลเซีย ทำให้เงินริงกิตอ่อนค่า ส่งผลให้การแลกเงินบาทได้น้อยลงจากเดิม 100 เหรียญ แลกได้เกือบ 1 หมื่นบาท ตอนนี้แลกได้เพียง กว่า 7,000 บาท

อนึ่ง ททท.คาดว่าระหว่างวันที่ 13-17 เมษายน 2560 ประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 16,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยราว 4.70 แสนคน เพิ่มขึ้น 10% สร้างรายได้ 8.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และไทยเที่ยวไทย อยู่ที่ราว 2.47 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 12% สร้างรายได้ 8.54 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%