ธุรกิจร้านอาหารชิลี โตสวนเศรษฐกิจ

 

นางอภิรดี  ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงซันติอาโก ประเทศชิลี ว่า แม้ว่าที่ผ่านมาหลายธุรกิจในประเทศชิลีได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจอย่างไรก็ดีกลับพบว่าธุรกิจร้านอาหารในชิลีมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับกระแสเศรษฐกิจ โดยพิจารณาจากรายงานของกรมสรรพากรชิลีที่ระบุว่า ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหารสร้างรายได้ให้   กับประเทศ ประมาณ 4,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 42 ในรอบ 10 ปี นอกจากนี้ยังพบว่าจำนวนภัตตาคารและร้านอาหารในประเทศชิลีเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 37 หรือจาก 29,200 แห่งในปี 2006  เป็นกว่า 40,000 แห่งในปี 2016

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจร้านอาหารในชิลีมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมากจากพฤติกรรมการบริโภคของชาวชิลี เปลี่ยนเป็นนิยมออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านมากขึ้น และ การได้รับอานิสงส์จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในชิลีที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทในชิลีจำนวนมากมีสวัสดิการให้กับพนักงานในรูปแบบการให้คูปองอาหารกลางวันเป็นรายเดือน ซึ่งพนักงานสามารถนำคูปองดังกล่าวไปใช้กับร้านอาหารต่าง ๆ แทนเงินสดได้ จึงทำให้จำนวนผู้ใช้บริการร้านอาหารในมื้อกลางวันขยายตัวเพิ่มขึ้น

จากการเก็บข้อมูลของสภาหอการค้ากรุงซันติอาโกยังพบว่า รูปแบบการให้บริการของร้านอาหารในลักษณะบริการตนเอง (Self Service) และร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด (Fast Food) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น มูลค่าตลาดในปี 2559 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับปี 2558 โดยประเภทอาหารที่ชาวชิลีนิยมมากที่สุดคือ แฮมเบอร์เกอร์ รองลงมาคือ อาหารจีน ที่มีการขยายตัวที่ร้อยละ 2.6 และ 1.2 ตามลำดับ ในส่วนของทิศทางธุรกิจร้านอาหารในปีนี้ (2560) พบว่า ร้านอาหารในรูปแบบให้บริการตนเอง และร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดจะยังคงขยายตัวได้ดี ในขณะที่ร้านอาหารประเภทดั้งเดิมน่าจะขยายตัวในอัตราที่ลดลง