เซ็นทรัลผุดคลังอัจฉริยะ เร่งเครื่อง ‘ค้าออนไลน์’

05 เม.ย. 2560 | 05:00 น.
“เซ็นทรัล” เล็งทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาทสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะ ใช้หุ่นยนต์ช่วยเสริมแกร่งด้านโลจิสติกส์ พร้อมขยายสาขาเพิ่มหวังดันยอดขายกลุ่มซีโอแอลทะลุ 1.2 หมื่นล้านบาท ภายในปีนี้

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ภาพรวมของกลุ่มบริษัทในเครือซีโอแอลในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมทั้งสิ้น 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโต 9% มาจากการปรับตัวและปรับกลยุทธ์ในการบริหารและดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มปริมาณสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าและธุรกิจกลุ่มต่างๆ ส่วนในปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนต่อเนื่องเพื่อสร้างฐานธุรกิจให้แข็งแรงและขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ให้กับกลุ่มเซ็นทรัล โดยมีแผนขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะในแถบเอเชีย โดยจะเปิดร้านออฟฟิตเมทแห่งแรกที่เวียดนาม พร้อมกับใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทในการสร้างคลังสินค้าอัจฉริยะแห่งใหม่ ซึ่งจะนำเทคโลยีหุ่นยนต์และเครื่องจักรอัจฉริยะจากต่างประเทศมาใช้โดยจะเริ่มใช้งานได้จริงในปี 2561 เพื่อเสริมบริการด้านโลจิสติก โดยบริษัทตั้งเป้าที่จะมียอดขาย 1.2 หมื่นล้านบาท เติบโต 10% ในปีนี้ และเติบโต 200% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

ด้านนางสาววิลาวรรณ ฤกษ์เกรียงไกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจออฟฟิศเมท กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทเตรียมสรรหาสินค้าและบริการใหม่ๆ อาทิ กลุ่มสินค้านวัตกรรมทางธุรกิจ เช่น เครื่องบันทึกเงินสด เครื่องพิมพ์และสแกนบาร์โค้ด และเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น เป็นต้น เพื่อเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าสำหรับองค์กรและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังได้ปรับโฉมและรูปลักษณ์ของร้านออฟฟิศเมทให้ทันสมัย น่าเดิน มีการจัดวางสินค้าอย่างเป็นระบบและหมวดหมู่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและความสุขในการเลือกซื้อสินค้า รวมทั้งขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 8 แห่งทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 9 แห่งปรับปรุงสาขา 3 แห่งและเพิ่มบริการ Click and collect ด้วยการสั่งซื้อผ่านทาง www.officemate.co.th และเลือกรับสินค้าที่ร้านออฟฟิศเมทกว่า 40 แห่ง

โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ 7,500 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านบาทภายในปี 2563 ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจยังคงสดใสและเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น 15% จากปีที่ผ่านมา ขณะที่ช่องทางอีคอมเมิร์ซคาดว่าจะเติบโต 50% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีการเติบโตกว่า 30% หลังจากที่ออฟฟิตเมทมีระบบการสั่งซื้อออนไลน์ ทำให้ลูกค้าสะดวกรวดเร็วและมีความเชื่อมั่นในองค์กรมากขึ้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,249 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2560