ยุทธศาสตร์เชฟโรเลต ปูทางส่วนแบ่งตลาด3%

15 เม.ย. 2560 | 10:00 น.
ก้าวเข้ามารับตำแหน่งหัวเรือใหญ่ค่ายเชฟโรเลตในช่วงไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา สำหรับมิสเตอร์ เวล เอ.ฟาร์กาลี โดยทำการขยับจากประเทศเวียดนามมาสู่ไทย แม้ระยะเวลาที่เข้ามากุมบังเหียนจะยังไม่ถึงปี แต่บทบาทหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมามีการบุกตะลุย ถึงลูกถึงคน มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่างๆมากมาย ซึ่งน่าจับตามองว่าทิศทางและเป้าหมายของเชฟโรเลตในปีนี้และอนาคตจะเป็นอย่างไร คำตอบจะออกมาแนวไหน ...วันนี้ฐานฯยานยนต์มีโอกาสได้สัมภาษณ์

เป้าหมายของเชฟโรเลต
ภายใน 2 - 3 ปี เชฟโรเลตตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 3% จากปีที่ผ่านมาเรามีส่วนแบ่งทางการตลาด 2% ส่วนเป้าหมายยอดขายในปีนี้ เราจะประเมินกันอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมขณะทีปีที่ผ่านมาเชฟโรเลตมียอดขายรวม 1.5 หมื่นคัน

 แผนงานในปี 2560
ในแง่ผลิตภัณฑ์ เชฟโรเลตได้ประกาศยุทธศาสตร์ไปตั้งแต่ปี 2558 ที่จะเน้นตลาดรถปิกอัพ และรถอเนกประสงค์ ผ่านรุ่น โคโลราโด ,เทรลเบลเซอร์ และ แคปติวา เพราะสัดส่วนยอดขายของรถในกลุ่มปิคอัพ ,รถพีพีวี และรถอเนกประสงค์ คิดเป็น 52 % ของตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่ และแม้จะแข่งขันสูง แต่เรามั่นใจเพราะมีแผนงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง

ล่าสุดเราได้เปิดตัว โคโลราโด ไฮคันทรี สตอร์ม ที่ตกแต่งรอบคัน ไม่ว่าจะเป็น สติกเกอร์สีดำบนฝากระโปรงหน้าพร้อมโลโก High Country สติกเกอร์ STORM ตกแต่งด้านข้างตัวรถลายสปอร์ต กระจกมองข้างสีดำ สปอร์ตบาร์สีดำ ล้ออัลลอยสีดำดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กันชนท้ายพร้อมเซ็นเซอร์ถอยหลัง มือจับเปิดประตูและมือจับเปิดฝาท้ายสีดำ รวมถึงเส้นขอบหน้าต่างสีดำ โดยมีให้เลือก 6 สี และมีจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ 2.5L STORM ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ 1.028 ล้านบาท และ รุ่น 2.5L STORM ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 1.098 ล้านบาท

 การบริการหลังการขาย
ปัจจุบันมีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ 100 ราย และแผนงานในปีนี้ยังไม่มีการเพิ่มจำนวน แต่จะมีการปรับปรุงคุณภาพของเครือข่ายที่มีอยู่ ซึ่งบางแห่งหรือบางรายที่ผลงานไม่ดีก็อาจจะมีการสลับสับเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายได้ โดยเป้าหมายของเราคือคุณภาพการบริการที่ได้ใจลูกค้า มีความใส่ใจ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้

 ตลาดส่งออก
โรงงานของเราที่จังหวัดระยอง ผลิตรถยนต์และส่งออกไปคิดเป็นสัดส่วน 60% และขายในประเทศ 40% โดยรถที่ส่งออกไปคือ โคโรลาโด ,เทรลเบลเซอร์ และแคปติวา มีตลาดหลัก อาทิ ออสเตรเลีย ,นิวซีแลนด์,เวียดนาม ,อินโดนีเซีย,ฟิลิปปินส์,มาเลเซีย,แอฟริกาใต้ ,ตะวันออกกลาง ,อเมริกาใต้

 แนวคิดเกี่ยวกับรถไฟฟ้า
เชฟโรเลตในสหรัฐอเมริกามีการผลิตรถไฟฟ้าในรุ่น โวลต์ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือการวิ่งในระยะทางที่ไกล อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดในประเทศไทย เรายังไม่มีความสนใจที่จะทำ แม้ทางภาครัฐจะมีแนวทางสนับสนุนและส่งเสริม

  ประเมินตลาดรถปี 2560
ปีที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ประมาณ 7.7 แสนคัน ส่วนปีนี้อย่างต่ำคาดว่าจะอยู่ที่ 8 แสนคัน โดยมีสัญญาณบวกที่ทำให้ตลาดมีการเติบโต ไม่ว่าจะเป็นจีดีพี ,การกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯผ่านโครงการเมกะโปรเจ็กต์, กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น และการแต่งตั้งในหลวงรัชการที่ 10 ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง คือภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ตรงจุดนี้ต้องดูว่าจะส่งผลอย่างไรกับตลาดในประเทศ แต่เบื้องต้นไม่ได้กระทบกับบริษัทของเรา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,252 วันที่ 13 - 15 เมษายน พ.ศ. 2560